พัฒนาสวนน้ำคันนายาวภิรมย์เสรีไทย 38 เขตคันนายาว ล้อมวงฝุ่นจิ๋วไซต์งาน Origin Plug & Play รามอินทรา ชูต้นแบบคัดแยกขยะชุมชนรามอินทรา 89, 91 เล็งยกเลิกผู้ค้าหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์รามอินทรา

(18 ธ.ค.66) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตคันนายาว ประกอบด้วย

พัฒนาสวน 15 นาที สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 เขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหย่อมริมคลองลำนุ่น ซอยเสรีไทย 73 ตั้งอยู่ริมคลองลำนุ่น ข้างแฟลตสน.บางชัน พื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน 56.97 ตารางวา 2.สวนคันนายาวรมณีย์ ถนนสวนสยาม ตั้งอยู่ริมคลองลำรางบ้านเกาะ กึ่งกลางระหว่างหมู่บ้านเลิศอุบล และหมู่บ้านฐานทอง พื้นที่ 4 ไร่ 24 ตารางวา 3.สวนหย่อมริมคลองหลอแหล ซอยเสรีไทย 83 ตั้งอยู่ริมคลองหลอแหลสองฝั่งคลอง บริเวณซอยเสรีไทย 83 และนิคมอุตสาหกรรมบางชัน พื้นที่ 6 ไร่ 35.75 ตารางวา 4.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 ตั้งอยู่ริมบึงลำบึงกุ่มสองฝั่งริมบึง ซอยเสรีไทย 38 ตรงข้ามหมู่บ้านนวธานี พื้นที่ 5 ไร่ 3 งาน 94.75 ตารางวา 5.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 50 ตั้งอยู่ริมบึงลำบึงกุ่มโซนฝั่งทิศเหนือ ซอยเสรีไทย 50 ข้างชุมชนหมู่ 3 ร่วมใจพัฒนา พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 19.50 ตารางวา 6.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 52 ตั้งอยู่ริมบึงลำบึงกุ่มโซนฝั่งทิศเหนือ ซอยเสรีไทย 52 พื้นที่ 3 ไร่ 4 ตารางวา สำหรับสวน 15 นาที (สวนใหม่) ดำเนินการแล้วเสร็จคือ สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซอยเสรีไทย 38 พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 88.25 ตารางวา อยู่ระหว่างออกแบบสวน ได้แก่  1.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ซ.เสรีไทย 38/1 จากสะพานเขียวข้ามบึงลำบึงกุ่ม พื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน 2.50 ตารางวา 2.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ช่วงบริเวณใต้ทางด่วนยกระดับบางนา-บางปะอิน จากทางด่วนฝั่งทิศตะวันตก ถึงทางด่วนฝั่งทิศตะวันออก พื้นที่ 1 ไร่ 42.50 ตารางวา และ 3.สวนน้ำคันนายาวภิรมย์ ช่วงบริเวณใต้ทางด่วนยกระดับบางนา-บางปะอิน จากทางด่วนฝั่งทิศตะวันตก ถึงทางด่วนฝั่งทิศตะวันออก พื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 66.25 ตารางวา ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่ การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในสวนให้ตรงกับความต้องการของชุมชนและประชาชนที่เข้ามาใช้บริการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการก่อสร้างอาคาร The Origin Plug & Play รามอินทรา ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารพักอาศัย ความสูง 18-19 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และอาคารจอดรถ ความสูง 10 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ.2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ.2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทั้งนี้ เขตฯ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ตามมาตรการควบคุมมลพิษทางอากาศและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ประเภทสถานประกอบการ/โรงงาน 3 แห่ง ประเภทแพลนท์ปูน 2 แห่ง ประเภทสถานที่ก่อสร้าง 2 แห่ง ประเภทตรวจวัดควันดำสถานที่ต้นทาง 2 แห่ง พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ชุมชนรามอินทรา 89, 91 พื้นที่ 30 ไร่ ประชากร 373 คน บ้านเรือน 107 หลังคาเรือน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2564 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ มีถังรองรับขยะเศษอาหารส่วนกลางในชุมชน คัดแยกขยะเศษอาหาร เศษผัก เศษเปลือกผลไม้นำกลับไปใช้ประโยชน์ สาธิตการทำปุ๋ยหมักหรือน้ำหมักชีวภาพให้กับชุมชนและประชาชนทั่วไป ปลูกพืชผักสวนครัว 2.ขยะรีไซเคิล มีจุดรับขยะรีไซเคิลส่วนกลางในชุมชน คัดแยกขยะเพื่อจำหน่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว 3.ขยะทั่วไป สมาชิกในชุมชนนำขยะมาตั้งวางตามจุดและวันเวลาที่กำหนด รอการจัดเก็บเพื่อป้องกันปัญหาขยะตกค้าง ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ จัดเก็บ 2 ครั้ง/สัปดาห์ 4.ขยะอันตราย มีจุดทิ้งขยะอันตรายส่วนกลางภายในชุมชน ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกได้ทราบถึงการจัดเก็บขยะอันตราย สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 2,560 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 2,420กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 70 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 70 กิโลกรัม/เดือน ขยะอันตรายหลังคัดแยก 5 กิโลกรัม/เดือน

ตรวจความเป็นระเบียบพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน บริเวณหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถนนรามอินทรา เขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 6 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 74 ราย ดังนี้ 1.ถนนคู้บอน ตั้งแต่ปากซอยถนนคู้บอน จุดสิ้นสุดเลยปากซอยมา 100 เมตร ผู้ค้า 11 ราย 2.ริมถนนหน้าสวนคันนายาวรมณีย์ ตั้งแต่หน้าร้าน 7-11 (แยกสวนสยาม 1) ถึงคลองลำราง (คลองลำเกร็ด) ผู้ค้า 21 ราย 3.ถนนรามอินทรา ตั้งแต่หน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ถึงบริเวณหน้าศูนย์การค้าฯ 20 เมตร ผู้ค้า 14 ราย 4.ถนนเสรีไทย ตั้งแต่ปากซอยเสรีไทย 61 จุดสิ้นสุดจากปากซอยเข้ามา 40 เมตร ผู้ค้า 11 ราย 5.ริมถนนสวนสยาม ตั้งแต่หน้าสรรพากรพื้นที่ 19 ถึงตลาดสวนสยาม ผู้ค้า 9 ราย 6.บริเวณแยกอมรพันธ์ถึงซอยสวนสยาม 30 ตั้งแต่ปากทางถนนสวนสยาม 20 เมตร ผู้ค้า 8 ราย ซึ่งในปี 2567 เขตฯ จะดำเนินการยกเลิกจุดทำการค้าถนนรามอินทรา บริเวณหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ผู้ค้า 14 ราย ที่ผ่านมาเขตฯ ได้จัดทำ Hawker Center บริเวณหน้าศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ สามารถรองรับผู้ค้าได้ 15 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 16.00-21.00 น. โดยใช้พื้นที่บางส่วนบริเวณด้านข้างแลมป์กลับรถ จัดทำเป็น Hawker Center ซึ่งศูนย์การค้าฯ ไม่คิดค่าเช่าพื้นที่ จัดแบ่งพื้นที่ร้านค้าเป็นสัดส่วน ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นประชาชนที่มาต่อรถโดยสารประจำทาง และพนักงานในศูนย์การค้าฯ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าให้จัดเก็บอุปกรณ์ทำการค้ากลับบ้าน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตะกร้า ร่ม รวมถึงทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าทุกวัน ไม่ให้มีขยะและคราบน้ำมันตกค้าง ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาหาแนวทางยกเลิกจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย โดยให้ย้ายมาทำการค้าในจุดเดียวกันหรือจุดที่เขตฯ จัดทำเป็น Hawker Center ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เน้นจุดที่มีความต้องการของผู้บริโภค อยู่ใกล้กับพื้นที่ทำการค้าเดิม คำนึงถึงช่วงเวลาทำการค้าและความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่ทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ต่อไป

ในการนี้มี นายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตคันนายาว พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตคันนายาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี
—–  (จิรัฐคม…สปส. รายงาน)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200