กทม.เข้มงวดตรวจสอบสถานประกอบการผลิต-จำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงการประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสถานประกอบการผลิต-จำหน่ายพลุ ดอกไม้เพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุอันตราย หรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนว่า สนอ.ได้ตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเทศกาลลอยกระทงและเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ย.66 กลุ่มจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายในสถานประกอบการ สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สนอ.ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานเขตคลองสามวา สำนักงานเขตบางคอแหลม สถานีดับเพลิงและกู้ภัยพื้นที่ ร่วมกับตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิงที่ได้รับใบอนุญาตตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2561 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เขตคลองสามวา และบริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด เขตบางคอแหลม เพื่อดูแลปกป้องสุขภาพอนามัย ป้องกันอุบัติเหตุ ตลอดจนสร้างเสริมความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
ขณะเดียวกันได้มีหนังสือขอให้สำนักงานเขตตรวจเฝ้าระวังสถานประกอบการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทการผลิต การสะสม การขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิง และกวดขันการลักลอบผลิต สะสม และขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิง รวมทั้งการจำหน่ายพลุ ประทัด โคมลอยในช่วงเทศกาล โดยไม่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับอันตรายจากการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง รวมถึงอันตรายจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง ฯลฯ
ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสถานประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทการผลิต สะสม ขนส่งดอกไม้เพลิง หรือสารเคมีอันเป็นส่วนประกอบในการผลิตดอกไม้เพลิง จำนวน 3 แห่ง และได้รับใบอนุญาตจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จำนวน 6 แห่ง จากการตรวจสอบสถานประกอบการประเภทดังกล่าวเมื่อเดือน ส.ค.66 โดย สนอ. สำนักงานเขต และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) พบว่า สถานประกอบการบริษัท หะรินพาณิชย์ จำกัด เขตบางคอแหลม บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด เขตคลองสามวา และห้างหุ้นส่วนจำกัด มิสทีน บีบี ชอพ เขตสะพานสูง มีการสะสมพลุ ดอกไม้เพลิง ณ ที่ทำการค้า โดยดำเนินการอย่างถูกสุขลักษณะและปลอดภัย ขณะที่สถานประกอบการอื่นมีการถือครองใบอนุญาตไว้ แต่ไม่มีการสะสมพลุ ดอกไม้เพลิงแล้ว ทั้งนี้ กทม.ได้พัฒนาฐานข้อมูลดิจิทัลพื้นที่จุดเสี่ยงภัย (BKK Risk Map) ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง (สวพ.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก และมี สนอ.เป็นหน่วยงานสนับสนุน โดย สนอ.ได้จัดส่งข้อมูลสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การบรรจุ การขนส่งและการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายให้กับ สวพ. เพื่อลงระบบฐานข้อมูลดิจิทัลพื้นที่จุดเสี่ยงภัย (BKK Risk Map) โดยแผนที่เสี่ยงภัยสารเคมี ประกอบด้วย ข้อมูลสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีและวัตถุอันตราย จำนวน 544 แห่ง และอยู่ระหว่างนำส่งข้อมูลสถานประกอบการดังกล่าวเพิ่มอีก จำนวน 4,313 แห่ง ข้อมูลร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม จำนวน 384 แห่ง ข้อมูลสถานประกอบการสะสมพลุ ดอกไม้เพลิง จำนวน 7 แห่ง และข้อมูลสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงภัยด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายระดับสูง จำนวน 40 แห่ง
เขตบางกอกใหญ่ติดตั้งกระจกโค้งจราจร เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่-ช่วยลดอุบัติเหตุแก่ผู้สัญจร
นายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการเปลี่ยนกระจกโค้งจราจรที่ชำรุดและเสื่อมสภาพ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่กลุ่มงานระบายน้ำ ฝ่ายโยธา เปลี่ยนและติดตั้งกระจกโค้งจราจรในพื้นที่ 2 จุด ประกอบด้วย บริเวณภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 2 (ศูนย์เยาวชนบางกอกใหญ่) และบริเวณภายในซอยเพชรเกษม 4 แยก 3 (ซอยโรงเหล็ก) เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นและช่วยลดการเกิดลดอุบัติเหตุให้แก่ประชาชนที่สัญจรในบริเวณดังกล่าว
เขตปทุมวันประสาน สน.ปทุมวันเข้มงวดตรวจสอบนักเรียนรวมกลุ่มมั่วสุมบริเวณอุทยาน 100 ปี
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนพบเด็กนักเรียนรวมตัวมั่วสุมที่อุทยาน 100 ปี ข้างศูนย์การค้าแอมพาร์ค ถนนบรรทัดทองว่า สำนักงานเขตปทุมวัน ได้ประสานความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไม่พบกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนสังกัด กทม.แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้กำชับโรงเรียนสังกัด กทม.ในพื้นที่ให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันตรวจสอบพื้นที่สาธารณะ เพื่อป้องกันปัญหาการมั่วสุมและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์การป้องกันเฝ้าระวังพฤติกรรมของนักเรียนโรงเรียนในสังกัด กทม.โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาควบคุมความประพฤตินักเรียนไม่ให้มั่วสุมภายนอกสถานศึกษา ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบี่ยงเบนต่าง ๆ ให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมโดยการใช้กิจกรรมกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ขณะเดียวกันได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเกี่ยวกับการป้องกันและเฝ้าระวังปัญหาสารเสพติดผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เสียงตามสาย เว็บไซต์โรงเรียนให้ความรู้ถึงโทษและพิษภัยจากยาเสพติดและพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งขยายช่องทางสื่อสาร เพื่อสร้างการรับรู้ รณรงค์ ประชาสัมพันธ์การป้องกันและเฝ้าระวังไปยังเครือข่ายบุคคล เช่น เครือข่ายนักเรียน เครือข่ายครู เครือข่ายผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา และเครือข่ายชุมชน เป็นต้น