(27 พ.ย. 66) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามการบูรณาการความร่วมมือตรวจควันดำรถบรรทุกเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อให้การดำเนินงานตาม “แผนป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง” ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ณ ท่าเรือกรุงเทพ เขตคลองเตย
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การตรวจเช็คเครื่องยนต์ การจัดจราจรที่ดี และการลดฝุ่นละอองจะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้ ซึ่งในวันนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูสถิติเก่าว่า รถยี่ห้อไหน รถอายุกี่ปี ยี่ห้อน้ำมันเครื่องอะไรที่เปลี่ยน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองแล้วสามารถลดควันดำได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้นำข้อมูลที่ได้มาเป็นข้อมูลในการดำเนินการเพื่อลดฝุ่น PM2.5 ต่อไป
ด้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ควันดำเป็นตัวหนึ่งที่ทำให้ฝุ่น PM2.5 สูงขึ้น ถึงแม้ว่ารถที่ตรวจผ่านเกณฑ์มาตรฐานควันดำแต่ก็ยังมีการปล่อยหรือทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 อยู่ อยากฝากทุกคนช่วยกันเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และไส้กรองตามระยะเวลาที่กำหนดโดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานเยอะ ซึ่งในวันที่ 29 พ.ย. นี้ จะมีการหารือกับปลัดกระทรวงพลังงานเรื่องการช่วยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองรถที่มีอายุการใช้งานเยอะเพื่อช่วยลดใช้จ่ายในการดำเนินการ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้มีการออกมาตรการตรวจควันดำและน้ำหนักของรถบรรทุกที่เข้าออกไซต์งานก่อสร้าง หากพบว่ารถบรรทุกปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐาน หรือมีการบรรทุกเกินน้ำหนักที่กำหนดจะมีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างอย่างน้อย 3 วัน จะช่วยให้ผู้รับเหมามีการใช้บริการของบริษัทที่ได้มาตรฐานมากขึ้น ซึ่งภาพรวมตอนนี้มีแนวโน้มดีขึ้น และในช่วงนี้เริ่มถึงฤดูการเผาแล้ว ต้องขอร่วมมือกันในหลายฝ่าย ให้งดเผาเพราะจะทำให้ช่วยลดการเกิดฝุ่น PM2.5 ได้
ส่วนอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การตรวจรถควันดำเป็นการดำเนินการต่อเนื่องตามมาตรการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ด้วยการตรวจวัดควันดำรถใช้น้ำมันดีเซลทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริเวณท่าเรือกรุงเทพ มีรถบรรทุกเข้าออกแต่ละวันจำนวนมาก เป็นรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไปประมาณ 80,000 คันต่อวัน จากการตรวจตั้งแต่เช้าพบรถควันดำเกินมาตรฐาน 1 คัน ซึ่งหากรถมีการบำรุงรักษาตามระยะเวลา เช่น การถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรอง ตามระยะเวลาจะช่วยลดควันดำและลดปัญหามลพิษได้
ทั้งนี้ หากตรวจพบรถควันดำเกินค่ามาตรฐาน กรมการขนส่งทางบกจะพ่นสีคำว่า ห้ามใช้ ที่กระจกหน้าด้านซ้าย และออกหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาให้ไปชำระค่าปรับ 5,000 บาท จากนั้นให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถนำรถไปบำรุงรักษาแล้วนำรถกลับมาให้กรมการขนส่งทางบกตรวจวัดควันดำใหม่ หากผ่านเกณฑ์ที่กำหนดกรมการขนส่งทางบกจะลบคำว่า ห้ามใช้ จากกระจกให้ โดยผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถไม่สามารถลบออกเองได้ หากตรวจพบว่ามีการลบออกเองจะต้องเสียค่าปรับเพิ่มด้วย ซึ่งหลังจากตรวจรถบรรทุกเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการตรวจควันดำรถเมล์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อู่รถเมล์ ทั้ง 21 แห่ง รวมถึงตรวจรถโดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ จตุจักร เอกมัย และสายใต้ ต่อไป
———————— (พัทธนันท์…สปส. รายงาน)
