นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงข้อเสนอในกิจกรรมระดมสมอง “เมืองกรุงฯในอนาคต” จากมุมมองของเด็กและเยาวชน โดยตัวแทนสภา เด็กและเยาวชน จาก 50 เขต ภายในงาน Innovative City For All ตลาดนัดนวัตกรรม 3 มุมเมืองว่า เนื้อหาตัวแทนจากสภาเด็กและเยาวชนนำเสนอมา มีทั้งเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และคมนาคม ซึ่งจะนำไปบรรจุในวาระ สภาเมืองคนรุ่นใหม่ที่จัดทุก 3 เดือน เพื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องรับทราบและนำไปต่อยอด
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า ปีนี้มีการเลือกตั้งประธานสภาเด็กและเยาวชน ระดับเขตเป็นครั้งแรก จำนวน 30 เขต มี ผู้สมัคร 164 คน บางเขตเกือบ 20 คน กำหนดจัดเลือกตั้งออนไลน์วันที่ 16 ก.พ.นี้ โดยเด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี ที่ประสงค์เลือกตั้งสามารถยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD หรือ เว็บไซต์ youthvote67.bangkok.go.th ได้ตั้งแต่วันนี้-15 ก.พ.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนเลือกตั้ง
พร้อมระบุ ข้อดีของการมีสภาเด็กและเยาวชนคือ บางครั้งวาระที่ผู้ใหญ่คิดก็ไม่ตรงกับเด็ก เด็กและเยาวชนก็จะได้พูดในวาระที่ตรงกับบริบทของตัวเองโดยตรง เช่น เรื่องสุขภาพจิต บางครั้งผู้ใหญ่จะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูดคุยเรื่องนี้กับเด็ก เป็นต้น
“ยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเด็กโดยตรง แต่บางครั้งผู้ใหญ่อย่างเราก็หลงลืมไป การมีสภาเด็กและเยาวชน หรือสภาเมืองคนรุ่นใหม่ก็จะช่วยเรื่องนี้ได้”
รองผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวถึง ข้อเสนอ “เมืองกรุงฯในอนาคต” อาทิ ข้อเสนอด้านการศึกษา เช่น ให้มีวิชาทางเลือก, เปลี่ยนระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัย, เพิ่มการรับตรงของมหาวิทยาลัย, การเพิ่มจิต บำบัดในโรงเรียน, การแยกระหว่างเด็กปกติ และเด็กพิเศษ
ข้อเสนอด้านสุขภาพ เช่น ควรมีการแจกผ้าอนามัยฟรีเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน, การใช้สิทธิหรือใช้ประกันได้ในทุกโรงพยาบาล เพื่อลดเวลาและผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น ขณะที่ข้อเสนอด้านคมนาคม ควรออกแบบผังเมืองให้สอดคล้องกับจำนวนรถที่มีมากขึ้น , ปรับราคาค่าขนส่งสาธารณะให้ถูก และข้อเสนอด้านสิ่งแวดล้อม ภาครัฐควรจัดการเรื่องการทิ้งขยะให้จริงจัง ควรมีถังขยะให้มากขึ้น เพิ่มสีถังขยะให้มากขึ้น.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 ก.พ. 2567 (กรอบบ่าย)