กทม.แนะกลุ่มเสี่ยงรับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบในศูนย์บริการสาธารณสุขและ รพ.ในสังกัด
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโควิด 19 และวัคซีนนิวโมคอคคัสในสถานพยาบาลสังกัด กทม. เพื่อป้องกันโรคปอดอักเสบลดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนอ.ได้รณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ ได้แก่ การให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนโควิด 19 และวัคซีนนิวโมคอคคัส (ในเด็ก) เพื่อลดความรุนแรงของโรคปอดบวมแก่ประชาชนในศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. โดยเน้นย้ำให้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงที่จะเกิดปอดอักเสบรุนแรง ได้แก่ เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง โรคไตวาย โรคตับวาย โรคพิษสุราเรื้อรัง รวมถึงกลุ่มที่ได้รับยาภูมิคุ้มกัน เช่น ยารักษามะเร็ง ยารักษาโรคภูมิคุ้มกันตัวเอง ให้เข้ารับบริการวัคซีนดังกล่าว ขณะเดียวกันได้จัดทำแผน พร้อมลงพื้นที่ฉีดวัคซีนโควิด 19 เชิงรุกในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง รวมถึงในสถานที่ดูแล พักฟื้น และช่วยเหลือการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยที่ต้องการพักฟื้นระยะสั้น (Nursing Home) เพื่อลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิต
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม. กล่าวว่า ในส่วนของ สนพ.ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้ารับบริการวัคซีน โดยเปิดให้บริการคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่ในโรงพยาบาล (รพ.) สังกัด กทม. บริการวัคซีนประจำฤดูกาล ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โควิด 19 คอตีบ (dT) บาดทะยัก หัด หัดเยอรมัน เป็นต้น เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคที่มีความจำเป็น โดยเปิดให้บริการในแผนกอายุรกรรมและเป็นไปตามสิทธิของผู้ป่วย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ลดป่วยและลดโรคให้ประชาชน ซึ่งสามารถเข้าถึงวัคซีนตามสิทธิประโยชน์ของตนเอง และเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ใหญ่ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของร่างกายจากการได้รับวัคซีนในวัยเด็กจะลดลงเมื่อสูงวัยขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคนิวโมคอคคัส ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก รวมถึงไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งตับได้ จึงขอแนะนำให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ สนพ.ได้จัดทีมเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยสรุปข้อมูลสถานการณ์รายงานผู้บริหารทุกวัน รวมทั้งสั่งการให้ รพ.ในสังกัดดำเนินการตามแนวทางเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง สามารถติดตามรายละเอียดการให้บริการคลินิกวัคซีนผู้ใหญ่ทั้ง 11 รพ.สังกัด กทม.ได้ที่ https://shorturl.asia/Qs5EL
กทม.ร่วมตั้งจุดบริการดูแลความปลอดภัยอำนวยความสะดวกจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวถึงการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนท.ได้กำหนดแผนการดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.65 – 4 ม.ค.66 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก สถานีตำรวจนครบาล หน่วยงานความมั่นคง อาสาสมัคร หน่วยงานทางการแพทย์ และหน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งจุดบริการประชาชน เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและประชาสัมพันธ์ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง รวมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ แก่ประชาชนที่เดินทางออกจากกรุงเทพฯ และเดินทางกลับ ซึ่งจะตั้งจุดบริการประชาชนในเส้นทางสายหลักและสายรอง หรือเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจรเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ หมอชิต สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน) สายใต้เก่า (ปิ่นเกล้า) และเอกมัย นอกจากนั้น ยังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครฯ ตั้งจุดตรวจในทุกพื้นที่เขต เพื่อดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ ตลอดจนบริเวณสถานที่จัดงานกิจกรรมรื่นเริงที่มีประชาชน หรือนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเตรียมความพร้อมชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อแก้ไขเหตุด่วน หรือสถานการณ์ได้ในทันที
กทม.ตรวจสอบโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตำรวจในซอยลือชา แนะปรับปรุงแบบแปลนที่ว่างหน้าอาคาร
นายจิระเดช กรุณกฤตกุล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม. กล่าวกรณีเครือข่ายชุมชนเขตพญาไทคัดค้านโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ (บ้านหลวง) สำนักงบประมาณ ซอยลือชา เขตพญาไท บนพื้นที่สาธารณประโยชน์ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนย.ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวพบว่า กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง มีหนังสือลงวันที่ 30 สิงหาคม 2565 แจ้งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารบ้านพัก ส่วนกลางตำรวจ (ลือชา) 8 ชั้น ขนาด 42 ครอบครัว และอาคารจอดรถ 4 ชั้น (ระยะที่ 4) ที่แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ โดยการก่อสร้างดังกล่าวได้รับการยกเว้นตามกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ.2550 ต่อมา สนย.ได้มีหนังสือลงวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ถึงผู้บังคับการกองโยธาธิการ เพื่อเสนอแนะให้ปรับปรุงแบบแปลนในส่วนของที่ว่างด้านหน้าอาคารให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นฯ พร้อมทั้งให้แสดงความกว้างของทางสาธารณะ เพื่อประกอบการพิจารณาตามกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นฯ โดยอาคารได้ก่อสร้างถึงช่วงงานเสาเข็มบางส่วนและปัจจุบันได้หยุดการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม สนย.จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป