กทม.ลุยจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ปี’67 ยุบ/เลิกอีก 110 จุด พร้อมกำหนดเกณฑ์ใหม่สอดคล้องเมือง ยกระดับ ผู้ค้า พัฒนาสินค้า-บริการ
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร กล่าวถึงแผนดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2567 ว่า กรุงเทพมหานคร กำหนดเป้าหมายหรือแผนงานดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้า แผงลอย โดยสำรวจจุดทำการค้าที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน การจราจร หรือในจุดที่มีผู้ค้าน้อยราย เพื่อดำเนินการยุบ/เลิก จำนวน 110 จุด ผู้ค้ารวม 1,351 ราย ประกอบด้วย กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง 37 จุด ผู้ค้า 626 ราย กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 9 จุด ผู้ค้า 157 ราย กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ 20 จุด ผู้ค้า 166 ราย กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก 14 จุด ผู้ค้า 123 ราย กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 16 จุด ผู้ค้า 150 ราย และ กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 14 จุด ผู้ค้า 129 ราย
พร้อมทั้ง พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอยให้สอดคล้องกับบริบทของเมืองกรุงเทพฯ ด้านกายภาพ 1.พื้นที่ทำการค้าต้องมีพื้นที่ว่างสำหรับทางประชาชนไม่น้อยกว่า 2 เมตร 2.การพิจารณาจุดทำการค้า ในถนนสายรอง ต้องมีทางเดินสำหรับประชาชนสัญจร ไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร 3.ขนาดแผงค้าต้องไม่เกิน 3 ตร.ม. สำหรับถนนที่มีทางเท้ากว้างไม่น้อยกว่า 4 เมตร, ด้านคุณสมบัติผู้ค้าต้องเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและต้องเป็นผู้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย นอกจากนี้ ยกระดับ ผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยโดยประสานสถาบันการเงิน สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเป็นทุนประกอบอาชีพ, ฝึกอบรมเพิ่มทักษะการค้าขายออนไลน์ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ พร้อมทั้ง จัดทำระบบตรวจสอบยืนยันผู้ทำการค้า (QR CODE) / การยกเลิกสิทธิ์ผู้ค้าที่ไม่ได้ทำการค้าจริง หรือให้บุคคลอื่น เช่า เซ้ง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เร่งรัดดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยริมทางเท้าสาธารณะให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยทุกจุด โดยกำหนด มาตรการ คือ ไม่เพิ่มจุดและจำนวนผู้ค้าที่ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้ว กรณีจุดทำการค้าใดที่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก เช่น ถนนสีลม อังรีดูนังต์ เพลินจิต สุขุมวิท พหลโยธิน ลาดพร้าว รามคำแหง ทองหล่อ ได้ขอความร่วมมือให้เคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในที่เอกชน หรือราชการ รัฐวิสาหกิจ โดย กทม.เป็นผู้จัดหาที่รองรับให้พร้อมเจรจาต่อรองราคาค่าเช่าแผงค้าที่เป็นธรรม ส่วนจุดที่มีผู้ค้าน้อยรายให้ไปรวมกับจุดใกล้เคียง เพื่อลดจำนวนแผงค้ามิให้ตั้งวางกระจัดกระจาย กีดขวางทางสัญจรของผู้ใช้ทางเท้ามากเกินไป ในส่วนจุดอื่นที่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกไปได้ก็ได้ เร่งรัดจัดระเบียบให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เช่น ปรับเปลี่ยนแผงค้า ร่มบังแดด ผ้าบังแดด จัดทำแผงกั้น ด้านหน้าและหลังแผงค้า ลดขนาดแผงค้าให้ได้เท่าที่เกณฑ์กำหนด รวมทั้งขีดสี ตีเส้น กำหนดขอบเขต การตั้งวางแผงค้าให้ชัดเจน มิให้รุกล้ำกีดขวางช่องทางสำหรับผู้ใช้ทางเท้า เช่น จุดทำการค้าพาหุรัด เขตพระนคร, ซอยรางน้ำ และเชิงสะพานหัวช้าง เขตราชเทวี, หน้าอาคารโรเล็กซ์ เขตปทุมวัน, หน้าบิ๊กซีบางนา เขตบางนา, หน้าห้าง Union Mall เขตจตุจักร, หน้าตลาดบัว เขตลาดพร้าว, ถนนพระราม 3 หน้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา เขตยานนาวา ซึ่งการดำเนินการ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ระดับเขตและระดับกรุงเทพมหานคร
“เรื่องจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย คำว่า จัดระเบียบ หมายความว่า กทม.ไม่ได้ห้ามขาย แต่ต้องการให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้งหมด ที่ผ่านมาจะเข้มงวดกับจุดที่มีทางเท้าแคบจริงๆ หากปล่อยให้มีหาบเร่แผงลอยเข้าไปขาย ก็ยิ่งทำให้ทางเดินแคบลงมาก ส่งผลกระทบต่อคนเดิน จึงต้องจัดระเบียบหรือยกเลิกในบางจุด หากพื้นที่ใดคนเดินได้สะดวกปลอดภัยก็สามารถค้าขายได้ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้จัดระเบียบ จุดผ่อนผัน 95 จุด ผู้ค้า 5,233 ราย ส่วนนอก จุดผ่อนผัน 544 จุด ผู้ค้า 13,210 ราย ได้ยุบ/เลิก 105 จุด, ควบรวม 50 จุด และ ย้ายเข้าที่เอกชน 36 จุด โดยทำภายใต้หลักการเน้นสร้างความเข้าใจ คือ กทม.อยากให้ทุกฝ่ายอยู่บนพื้นที่เดียวกันได้ โดยยึดผลประโยชน์ของคนเดินเท้าเป็นหลัก เพราะทางเท้าเป็นพื้นที่สาธารณะ” นายจักกพันธุ์ กล่าว
สำหรับปัญหาหาบเร่แผงลอยต่างชาติ ในส่วนของการทำการค้าของผู้ค้าสัญชาติต่างชาติ กรุงทพมหานครไม่อนุญาตให้ทำการค้าขาย เนื่องจากเป็นความผิดตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของ บ้านเมือง พ.ศ.2535 ได้กำชับเขตออกตรวจตรา พร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจท้องที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค.2567 เวลา 07.30 น. นายจักกพันธุ์ พร้อมด้วย นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกทม. ลงพื้นที่ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าและยกเลิกพื้นที่ทำการค้าบริเวณตลาดโรเล็กซ์ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย สอดคล้องกับโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนสวย บริเวณถนนวิทยุ ซึ่งตลาดโรเล็กซ์เป็นพื้นที่ทำการค้ารอประกาศจากกรุงเทพมหานคร มีผู้ค้า 20 ราย ที่ผ่านมาเขตได้นัดประชุมทำความเข้าใจกับผู้ค้าให้เห็นถึงความสำคัญของส่วนรวมในการจัดระเบียบพื้นที่คืนทางเท้าให้ประชาชน รวมถึงเป็นไปตามการปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการถนนสวย บริเวณถนนวิทยุ ซึ่งผู้ค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยได้ย้ายเข้ามาทำการค้าบริเวณอาคารด้านใน ซึ่งเป็นพื้นที่ของเอกชนจัดเก็บค่าเช่าในอัตราที่เจ้าของพื้นที่กำหนด บางส่วนย้ายไปทำการค้าในตลาดนัดอื่นๆ
ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯกทม. ได้มอบหมายให้เขต ดูแลความเป็นระเบียบพื้นที่ทำการค้าในจุดอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ขอความร่วมมือผู้ค้าให้จัดเก็บอุปกรณ์ทำการค้าและล้างทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าในแต่ละวัน กวดขันผู้ค้าไม่ให้ตั้งวางสินค้ารุกล้ำทางเท้าหรือเกินแนวเส้นที่กำหนดไว้ รวมถึงพิจารณายกเลิกจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย โดยให้มาทำการค้าในจุดที่เขตจัดเตรียมไว้รองรับ เพื่อให้ผู้ค้าและประชาชนสามารถใช้พื้นที่ทางเท้าร่วมกันได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 3 ม.ค. 2567
