นายพรพรหม ณ. ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม.  เผยถึง กิจกรรมความร่วมมือการจัดการขยะมูลฝอยในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออกว่า ได้รับความร่วมมือจากทุกเขต รวมถึงภาคเอกชนที่ส่งเสริมการคัดแยกจากต้นทาง เฉพาะปีที่ผ่านขยะลดลงเฉพาะวันละ 200-500 ตัน ประหยัดงบประมาณได้ 141 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้สามารถนำไปสนับสนุนงานด้านอื่น ๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข ถือเป็นผลสำเร็จไม่ใช่แค่กทม. แต่ทุกภาคส่วนที่ร่วมรณรงค์แยกขยะเปียก ทำให้ขยะแห้งนำไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อได้

สำหรับกลุ่มเขตกรุงเทพตะวัน ออก 9 เขต ได้แก่ เขตลาดกระบัง เขตหนองจอก เขตประเวศ เขตบางกะปิ เขตคลองสามวา เขตสะพานสูง เขตมีนบุรี เขตบึงกุ่ม และเขตคันนายาว เห็นชอบร่วมกันในการสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายไม่เทรวม

รวมถึงการทำต้นแบบคัดแยกขยะ ในพื้นที่สมบูรณ์ครบวงจร ตามหลัก 3R ลดใช้ (Reduce)ใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ตลอดจนส่งเสริมการใช้นวัตกรรมแก้ปัญหาขยะล้น ขยะตกค้าง การลักลอบทิ้งในที่รกร้าง

นอกจากนี้ ยังมีการรับซื้อขยะด้วย Waste Buy Delivery ที่ลดปัญหาขยะ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในการคัดแยก นำไปต่อยอดสู่การจัดการขยะแห้งให้กลับคืนสู่ระบบ จัดการอย่างถูกวิธีและเข้าสู่กระบวนการเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะนำร่อง 1 เขตก่อนประเมินผลแล้วค่อยขยายให้ครอบคลุม

ทั้งนี้ เขตลาดกระบัง มีพื้นที่ 123 ตร.ม. แบ่งเป็น 6 แขวง มีประชากร 179,646 คน เป็นเขตที่กำลังขยายตัว ทำให้เกิดปัญหาขยะล้นถัง ตกค้าง และลอบทิ้ง ปริมาณที่ต้องจัดเก็บเฉลี่ย 274 ตัน/วัน หรือ 8,339 ตัน/เดือน เพื่อลดปัญหาดังกล่าวเขตลาด กระบัง จึงร่วมกับเอกชน จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะมูลฝอยในปีงบประมาณ 66 และพัฒนานวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ โครงการลดขยะโดยการใช้แอปพลิเคชัน Waste Buy “ซื้อขยะถึงบ้าน” ทำให้ปริมาณขยะลดลง และสร้างรายได้ให้กับประชาชนด้วย.

ที่มา:  นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 1 ธ.ค. 2566 (กรอบบ่าย)