(29 ก.ค. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการดำเนินงานเพื่อยุติปัญหาเอดส์พื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายสุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ สำนักอนามัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร

รองผู้ว่าฯ ทวิดา ได้กล่าวถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์เอดส์พื้นที่กรุงเทพมหานครที่ตัวเลขกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้สามารถทำงานเชิงรุกต่อไป

โดยที่ประชุม ได้รายงานสถานการณ์และความก้าวหน้าในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร โดย กทม. คาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีชีวิตอยู่ในปี 2568 จำนวน 89,207 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ จำนวน 990 ราย ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิตในปี 2567 จำนวน 1,751 คน ทั้งนี้ พบการติดเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน 15-24 ปี สาเหตุหลักคือการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกัน พบในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย อัตราป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5 โรคหลัก มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะซิฟิลิสและหนองใน พบสูงมากในกลุ่มเยาวชน ในส่วนการใช้ถุงยางอนามัยมีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับปี 2562 ปัจจัยสำคัญมาจากพฤติกรรมและค่าค่านิยมทางเพศที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังต้องเร่งรัดมาตรการป้องกันและคัดกรองซิฟิลิสในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากอัตราการเกิดโรคซิฟิลิสแต่กำเนิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านการตีตราและเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อยังพบว่าสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในกรุงเทพมหานคร (โดยพบเห็นว่ามีการเลือกปฏิบัติ 21.7% จากเป้าหมายน้อยกว่า 10%)

ทั้งนี้ กทม. มียุทธศาสตร์ยุติปัญหาเอดส์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี พ.ศ. 2564 – 2573 โดยมีวิสัยทัศน์ ยุติเอดส์ภายในปี พ.ศ. 2573 (2030) ตั้งเป้าในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่รวมได้อย่างน้อย 4,000 คน และป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเสียชีวิตจากโรคเอดส์สะสมได้อย่างน้อย 6,000 คน โดยปัจจุบันมีการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ คือ มีการจัดบริการยาต้านไวรัส (PrEP และ nPEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มเป้าหมาย ในศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 29 แห่ง รวมถึงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษา ตรวจคัดกรอง และให้ความรู้ ควบคู่ไปกับการแจกจ่ายถุงยางอนามัยในสถานศึกษา ชุมชน และร้านยา โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการแจกจ่ายถุงยางอนามัยไปแล้วกว่า 2,016,659 ชิ้น

ทั้งนี้ ประเด็นความท้าทายในการดำเนินงานเพื่อยุติปัญหาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ
1.พบการติดเชื้อ HIV รายใหม่และซิฟิลิส/หนองใน เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มเยาวชน จึงต้องเร่งให้ความรู้ในวงกว้างป้องกันแบบรอบด้าน รวมถึงขยายบริการเชิงรุกตรวจคัดกรอง HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชน
2.คุณภาพการบริการและระบบข้อมูล
3.ลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ เช่น พัฒนาศักยภาพบุคลากรและลดการตีตราการใช้ถุงยางในโรงเรียน

ในการนี้ ที่ประชุมได้มีการนำเสนอแผนงานขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืนด้าน HIV ที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชน เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการป้องกัน รักษา รวมถึงการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงถุงยางอนามัย เช่น ในโรงเรียน พร้อมกับการส่งเสริมความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการสุขภาพในทุกกลุ่มประชากรเพื่อมุ่งสู้เป้าหมายยุติปัญหาเอดส์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและบรรลุเป้าหมาย 95-95-95 ภายในปี พ.ศ. 2573 ต่อไป

#กทม #สุขภาพดี