นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่ากทม. กล่าวถึงนโยบายคืนครูให้นักเรียน ของโรงเรียนในสังกัดกทม.ว่า มีการดำเนินการมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลดภาระด้านงานเอกสารของครู โดยการจ้างพนักงานธุรการมาช่วยใน 2 ส่วน คือ ธุรการกับการเงิน ในส่วนธุรการจะช่วยจัดเตรียมเอกสาร ซึ่งสุดท้ายคนที่เซ็นต้องเป็นข้าราชการหากมีธุรการไม่มีการเงินก็ไม่ครบวงจร เพราะภาระครูก็ยังไม่หมดไป
ดังนั้น จึงต้องจ้างทั้งธุรการและ การเงิน ทั้งนี้ อยู่ระหว่างเร่งให้สำนักงาน ก.ก. จ้างเรื่องการเงินให้ครบด้วย โดยปีงบประมาณที่ผ่านมาจ้างไปแล้ว 371 อัตรา
สำหรับการลดภาระด้านเอกสารในการเรียนการสอน เริ่มทำในโรงเรียนนำร่อง 10 แห่ง พบว่าสามารถลดภาระครูได้ประมาณร้อยละ 70 ยังต้องทำต่อเนื่องเพื่อให้สามารถดำเนินการในทุกโรงเรียน ซึ่งได้ให้สำนักงานเขตเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการให้ เท่ากัน
รองผู้ว่าฯกทม. ยังระบุ เรื่องครูเวรที่เพิ่งประกาศแนวทางไป โดยให้โรงเรียนปฏิบัติระเบียบที่ประกาศออกไป สาระสำคัญคือไม่จำเป็นต้องเข้าเวร หากมีการจ้างเอกชน เช่น รปภ.มาอยู่แล้ว ครูก็ไม่จำเป็นต้องเข้าเวร ดังนั้นแนวทางที่ประกาศไปให้ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากโรงเรียนใดยังไม่มีการจ้าง รปภ. ก็ให้สำนักงานเขตจ้างรปภ.มาเข้าเวร เพื่อให้ครูไม่ต้องมาเข้าเวร ถือว่าเป็นของขวัญให้ครูทุกคน เบื้องต้นคาดว่าจากนี้จะเริ่มเห็นผลตามมา
สำหรับระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ราชการของกรุงเทพ มหานคร พ.ศ. 2566 ในหมวด 1 การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ราชการ ข้อ 10 วรรคท้าย ระบุ ในกรณีที่หน่วยงานหรือส่วนราชการใดได้ทำสัญญาจ้างให้เอกชน หรือหน่วยงานที่รับจ้างดูแลรักษาความปลอดภัย หรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยแล้ว และขอบเขตของสัญญาจ้างดังกล่าวครอบคลุมหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่เวรรักษาความปลอดภัยประจำวันแล้ว จะไม่จัดให้มีเจ้าหน้าที่เวรรักษาความปลอดภัยประจำวันก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากที่ผ่านมาสำนักงานเขตมีการจ้าง รปภ.ในหลายโรงเรียน ภายหลังจากมีระเบียบออกมา การยกเลิกเวรของครูในโรงเรียนสังกัด กทม. จึงให้เป็นการพิจารณาร่วมกันระหว่างโรงเรียนและสำนักงานเขตว่าจะยกเลิกหรือคงต้องมีอยู่.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 24 ม.ค. 2567 (กรอบบ่าย)