“ชัชชาติ” ลงนามในประกาศกทม.แล้ว วันที่ 2 ม.ค. 67 เริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 อัตรา 15 บาท พร้อมกันทั้ง 2 ช่วง ฟาก BTS ปรับซอฟต์แวร์รอเรียบร้อย พร้อมจัดเก็บค่าโดยสารได้ตามกำหนดทันที
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร กำหนดอัตราค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ทั้ง 2 ช่วง ในอัตรา 15 บาท ตลอดสาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดว่า เนื่องด้วย กทม.มีนโยบายจะจัดเก็บค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในอัตราคงที่ 15 บาทตลอดสาย อาศัยอำนาจตามข้อ 4 แห่งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าบริการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552 จึงขอประกาศ ดังนี้
1. ยกเลิกประกาศกรุงเทพมหานคร จำนวน 2 ฉบับ คือ ประกาศกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และประกาศกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง การกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
2. ให้จัดเก็บค่าโดยสารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครสายสีเขียว 15 บาท ทั้ง 2 โครงการ ดังนี้ 2.1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ (ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท) ระยะทาง 12.80 กิโลเมตร (กม.) จำนวน 9 สถานี จากสถานีสำโรง (E15) ถึงสถานีเคหะสมุทรปราการ (E23) 2.2 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (จากสถานีห้าแยกลาดพร้าว (N9) ถึงสถานีคูคต (N24)) ระยะทาง 18.40 กม. จำนวน 16 สถานี สำหรับกรณีเดินทางข้ามระบบส่วนต่อขยายที่ 1 กับเส้นทางต่อขยายทั้ง 2 ช่วง จะไม่คิดค่าโดยสารเพิ่มแต่อย่างใด
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า BTS ได้รับหนังสือแจ้งจาก กทม.อย่างเป็นทางการแล้ว และได้ทำการปรับระบบซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการจัดเก็บค่าโดยสารไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะ กทม.ได้แจ้งล่วงหน้าทางวาจาไว้ว่าจะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ภายในเดือนมกราคม 2567 BTS จึงได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ และทำการประชา สัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ ให้ผู้โดยสารได้รับทราบเท่านั้น
ทั้งนี้ BTS ให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 ในรูปแบบ กทม.จ้างวิ่งบริการ มิใช่ส่วนแบ่งรายได้ ดังนั้น BTS จึงมีหน้าที่จัดเก็บรายได้และนำส่งให้ กทม. จากนั้น กทม.จะชำระค่าจ้างให้ BTS ตามสัญญา ซึ่งยอมรับว่ารายได้ที่ กทม.จะได้รับจากการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 นั้น ไม่เพียงพอที่จะนำมาชำระค่าจ้างแก่ BTS แต่ก็ยังดีกว่าไม่จัดเก็บค่าโดยสารเลย เพราะอย่างน้อยจะทำให้ กทม.มีรายได้ เนื่องจาก 2 สายทางนี้ให้บริการฟรีมาหลายปีแล้ว โดยช่วงแบริ่ง–สมุทรปราการ เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563
สำหรับความคืบหน้าปัญหาหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่าง กทม.กับ BTS โดยเฉพาะหนี้ค่าจ้างการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ (E&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ประมาณ 20,000 ล้านบาท ที่ กทม.เคยระบุว่าน่าจะชำระได้ก่อนหนี้ก้อนอื่น ๆ นั้น ขณะนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการของ กทม.ที่จะเสนอเรื่องไปตามขั้นตอนตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม
ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 28 ธ.ค. 2566
