กทม.เตรียมพร้อมระบบเฝ้าระวังควบคุมการแพร่ระบาดโรคระบบทางเดินหายใจ แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนโควิด 19
นางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ (สนพ.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สายพันธุ์ JN.1 ซึ่งคาดจะมีการแพร่ระบาดมากขึ้นหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า สนพ.ได้วางมาตรการเชิงรุกเตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยโควิด 19 โดยจัดเตรียมเตียงดูแลผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งจำนวนเตียงในปัจจุบันเป็นจำนวนที่ยังไม่ได้ขยายจำนวนเตียง หากมีผู้ป่วยมากขึ้นสามารถขยายจำนวนเตียงได้ เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยที่จะเข้ามารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลสังกัด กทม. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง อีกทั้ง กทม.ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี รวมทั้งเตรียมพร้อมระบบเฝ้าระวัง ติดตาม ประเมินสถานการณ์ และควบคุมการแพร่ระบาดโรคระบบทางเดินหายใจ อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อไวรัส RSV โรคโควิด 19 โรคปอดบวม หรือปอดอักเสบ รวมถึงวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางการรักษาของโรค จัดการสำรองยาให้เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วย จัดเตรียมวัคซีนป้องกันควบคุมโรคตามฤดูกาล ได้แก่ โรคหัด โรคไข้หวัดใหญ่ โรคโควิด 19 และโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจากเชื้อไวรัสให้ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง พร้อมจัดเตรียมเวชภัณฑ์สำหรับป้องกันและรักษาโรค ตั้งจุดคัดกรองด้านหน้าทางเข้าโรงพยาบาล ตรวจวัดอุณหภูมิ จัดจุดบริการเจลล้างมือให้ประชาชนที่มารับบริการที่โรงพยาบาล ขณะเดียวกันได้มอบหมายกลุ่มงานอนามัยชุมชนของโรงพยาบาลในสังกัดให้บริการเชิงรุกในการให้ความรู้แก่ประชาชนที่มารับบริการและประชาชนในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงให้ตระหนักถึงการดูแลและป้องกันโรคโควิด 19 และรณรงค์เชิญชวนให้รับวัคซีนโควิด 19 โดยฉีดปีละ 1 เข็ม
นอกจากนั้น ได้เน้นย้ำสื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งขอให้ทุกคนไปรับวัคซีนโควิด 19 ประจำปี (Annual Vaccination) ซึ่งเริ่มฉีดในปี 2566 เป็นปีแรก ฉีดปีละ 1 เข็ม โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ประชาชนกลุ่ม 608 กลุ่มคนที่ทำงานกับผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยง และเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ควรฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นระยะห่างจากเข็มสุดท้าย หรือประวัติการติดเชื้อครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 3 เดือน ส่วนบุคคลทั่วไปสามารถรับวัคซีนประจำปีได้เช่นเดียวกันตามความสมัครใจ สามารถรับบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 เบิกจ่ายตามสิทธิการรักษา ณ สถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนด โดยติดต่อสอบถามได้ที่คลินิกวัคซีนผู้ใหญ่ ในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทั้งนี้ สามารถพบแพทย์ผ่าน Telemedicine แอปพลิเคชัน “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนสุขภาพ สนพ.กทม.โทร.1646 ตลอด 24 ชั่วโมง
กทม.เข้มจัดระเบียบผู้ค้าบนทางเท้า ถ.ตะนาว-ถ.ดินสอ พร้อมประสาน สน.กวดขันบุคคลภายนอกเรียกเก็บค่าจอดรถ
นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ร้านค้าตั้งโต๊ะเก้าอี้กีดขวางทางเท้าบริเวณโดยรอบศาลเจ้าพ่อเสือและศาลาว่าการ กทม. 1 เสาชิงช้า รวมทั้งมีการเรียกเก็บค่าจอดรถในพื้นที่สาธารณะว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจสอบและเร่งจัดระเบียบผู้ค้าตั้งวางโต๊ะเก้าอี้และอุปกรณ์ทำการค้าบริเวณถนนตะนาว ถนนดินสอ โดยรอบศาลเจ้าพ่อเสือ และศาลาว่าการ กทม. 1 เสาชิงช้า รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันจัดระเบียบผู้ค้าบนทางเท้าในพื้นที่เขตพระนคร เพื่อคืนทางเท้าและสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการสัญจร นอกจากนั้น ได้ประชาสัมพันธ์ผู้ค้าไม่ให้ตั้งวางสิ่งของบนทางเท้าและให้ช่วยกันรักษาความสะอาด เบื้องต้นได้แจ้งเจ้าของร้านให้เก็บโต๊ะและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ตามระเบียบและข้อบังคับของ กทม.ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีผู้ฝ่าฝืนตั้งวางแผงค้ากีดขวางการสัญจรของประชาชนต่อไป
นายอนุชิต พิพิธกุล รองผู้อำนวยการสำนักการคลัง (สนค.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการคลัง กทม.กล่าวว่า กรณีมีการเรียกเก็บค่าจอดรถในพื้นที่สาธารณะบริเวณถนนตะนาว ถนนดินสอ โดยรอบศาลเจ้าพ่อเสือ และศาลาว่าการ กทม. 1 เสาชิงช้า สนค.ได้ดำเนินการจัดระเบียบและจัดเก็บค่าธรรมเนียมจอดรถ ตามข้อบัญญัติ กทม.เรื่อง การจัดระเบียบการจอดรถ พ.ศ.2564 ช่วงเวลาปฏิบัติงานระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น. ซึ่งสอดคล้องกับประกาศเจ้าพนักงานตำรวจจราจร เรื่อง กำหนดช่วงเวลาห้ามจอดรถในถนนแต่ละสาย และมีการให้ตั๋วอนุญาตจอดรถทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนที่ถูกต้อง แต่งกายชุดเครื่องแบบสีกากี ติดป้ายแสดงตัวตลอดเวลา และให้ตั๋วอนุญาตจอดรถตามบัญชีกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมจอดรถท้ายข้อบัญญัติการจัดระเบียบการจอดรถฯ
ส่วนกรณีมีบุคคลภายนอกเรียกเก็บค่าจอดรถในพื้นที่สาธารณะโดยไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย สนค.จะประสานสำนักงานเขตพระนครขอความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ท้องที่ เพื่อกวดขันให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวผ่านระบบ Traffy Fondue ซึ่งได้ส่งเรื่องให้ สน.ท้องที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดย สน.ท้องที่ขอให้ผู้ร้องเข้ามาลงบันทึกประจำวัน หรือแจ้งความที่สถานีตำรวจ ในฐานะผู้เสียหายโดยตรง
กทม.จัดชุดเฉพาะกิจตรวจสอบกวดขันห้ามใช้รถยนต์ควันดำ ลดฝุ่น PM2.5
นายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม.กล่าวถึงการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองจากการจราจรและการขนส่งว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักเทศกิจ ได้จัดชุดสายตรวจพร้อมทั้งประสานฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ออกตรวจตราดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะเดียวกันได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน และห้ามใช้รถยนต์ควันดำในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะ รวมทั้งสนับสนุนการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์/เครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนั้น ยังได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ไม่ให้เผาขยะในที่โล่ง รวมถึงกำชับพนักงานขับรถบรรทุกและบุคลากรในสังกัดให้หมั่นดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์ หรือกรณีที่ต้องบรรทุกวัสดุที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง ต้องระมัดระวังและจัดให้มีวัสดุป้องกันสิ่งที่บรรทุกไม่ให้ตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้งกระจายบนถนนในระหว่างที่ใช้รถ อีกทั้งต้องนำรถส่วนกลางเข้าตรวจควันดำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้รถส่วนกลางก่อให้เกิดควันดำ สร้างปัญหาฝุ่น PM2.5 ขณะเดียวกันได้ตั้งจุดตรวจกวดขันรถบรรทุกดิน หรือวัสดุอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง และรถบรรทุกที่เข้า-ออกบริเวณสถานที่ก่อสร้างต้องป้องกันไม่ให้วัสดุที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ปลิวฟุ้งกระจาย และล้างทำความสะอาดล้อรถบรรทุกก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้างทุกครั้ง
เขตพระนครแจงเปิดประตูรั้วเหล็กรอบสนามหลวงตั้งแต่ 05.00 – 22.00 น.เตรียมติดป้ายแนะนำเส้นทางเดิน
นายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์ตั้งข้อสังเกตทางเท้ารอบสนามหลวงไม่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่สัญจรว่า ท้องสนามหลวงเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยพื้นที่ท้องสนามหลวงเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายโดยไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่นเกินสมควร ซึ่ง กทม.ได้ปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง เมื่อปี พ.ศ.2553 เนื่องจากมีความไม่เรียบร้อย มีบุคคลไร้บ้านเข้ามาอาศัยหลับนอนในพื้นที่สนามหลวงจนเป็นแหล่งเสื่อมโทรมและเกิดปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ กทม.จึงได้ติดตั้งรั้วเหล็กล้อมรอบสนามหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนโดยเปิดประตูรอบสนามหลวง จำนวน 12 ประตู ครอบคลุมพื้นที่รอบสนามหลวง เช่น บริเวณป้ายรถประจำทาง หรือจุดข้ามทางม้าลายไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ รอบสนามหลวง ประชาชนสามารถใช้สัญจรผ่านภายในรั้วสนามหลวงได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยเปิดตั้งแต่เวลา 05.00 – 22.00 น. อย่างไรก็ตาม กรณีประชาชนเกรงว่า เข้าไปในสนามหลวงแล้วจะหาทางออกไม่ได้ สำนักงานเขตฯ จะประสานสำนักการจราจรและขนส่ง กทม.จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทาง ตำแหน่ง และทิศทางการเดินในสนามหลวงติดไว้ทุกประตูที่เปิดใช้งาน เพื่อประชาชนทราบทิศทางการสัญจรต่อไป
กทม.เร่งสำรวจตรวจสอบฝาท่อระบายน้ำในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุพลัดตกท่อ
นางปาณิสรา เนตรธารธร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีฝาท่อระบายน้ำบริเวณหน้าร้านซักอบรีด ถนนเพชรเกษม ใกล้กับสี่แยกท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ แตกหัก ทำให้พลัดตกลงไปในท่อว่า สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ได้ติดตามอาการบาดเจ็บและจัดกระเช้าเข้าเยี่ยมแสดงความเสียใจ รวมทั้งให้กำลังใจผู้ประสบเหตุทันทีที่บ้าน หลังจากได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและแพทย์ให้กลับบ้านได้ในวันเดียวกัน พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อวางแนวทางไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก
นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ยังได้ประสานสำนักการระบายน้ำ (สนน.) เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บและเยียวยาอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 15 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. พร้อมทั้งเข้าดำเนินการเปลี่ยนฝาท่อใหม่บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อมิให้เกิดเหตุซ้ำ ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้มีหนังสือแจ้ง สนน.ให้สำรวจและตรวจสอบฝาบ่อพักท่อระบายน้ำในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สนน.ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ จะสำรวจและตรวจสอบฝาบ่อพักท่อระบายน้ำที่รับผิดชอบให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ต่อไป