ผู้นำท้องถิ่นตบเท้าพบ’ภูมิธรรม’ เร่งชดเชยรายได้กว่า3.2หมื่นล. ผลกระทบลดเก็บภาษีที่ดินปี64

‘ชัชชาติ’-ส.สันนิบาตเทศบาลนำทีมตบเท้าพบ’ภูมิธรรม’ จี้เร่งชดเชยรายได้ ท้องถิ่นที่หายไปจากการลดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ปี’64 กว่า 3.2 หมื่นล้าน กทม.มากสุด 1.3 หมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล เลขาธิการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย รับมอบหมายจากนายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และนายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้ายื่นหนังสือต่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อขอความอนุเคราะห์เร่งรัดการชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เป็นจำนวนเงิน 32,326,658,124.85 บาท โดยแบ่งตามประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้ 1.กรุงเทพมหานคร จำนวน 13,702,107,339.35 บาท 2.เมืองพัทยา จำนวน 390,697,590.84 บาท 3.เทศบาลนคร 30 แห่ง จำนวน 3,597,396,707.75 บาท 4.เทศบาลเมือง 194 แห่ง จำนวน 3,798,209,895.99 บาท 5.เทศบาลตำบล 2,242 แห่ง จำนวน 5,222,773,752.27 บาท 6.อบต. 5,272 แห่ง จำนวน 5,615,472,838.65 บาท ทั้งนี้ คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการประชุม ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ได้พิจารณาเรื่องการชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับผล กระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยมีมติเห็นชอบแนวทางการชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อชดเชยรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ตามที่คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพัฒนาการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ

นายวิระศักดิ์กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลให้ลดภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างของท้องถิ่นช่วยเหลือ ผู้ประกอบการ แล้วรัฐบาลจะชดเชยให้กับ ท้องถิ่น เลยมา 4-5 ปีแล้ว รัฐบาลยังนิ่งเฉยจะคืนงบประมาณ ส่งผลให้เงินที่จะนำมาพัฒนาท้องถิ่นไม่มี เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรจะชดเชยงบประมาณที่รัฐบาลได้ให้นโยบายไว้ในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องต่อเนื่อง ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ถือว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพันมันก็ต้องผูกพันไปสู่รัฐบาลอื่น หนี้ของท้องถิ่นตรงนี้ถือว่าเป็นหนี้ผูกพันซึ่งเป็นสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับท้องถิ่นบอกว่าเมื่อลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้งบประมาณของท้องถิ่นมาลดลงในเมื่อเข้าสู่สภาวะปกติ ดังนั้น ทางส่วนกลางก็ต้องคืนงบประมาณตัวนี้มาให้กับท้องถิ่นเพื่อจะได้มีการพัฒนา เพราะว่าท้องถิ่นเองมีกำหนดอยู่แล้วว่าปีหนึ่งๆ มีงบประมาณมาเท่าไหร่ อย่างเช่น อบต.คลองสาม คลองสี่ คลองห้า มีงบประมาณ 100 ล้าน แต่โดนลดลงประมาณ 50 ล้าน ก็จะใช้ 50 ล้านมาตลอดในการบริหารท้องถิ่นขององค์กรนั้นๆ

“เมื่อเข้าสู่สภาวะปกติรัฐบาลเก็บเงินได้เพิ่มขึ้นก็ควรจะคืนอีก 50% ให้กับท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลควรต้องเข้ามาดูแลท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะดูแลเรื่องการกระจายอำนาจ งบประมาณต่างๆ เหล่านี้ไปให้กับท้องถิ่นทั่วประเทศ ดังนั้น เมื่อท้องถิ่นมีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลในการที่ลดภาษีสิ่งปลูกสร้างต้องชดเชยงบประมาณตรงส่วนนี้ให้กับท้องถิ่น” นายวิระศักดิ์กล่าว

 

บรรยายใต้ภาพ

ขอชดเชย

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล เลขาธิการสมาคมสันนิบาตเทศบาลฯ นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลฯ ในฐานะตัวแทนผู้นำท้องถิ่นยื่นหนังสือถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ขอเร่งรัดชดเชยรายได้ที่ หายไปจากการลดจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์

 

 

ที่มา:  นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 15 ก.พ. 2567 (กรอบบ่าย)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200