Search
Close this search box.
กทม.ชี้แจงข่าวร้องเรียน ประจำวันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม 2566

กทม.บูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนรองรับเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น.และช่วงเทศกาลปีใหม่


นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกการตรวจตราและกวดขันสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ได้รับอนุญาตให้ขยายเวลาเปิดให้บริการถึงเวลา 04.00 น. รวมถึงกรณีการขยายเวลาสถานบันเทิงเปิดบริการในคืนส่งท้ายปีเก่าจนถึงเวลา 06.00 น.ของวันปีใหม่ว่า กรุงเทพมหานคร โดย สจส.ได้จัดทำแผนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะการกวดขัน “เมาแล้วขับ” ในช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ผ่านศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร (ศปถ.กทม.) ดังนี้ (1) จัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2567 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยประสานการปฏิบัติงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างใกล้ชิด (2) ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับรณรงค์เรื่อง “เมาไม่ขับ” (3) สำรวจ ตรวจสอบ และบำรุงรักษากล้องวงจรปิด (CCTV) เครื่องหมายจราจร อุปกรณ์สัญญาณไฟจราจร อุปกรณ์ความปลอดภัย ศาลาที่พักผู้โดยสาร ท่าเรือ และโป๊ะ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน (4) ประสานสำนักงานเขตพื้นที่สำรวจตรวจสอบจุดเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่เชิงรุก เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น และ (5) สรุปผลและถอดบทเรียนผลการปฏิบัติงานตามแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2567

นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ.ได้ประสานสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต สำรวจสถานบริการในพื้นที่และสร้างความเข้าใจกับสถานบริการในการขยายเวลาเปิดให้บริการได้ตามกฎหมายและต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อาทิ ห้ามบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และบุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ห้ามเปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติ ห้ามยินยอม หรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตน เป็นต้น


     นอกจากนั้น สนอ.ได้นำแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 ของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติมาบูรณาการเป็นแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 ของ กทม.ภายใต้หัวข้อรณรงค์ “ขับไม่ดื่ม ดี่มไม่ขับ” “เทศกาลสุขปลอดเหล้า” และบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับ ศปถ.กทม. พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว อาทิ ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยเน้นจุดใกล้บริเวณสถานบริการ สถานประกอบการที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จัดสายตรวจออกตรวจตราชุมชนครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง โดยคัดกรองผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกราย เน้นกลุ่มที่ขับขี่รถจักรยานยนต์และกลุ่มเยาวชน รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกราย ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฉลิมฉลองอย่างปลอดภัย ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ เป็นต้น

 

 

กทม.เยียวยาผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ตลาดจ๊อดแฟร์ กำชับผู้ค้าตลาดนัด-ตลาดกลางแจ้งตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย

นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการเยียวยาผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ร้านขายของภายในตลาดจ๊อด แฟร์ พระราม 9 ถนนพระราม 9 ว่า สปภ. ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัยลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานเขตห้วยขวาง เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ โดยให้ความช่วยเหลือเป็นเงินทุนประกอบอาชีพผู้ประสบภัยรายละ 11,400 บาท ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้และค่าเสียหายอยู่ระหว่างการสอบสวนของสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง


ส่วนมาตรการเชิงรุกในการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ สปภ.ได้ประสานสำนักงานเขตที่มีผู้ประกอบการตลาดนัดและตลาดกลางแจ้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีร้านค้าจำนวนมาก แจ้งให้ผู้ประกอบการดำเนินการสำรวจและปรับปรุงสายไฟ ปลั๊กพ่วง การติดตั้งถังดับเพลิง รวมทั้งตรวจสอบทางเข้า-ทางออก เพื่อความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ และหากสถานประกอบการใดประสงค์จะทำการฝึกอบรมการดับเพลิงเบื้องต้นและการใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกวิธีให้กับผู้ประกอบการและร้านค้าในพื้นที่ สปภ.พร้อมให้การสนับสนุน ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเหตุเพลิงไหม้หรือสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุมายังโทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

เขตลาดกระบังเพิ่มความเข้มงวดลักลอบเผาขยะพื้นที่เกษตรลดฝุ่น PM2.5
 
นายชัชชญา ขำจันทร์ ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนได้รับผลกระทบจากการเผาในพื้นที่เกษตรเขตลาดกระบังว่า สำนักงานเขตลาดกระบังได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและเฝ้าระวังการลักลอบเผาในพื้นที่การเกษตร โดยมีมาตรการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ลักลอบเผา โดยจัดทำประกาศสำนักงานเขตลาดกระบัง เรื่อง การห้ามบุคคลกระทำการเผาในบริเวณพื้นที่โล่ง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และจัดทำหนังสือแจ้งเจ้าของ หรือผู้ครอบครองที่ดินที่ปล่อยปละละเลยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า พัฒนาปรับปรุงให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย มีรั้วปิดกั้นโดยรอบป้องกันไม่ให้มีการลักลอบทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอย หรือจุดไฟเผาขยะ หรือหญ้า โดยสำนักงานเขตฯ จะตรวจตรากวดขันมิให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง ที่รกร้างว่างเปล่า พื้นที่ว่างริมทาง หรือพื้นที่สาธารณะ ตลอดจนกวดขันรถบรรทุกดินให้มีการปกคลุมมิให้มีฝุ่นละออง ประสานสถานประกอบการหารือแนวทางและป้องกันมิให้มีฝุ่นละอองในบริเวณสถานประกอบการ 


        ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดทำแผนการตรวจสถานประกอบการ/โรงงานที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 และแพลนท์ปูน จัดทำแผนการตรวจควันดำ (รถเครื่องยนต์ดีเซล) ในสถานที่ต้นทาง ได้แก่ อู่รถโดยสารสาธารณะ ท่ารถตู้ ท่ารถสองแถว บริษัทรถทัวร์ บริษัทขนส่ง บริษัทรถบรรทุก แพลนท์ปูน สถานที่ก่อสร้าง และแผนการตรวจจุดถมดินท่าทรายและดำเนินการตามแผน โดยตรวจสอบกำกับติดตาม เพื่อเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในกรุงเทพฯ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมทั้งตรวจแนะนำมาตรการควบคุมป้องกันปัญหาฝุ่นละออง เก็บกวาดล้างทำความสะอาดทางเท้าและถนนให้สะอาด ฉีดพ่นละอองน้ำที่ใบไม้ต้นไม่ริมทางเท้าและเกาะกลางถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ จัดทำแผนการปลูกต้นไม้ตามโครงการต้นไม้ล้านต้นและสวน 15 นาทีเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือชุมชนให้งดการก่อควันไฟจากการเผาขยะ พร้อมทั้งให้ความรู้ สร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนในชุมชนและกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่กำจัดขยะอย่างถูกต้องและเร่งเพิ่มจุดรับขยะชิ้นใหญ่จากชุมชน เพื่อลดการกำจัดขยะโดยการเผา รวมถึงบูรณาการร่วมกับเอกชนในโครงการ Waste buy ซื้อขยะถึงบ้านในการลดปริมาณขยะ เพื่อนำไปรีไซเคิลขยะอย่างถูกต้องและไม่ก่อมลพิษ

        นอกจากนี้ ยังได้รณรงค์เน้นย้ำสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือเกษตรกรในพื้นที่ได้รับทราบและตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากการเผาในที่โล่ง ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรงดการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในที่โล่ง งดเผาตอซังข้าว วัชพืชและขยะ โดยแนะนำให้ใช้รถอัดฟาง และใช้น้ำหมักย่อยสลายฟาง รวมถึงแนะนำให้เกษตรกรนำฟางมาใช้ประโยชน์ ทำปุ๋ยหมัก เพาะเห็ดในตะกร้าและทำภาชนะจากฟาง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมตรวจเยี่ยมเกษตรกร พร้อมแจกจ่ายประกาศและคำแนะนำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งแจ้งต่อไป

 

 

 

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200