ที่ศาลาว่าการ กทม.เสาชิงช้าเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า) ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือด้านความปลอดภัยช่วงปีใหม่ ว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. และ รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กำกับดูแลโดยเน้นย้ำตรวจสอบความปลอดภัยสถานบันเทิงขนาดใหญ่ที่เป็นพื้นที่ปิดเสี่ยงต่อการเกิดเหตุ รวมถึงห้ามการจุดพลุ ดอกไม้เพลิงหรือเอฟเฟกต์ต่างๆในการแสดงดนตรี เพราะการจุดพลุเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และไม่รู้ด้วยว่าวัสดุในร้านจะติดหรือไม่ติดไฟ หากติดไฟจะลามเกิดอันตราย ต้องออกประกาศกรุงเทพมหานครห้ามในเรื่องนี้
พ.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า จากที่สำรวจสถานบริการที่มีความเสี่ยงในพื้นที่กรุงเทพฯ รายงานมี 650 แห่งตรงกับข้อมูลทางตำรวจนครบาลโดยเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่และพื้นที่ปิดมีความเสี่ยงเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวังตามที่ผู้ว่าฯสั่งการว่าต้องไม่มีเหตุเกิดซ้ำเหมือนกับ ซานติก้า เมื่อหลายปีก่อน โดยพรุ่งนี้ (20ธ.ค.65) ผู้ว่าฯกทม.จะลงไปดูพื้นที่ด้วยตัวเองตรวจสถานบันเทิงที่ RCA ดูความพร้อมการเตรียมการในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ดูความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมถึงทางตำรวจด้วย โดยกทม.จะเข้าไปดูทุกแห่งพื้นที่เป้าหมายเพื่อป้องกันเรื่องของเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องอาชญากรรมทางตำรวจจะเป็นผู้ดูแล
รศ.ดร.ทวิดา กล่าวว่า ในส่วนของสถานที่จัดงานใหญ่ เช่นที่ลานเซ็นทรัลเวิล์ดต่อเนื่องมาที่ พารากอนสยามสแควร์ และที่ไอคอนสยาม ได้ประสานผู้ประกอบการขอเข้าไปมีส่วนในการบริหารจัดการพื้นที่ โดยขอให้จัดพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ประจำ เข้าออกได้ รวมถึงระบบการสื่อสารในพื้นที่ปิด เพื่อหากเกิดเหตุสามารถจัดการได้ง่าย โดยจะทำแผนปฏิบัติการร่วมกันกับทางตำรวจด้วย อีกส่วนคือความปลอดภัยของบ้านเรือนในช่วงปีใหม่ที่จะมีการเดินทางท่องเที่ยว ทิ้งบ้านไว้ จึงให้สำนักงานเขตร่วมกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยตรวจสอบพื้นที่รกร้างเนื่องจากช่วงนี้อากาศแห้งอาจเกิดเหตุไฟไหม้ได้ รวมถึงรณรงค์ประชาชนตรวจสอบบ้านเรือนก่อนออกเดินทาง ทั้งนี้จะได้ประสานร่วมมือกับทางตำรวจ โครงการฝากบ้านกับตำรวจ ร่วมกันช่วยดูแล เพื่อให้การเฉลิมฉลองและการท่องเที่ยวของประชาชนได้มั่นใจในความปลอดภัย
ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 20 ธ.ค. 2565