กทม.2 ดินแดง – เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงการ จัดทำร่างผังเมืองรวม กรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4) ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้นายทุนว่าการกล่าวว่าผังเมืองดังกล่าวจัดทำเพื่อเอื้อนายทุน เป็นการสร้างวาทกรรม ที่ทำให้เกิดความแตกแยก จึงขออย่าใช้คำนี้ เนื่องจากผังเมือง  ที่ใช้ในปัจจุบันมีการใช้งานมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดสีแดงที่มี การตั้งข้อสังเกตกัน ไม่ได้เกิดขึ้นในการจัดทำร่างผังเมือง ในครั้งนี้แต่มีการพัฒนากันต่อมาจนถึงปัจจุบันแม้กทม. จะมีการเพิ่มเติม แต่นักผังเมืองต้องสามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ว่าเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนสีผังเมืองเพิ่มขึ้น” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า กทม.ยินดีรับฟังด้วยเหตุผล และขยายเวลารับฟังความคิดเห็นออกไปถึงปลายเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งพ.ร.บ.ร่างผังเมือง กทม. ปี 2562 สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ออกข้อกำหนด มีอยู่ 18-23 ขั้นตอน ซึ่งดำเนินการถึงขั้นตอนที่ 4-5 เท่านั้น ยังมีกระบวนการอีกไกล แสดงความคิดเห็น คัดค้าน แจ้งเพิ่มเติมได้ บางอย่างอาจมีความเข้าใจผิด เช่น เรื่องการกำหนดเขตทางคือ กำหนดไว้เพื่อให้การก่อสร้างโครงการต่างๆ ในอนาคต เช่น ตึก อาคารในอนาคต จึงเว้นพื้นที่ไว้สำหรับขยายถนนให้กว้างขึ้น เพื่อให้เมืองดูโล่ง ไม่แออัด โดยนำแนวคิดดังกล่าวมาจากต่างประเทศ

“ผังเมืองที่เห็นในวันนี้ มีการทำมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2542 โดยเฉพาะจุดสีแดง และปัญหาหลายจุดที่มีมาต่อเนื่องกัน กทม.พยายามทำให้เหมาะสมสภาพปัจจุบันมากขึ้น หาก ไม่ถูกใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ กทม.ยินดีรับฟัง แต่ขออย่าใช้คำว่าผังเมืองเอื้อนายทุน เพราะผู้ที่มีบุญคุณกับเรา คือประชาชน ไม่ใช่นายทุน เราอยู่ตรงนี้ได้เพราะประชาชนเลือกมา เราอยากเห็นประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นาย ชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องที่น่าสนใจของ พ.ร.บ.ผังเมือง ปี 2562 คือ เมื่อกระบวนการร่างผังเมืองดำเนินการแล้วเสร็จผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการต่างๆ จนถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยแล้ว ระหว่างออกให้ท้องถิ่นข้อบัญญัติผ่านสภากทม. หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จึงสงสัยว่า ต้องย้อนกลับไปสู่กระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจ กทม. จึงขอฝากให้ผู้เกี่ยวข้องศึกษาอ่านรายละเอียด พ.ร.บ.นี้ให้ชัดเจน

ที่มา:  นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 11 ม.ค. 2567