(23 ก.พ. 67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ นายอันเดรอา มาร์กอน (Mr. Andrea Marcon) กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี เข้าพบเพื่อหารือความคืบหน้าการสถาปนาเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกรุงเทพมหานครและเมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี ณ ห้องอมรพิมาน ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร
การหารือในวันนี้ ได้ผลักดันให้มีการสถาปนาเมืองพี่เมืองน้องระหว่าง กรุงเทพมหานคร และเมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี พร้อมทั้งจัดพิธีลงนามในข้อตกลงการสถาปนาเมืองพี่เมืองน้องของทั้งสองเมือง ณ เมืองเวนิส สาธารณรัฐอิตาลี เนื่องจากกรุงเทพมหานครและเมืองเวนิสเป็นเมืองที่มีลักษณะที่คล้ายกันอยู่หลายอย่าง และประเทศไทยก็เป็นมิตรประเทศที่สำคัญของสาธารณรัฐอิตาลี โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2567
ทั้งนี้ กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเวนิส แจ้งว่า นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส ได้มีหนังสือเชิญ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการเดินทางเยือนเมืองเวนิส เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 700 ปี การจากไปของมาร์โคโปโล พ่อค้าและนักสำรวจอิตาลีผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางสายไหม
สำหรับเมืองเวนิส เป็นเมืองท่าของสาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จประพาสยุโรปทางเรือโดยเทียบท่า ณ ท่าเรือของเมืองนี้ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงโปรดที่จะประพาสเมืองเวนิสอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเมืองเวนิส ยังเป็นเมืองแห่งศิลปะและการท่องเที่ยว โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละประมาณ 18 ล้านคน ซึ่งในปี 2009 และ 2019 เมืองเวนิสได้จัดงาน Venice Biennale และมีการเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ที่หลากหลาย และมีตลาดน้ำอันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคล้าย ๆ ตลาดน้ำในประเทศไทย เมืองเวนิส มีท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล (Venice Marco Polo International Airport) ที่สามารถเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในระยะทาง 2 ชั่วโมง เช่น สนามกีฬาฟุตบอล สนามกีฬาบาสเก็ตบอล เทือกเขาโดโลไมต์ (Dolomite Mountains) เป็นต้น ทั้งนี้ ยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิมาเดินทางยังท่าอากาศยานแห่งนี้
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบ หนังสือ “BANGKOK SHOPHOUSES ตึกแถวกรุงเทพฯ และชีวิตชาวย่าน” จำนวน 2 เล่ม แก่ กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองเวนิส สาธารณรัฐ เพื่อเป็นของที่ระลึก
———-