กทม.ประสาน ทล.แก้ไขเครื่องหมายลูกศร-ป้ายแนะนำเส้นทางบนสะพานลอยห้าแยกลาดพร้าว
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์การติดป้ายบอกทางบริเวณห้าแยกลาดพร้าวไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ขับขี่เข้าช่องทางผิดว่า สจส.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบว่า เครื่องหมายลูกศรและป้ายแนะนำเส้นทางชนิดแขวนบนโครงสร้างสะพานลอยมีความขัดแย้งกัน ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) สจส.จึงได้ประสาน ทล.ให้พิจารณาดำเนินการแก้ไขเครื่องหมายลูกศรและป้ายแนะนำเส้นทางชนิดแขวนเรียบร้อยแล้ว ส่วนบริเวณที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ กทม. ได้แก่ ถนนพหลโยธิน และถนนสาดพร้าว สจส.จะได้จัดทำเครื่องหมายจราจรแนะนำเส้นทางบนพื้นทางเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนขึ้นต่อไป
กทม.พร้อมยกระดับมาตรการบรรเทาความรุนแรงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ลดผลกระทบต่อประชาชน
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม.กล่าวกรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตือนเฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพจากสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นว่า กรุงเทพมหานคร โดย สสล.ได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2567 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง”และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับมาตรการการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยติดตามเฝ้าระวังการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน AirBKK ซึ่งปัจจุบันมีการแจ้งเตือนสถานการณ์ การพยากรณ์คุณภาพอากาศล่วงหน้า 3 วัน เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนการเดินทาง การทำงาน การทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีปริมาณค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รวมถึงเพิ่มช่องทางแจ้งเตือนประชาชน เมื่อค่าฝุ่น PM2.5 ในกรุงเทพฯ มีค่าเกิน 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จำนวน 10 เขต หรือค่าฝุ่นเกิน 90 มคก./ลบ.ม. จำนวน 1 เขต บน LINE ALERT โดยสามารถเพิ่มเพื่อน LINE ALERT ด้วยการค้นหาไอดี @linealert และประชาสัมพันธ์รณรงค์ส่งเสริมความรู้และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอันตรายจากการสูดอากาศที่ปนเปื้อนฝุ่น PM2.5 และสารมลพิษทางอากาศ รวมทั้งให้คำแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพและการป้องกันตนเองที่ถูกต้องแก่ประชาชนโดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกประเภทและถูกวิธี เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกาย
ขณะเดียวกันได้เข้มงวดตรวจสอบแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการก่อสร้างทุกประเภทงดกิจกรรมการก่อสร้างที่ก่อให้เกิดฝุ่น ดำเนินมาตรการเชิงรุกตรวจสอบและให้คำแนะนำเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศในกรุงเทพฯ อาทิ กิจการแพลนท์ปูน กิจการพ่นสี กิจการหลอมโลหะ กิจการที่มีหม้อไอน้ำเชื้อเพลิงดีเซล เป็นต้น ซึ่งสำนักงานเขตจะลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างน้อยแห่งละ 2 ครั้ง/เดือน และรายงานผลการดำเนินงานทุกวัน เพื่อควบคุมการดำเนินกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ป้องกันและลดการเกิดมลพิษทางอากาศ รวมถึงประสานสถานีตำรวจท้องที่กวดขันวินัยจราจร อำนวยการจราจรให้คล่องตัว ลดการจราจรติดขัด เข้มงวดตรวจตราในพื้นที่ป้องกันมิให้เกิดการเผาในที่โล่ง เผาหญ้า ขยะ เศษวัสดุเหลือใช้ พร้อมประสานความร่วมมือตรวจจับรถทุกประเภทที่ปล่อยควันดำในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66 – 22 พ.ย.66 ประกอบด้วย ตรวจควันดำรถในสถานที่ต้นทาง 2,796 คัน ตรวจจับรถยนต์ปล่อยควันดำ 138,858 คัน ตรวจรถโดยสารประจำทาง/ไม่ประจำทาง 37,172 คัน ตรวจรถบรรทุก 93,512 คัน รวมทั้งสิ้น 272,338 คัน ห้ามใช้สะสม 2,853 คัน อีกทั้งเพิ่มแผนการตรวจจับรถทุกประเภทที่ปล่อยควันดำครอบคลุมตลอดทั้งสัปดาห์ รวมถึงกำชับขอความร่วมมือทุกหน่วยงานในสังกัด กทม.ตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์ เครื่องยนต์ ไม่ให้ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนั้น ยังได้ป้องกันและดูแลสุขภาพของประชาชน โดยจัดทำห้องเรียนปลอดฝุ่น ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ 300 เครื่องให้ศูนย์เด็กเล็ก 1,734 เครื่อง ส่วนโรงเรียนอนุบาล ได้ปรับรูปแบบการเรียนของโรงเรียน แจกหน้ากากอนามัย และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ 50 เขต หากค่าฝุ่นสูงเกิน 75.1 มคก./ลบ.ม. จะยกระดับการดำเนินการ โดยควบคุมและดูแลการก่อสร้าง/สถานที่ก่อสร้าง ลดค่าโดยสารบีทีเอสส่วนต่อขยาย และขอความร่วมมือเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ร่วมเป็นเครือข่ายมาตรการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ปัจจุบันมีเครือข่ายลงทะเบียนพร้อมร่วม Work From Home หากค่าฝุ่นสูง 121 แห่ง และสนใจเข้าร่วม 102 แห่ง รวมจำนวนพนักงาน 47,677 คน หากหน่วยงาน หรือองค์กรประสงค์เข้าร่วม Work From Home ลดฝุ่น PM 2.5 สามารถลงทะเบียนได้ในลิงก์ https://me-qr.com/LM6Q8Jhs ทั้งนี้ กทม.ได้ติดตามเฝ้าระวังและรายงานแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เพื่อให้ประชาชนได้ตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศเพิ่มเติมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้ แอปพลิเคชัน AirBKK แอปพลิเคชันไลน์ ALERT แอปพลิเคชันไลน์ OA @airbangkok และ www.airbkk.com เพจเฟซบุ๊ก : สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เพจเฟซบุ๊ก : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม เพจเฟซบุ๊ก : กรุงเทพมหานคร
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม.กล่าวว่า สนท.ได้จัดชุดสายตรวจเทศกิจกรุงเทพมหานครและประสานฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตออกตรวจตราดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะเดียวกันได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบ กวดขัน และห้ามใช้รถยนต์ควันดำในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากยานพาหนะ รวมทั้งสนับสนุนการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อตรวจสอบและบำรุงรักษารถยนต์/เครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน
นอกจากนั้น ยังได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ไม่ให้เผาขยะในที่โล่ง รวมถึงกำชับพนักงานขับรถบรรทุกและบุคลากรในสังกัดให้หมั่นดูแลรักษาสภาพเครื่องยนต์ หรือกรณีที่ต้องบรรทุกวัสดุที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง ต้องระมัดระวัง และจัดให้มีวัสดุป้องกันสิ่งที่บรรทุกมิให้ตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้งกระจายบนถนนในระหว่างที่ใช้รถ และต้องนำรถส่วนกลางเข้าตรวจควันดำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อไม่ให้รถส่วนกลางก่อให้เกิดควันดำ สร้างปัญหาฝุ่น PM2.5 ตลอดจนตั้งจุดตรวจกวดขันรถบรรทุกดิน หรือวัสดุอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองและรถบรรทุกที่เข้า-ออกบริเวณสถานที่ก่อสร้างให้ป้องกันมิให้วัสดุที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ปลิว ฟุ้งกระจาย และล้างทำความสะอาด ล้อรถบรรทุกก่อนออกจากสถานที่ก่อสร้างทุกครั้ง
กทม.เร่งซ่อมถาวรถนนนิมิตใหม่ทั้ง 2 ฝั่ง เพิ่มความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตการปรับปรุงถนนนิมิตใหม่ในพื้นที่เขตคลองสามวา ทั้งที่ยังอยู่ในสภาพดีว่า ถนนนิมิตใหม่ เป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนลำลูกกากับถนนสุวินทวงศ์ มีปริมาณจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยมีรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวนมากใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่เขตลาดกระบัง เพื่อขนส่งสินค้าจากปทุมธานี ไปยังสถานีขนส่งสินค้าร่มเกล้า (ICD) ส่งผลให้ผิวจราจรของถนนนิมิตใหม่มีความเสียหายทั้งสองฝั่งทั้งขาเข้าและขาออก โดยเฉพาะขาเข้ามีความเสียหายจำนวนมาก แตกร้าว ทรุดตัวเป็นร่องลึก ตามรอยแตกและรอยต่อของแผง ค.ส.ล. ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ขับขี่ โดยในปี 2565 มีประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สนย.ได้ดำเนินการซ่อมแซมผิวจราจรชั่วคราวถนนนิมิตใหม่อยู่เป็นประจำ โดยการปูแอสฟัลต์คอนกรีตปิดทับรอยแตก รอยต่อแผง ค.ส.ล. และหลุมบ่อเกือบตลอดแนว หรือการปูเต็มหน้ากว้างของถนน แต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่พื้นฐานถนน ทำให้ใช้งานได้ไม่นานก็มีความเสียหายอีก จึงจำเป็นจะต้องซ่อมถาวรด้วยวิธีซ่อมถนน ค.ส.ล.ทั้งแผงที่เสียหาย โดยรื้อเฉพาะแผงที่เสียหายออกแล้วผูกเหล็กเสริมเทคอนกรีตใหม่ ไม่ได้รื้อถนนออกตลอดแนว ซึ่งมีความคงทนถาวรกว่าการซ่อมโดยใช้แอสฟัลต์คอนกรีตมาอุดส่วนที่เสียหาย เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น ลดปัญหาการซ่อมชั่วคราวที่มีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน ทั้งนี้ สนย.ได้ดำเนินการซ่อมแซมแล้วบางส่วนในปี 2566 และจะดำเนินการต่อส่วนที่เหลือในปี 2567
กทม.ประสาน รฟม.ซ่อมผิวจราจร ถ.ลาดพร้าว พื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนถนนลาดพร้าว ช่วงข้ามคลองลาดพร้าวถึงหน้าตลาดสดลาดพร้าวสะพาน 2 เขตวังทองหลาง ผิวจราจรช่องขวาสุดชำรุด เป็นหลุมลึกว่า จากการตรวจสอบถนนลาดพร้าวตามข้อร้องเรียน พบว่า จุดที่ผิวจราจรชำรุดเป็นหลุมดังกล่าวอยู่ในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สนย.จึงได้ประสานแจ้งให้ รฟม.ซ่อมแซมโดยด่วน ซึ่งได้แก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน
เขตบึงกุ่มรุดแก้ปัญหาเสียงดังและกลิ่นเหม็นจากอู่ซ่อมรถในซอยเสรีไทย 41
นายสมพร มีหาดทราย ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม กทม.กล่าวกรณีประชาชนผู้พักอาศัยในซอยเจริญกาญจน์ 9 ถนนเสรีไทย 41 ร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากอู่ซ่อมรถส่งเสียงดังและกลิ่นเหม็นรบกวนว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบพบว่า สถานที่ถูกร้องเรียนตั้งอยู่อาคารเลขที่ 48/624 ซอยเสรีไทย 41 ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม ประกอบกิจการประเภทพ่นสีรถยนต์ โดยได้รับอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ เคยได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนและได้ออกแบบตรวจแนะนำของเจ้าพนักงาน ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ให้จัดหามาตรการป้องกันเสียงดัง กลิ่นเหม็นจากการพ่นสี และให้ตรวจสอบห้องพ่นสีให้มีประสิทธิภาพกำจัดกลิ่น พร้อมทั้งกำชับห้ามไม่ให้พ่นสีนอกห้องพ่น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การวินิจฉัยเป็นไปอย่างถูกต้องตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด สำนักงานเขตฯ จะได้ประสานสำนักอนามัย เพื่อตรวจวัดระดับเสียงดังและกลิ่นรบกวนต่อไป