นักเรียนแทงกันดับในรร.ดัง’ผู้ว่าฯกทม.’สั่งป้องกันเข้ม

สลด! นร.แทงกันดับ เหตุเกิดคา รร.ดัง ย่านสวนหลวง กทม.ด้านปลัดฯ โร่แสดงความเสียใจ-เยียวยาจิตใจผู้สูญเสีย ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ขณะที่ ผู้ว่าฯ กทม.สั่งคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยสถานศึกษา

เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุนักเรียนใช้อาวุธมีดแทงกันภายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ภายในซอยพัฒนาการ 26 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ซึ่งภายหลังตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพกู้ภัย โดยพบร่างนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ถูกแทงที่คอและที่หน้าท้อง นอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าปฐมพยาบาลอย่างเร่งด่วน

เบื้องต้นจากการสอบถามครู โรงเรียนดังกล่าว ทราบว่าขณะที่นักเรียน กำลังเลิกแถวเคารพธงชาติ ในตอนเช้า ได้มีเด็กนักเรียนใช้มีดปลอกผลไม้ แทงเข้าใส่ที่ท้องและคอของนักเรียนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ขณะนี้ทางกู้ภัย กำลังเข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บก่อนนำส่งโรงพยาบาล

ส่วนนักเรียนที่อยู่ในบริเวณ จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า นักเรียนที่ก่อเหตุ เป็นเด็กพิเศษ ในระหว่างยืนเข้าแถวอยู่นั้น ผู้บาดเจ็บกับผู้ก่อเหตุยืนอยู่ข้างๆ กัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่มีการแหย่กันเล่นตามปกติ ไม่นานผู้ก่อเหตุซึ่งพกมีปอกผลไม้มาที่โรงเรียน ได้ใช้มีดแทงใส่ที่ท้องและคอของผู้บาดเจ็บ

อย่างไรก็ดี ทางกู้ภัยระบุว่า ระหว่าง ที่เข้าช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ถูกแทง ยังคงมีชีพจรอยู่ จึงพยายามห้ามเลือด แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จึงเริ่มทำ CPR รอทีมกู้ชีพกู้ภัยเข้ามาสนับสนุนพาไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็เสียชีวิตลงในที่สุด ส่วนน้องนักเรียนคนก่อเหตุ คาดว่าครูน่าจะคุมตัวเอาไว้แล้ว โดยบาดแผล ถูกแทงที่คอกับท้ายทอยอย่างเดียว ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร 2 แห่ง จึงคาดว่าน่าจะแทงแล้วดึงก่อนจะแทงซ้ำ

ด้าน พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุนักเรียนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตในครั้งนี้ ว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นนักเรียนที่ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 แต่อยู่คนละห้อง สาเหตุของการก่อเหตุคาดว่าเกิดจากการถูกกลั่นแกล้งอย่างต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ จึงมีความคับแค้นใจ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แน่ชัด

พญ.วันทนีย์ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับการประเมินจากครูผู้สอน ทางคุณครูให้ความเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กสมาธิสั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน พร้อมกับผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบว่ามีพฤติกรรมเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ เนื่องจากต้องมีหลักฐานหรือใบรับรองแพทย์ ส่วนนักเรียนที่ถูกทำร้ายได้รับรายงานว่าเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ดี ได้จัดส่งนักจิตวิทยาให้การเยียวยาในเบื้องต้น เนื่องจากนักเรียนอาจเกิดความเครียดจากเหตุดังกล่าวซึ่งอาจจะส่งผลกระทบทั้งร่างกายและจิตใจ

ทั้งนี้ ในนามของกรุงเทพมหานคร ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความสูญเสียดังกล่าว และพร้อมจะเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งทบทวนมาตรการป้องกันเหตุ และสอบสวนหาสาเหตุให้แน่ชัดว่าเด็กนำอาวุธมาจากไหน และต้องเข้มงวดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยรัดกุมยิ่งขึ้น

ส่วน นายภาณุมาศ สุขอัมพร ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงมาตรการป้องกันปัญหาในระยะยาว ว่า อยู่ระหว่างการฝึกอบรมครูในสังกัด กทม. ทุกโรงเรียน ให้เป็นครูสอนเด็กพิเศษ เพื่อให้สามารถมองออกคัดกรองได้ และสามารถดูแลเด็กได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยการฝึกอบรมจะแล้วเสร็จไม่เกินปลายปีนี้

ขณะที่ พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนักเรียนที่ก่อเหตุ เพื่อสอบปากคำพร้อมทีมสหวิชาชีพ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นและพกพา อาวุธมีด ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษนั้น ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุพูดคุยรู้เรื่อง สามารถตอบคำถามได้ตามปกติ คงต้องส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดว่าเข้าข่ายเป็น เด็กพิเศษหรือไม่ ส่วนสาเหตุ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การทำนองว่า มีปัญหาทะเลาะกันแต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร ซึ่งจะต้องสอบถามอย่างละเอียด แต่จากการสอบถามเพื่อนร่วมชั้นทุกคนยืนยันว่าทั้งคู่เล่นกันตามปกติ แต่อาจจะมีการหยอกล้อกันจนเกิดความไม่พอใจจึงก่อเหตุขึ้น

ขณะเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากหลักฐานที่เรามี เด็กนักเรียนผู้ก่อเหตุไม่ใช่เป็น เด็กพิเศษ ไม่ได้เข้าชั้นเรียนเด็กพิเศษ เรื่องนี้ต้องระวังเพราะเรามีเด็กพิเศษในโรงเรียน กทม.หลายคน จะกลายเป็นว่าทุกคนจะกลัวเด็กพิเศษไปหมด อย่าเอาเรื่องนี้เป็นประเด็น รอการสอบสวนให้ชัดเจนก่อน รวมทั้งเรื่อง การบูลลี่ด้วย ส่วนมาตรการรักษาความ ปลอดภัย จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ต้องระวังพิเศษโดยเฉพาะการลอกเลียนแบบ ต้องตรวจอาวุธเข้มข้นขึ้น ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียน รวมทั้งอุปกรณ์ของมีคม กรรไกร มีดทำอาหารต้องเก็บให้เป็นระเบียบ ที่ผ่านมาก็มีการตรวจอยู่ แต่อาจจะไม่ได้ 100% ทุกวัน เพราะว่าเกี่ยวกับเรื่องเวลา เรื่องของสิทธิของนักเรียน ผู้ปกครองก็อาจจะช่วยกันดูด้วย

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 คือการหาข้อมูลให้ชัดเจน ถ้าเกิดเหตุหรือเด็กสังเกตเห็นพฤติกรรมต่างๆ ทำยังไงให้เด็กบอกเรา บอกครู แนะแนว ครูโฮมรูม ให้สังเกตพฤติกรรมผิดปกติเพื่อป้องกัน รวมถึง ผู้ปกครองต้องเล่าให้ฟัง จะได้ช่วยกันแก้ปัญหา ความร่วมมือจากทุกส่วนเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นการเสริมสร้างหลักสูตรให้เด็กด้านจิตใจ ไม่เน้นวิชาการอย่างเดียว ให้เด็กบอกเล่าปัญหาต่างๆ ให้ครูรับฟัง หรือบริบทต่างๆ ของชุมชนในพื้นที่ ซึ่งอาจมี ปัญหาเยาวชนที่มีพฤติกรรมเกเร เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วผู้ปกครองให้ความเห็นที่น่าสนใจ บอกว่าจริงๆ แล้วไม่อยากให้เด็กแต่งชุดไปรเวท เพราะว่าเด็กที่มาโรงเรียน ไม่สามารถแยกกับเด็กที่อยู่นอกโรงเรียนได้ ซึ่งน่าสนใจเป็นมิติหนึ่งที่อาจไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพของเด็ก แต่เป็นเรื่องความปลอดภัย เรื่องนี้จึงต้องประเมินเพื่อดำเนินการ

ทั้งนี้ กทม.ต้องถอดบทเรียนเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา ซึ่งมี 2 ส่วน คือที่มาของอาวุธ เอาเข้ามาโรงเรียนได้อย่างไร อันนี้คงต้องป้องกัน และเรื่องพฤติกรรมเราจะแยกออกมาได้อย่างไร จะดูแลเด็กที่อาจจะมีพฤติกรรมที่ได้รับการบำบัดหรือว่าทำให้ดีขึ้นอย่างไร อันนี้ต้องสร้างความไว้วางใจให้เด็กที่เขากล้ามาเล่าให้เราฟัง สื่อสารกับเรา และสุดท้ายต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง

 

บรรยายใต้ภาพ

ตรวจพื้นที่ : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ ตรวจสอบกรณีเด็กนักเรียนใช้อาวุธมีดแทงเพื่อนเสียชีวิต ที่โรงเรียนย่านพัฒนาการ 26 พร้อมระบุว่า เรื่องมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียนต้องเข้มข้นขึ้น ครูและผู้ปกครองต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก

 



ที่มา:  นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 30 ม.ค. 2567

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200