Search
Close this search box.
คอลัมน์ Life and City: สวนอากาศสะอาดเคลื่อนที่ นวัตกรรมลดฝุ่นพิษ

ในวันที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เป็นภัยต่อสุขภาพ  ประชาชนจะได้รับคำเตือนให้ลดกิจกรรมกลางแจ้งเมื่อค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม แต่ถ้าขั้นวิกฤตระดับสีแดง ให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง   ไม่สามารถไปพักผ่อนหย่อนใจในสวนสาธารณะที่เป็นพื้นที่จุดเสี่ยง จากปัญหาฝุ่นพิษจุดประกายให้เกิดโครงการ “นวัตกรรมสวนนันทนาการอากาศสะอาดเพื่อเมืองน่าอยู่” หรือ “MagikFresh”เนรมิตอากาศสะอาด ปลอดภัยในสวนสีเขียว เพื่อเป็นทางเลือกในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือจะออกกำลังภายในพื้นที่ได้อย่างสดชื่น แม้ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน

ตอนนี้ต้นแบบสวนนันทนาการอากาศสะอาดเพื่อเมืองน่าอยู่นำมาสาธิตและเปิดให้คนกรุงทดลองใช้บริการที่สวนจตุจักร เป็นระยะเวลา 7 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566-พฤษภาคม 2567 ซึ่งตรงกับช่วงฤดูฝุ่นของกรุงเทพฯ นั่นเอง โดยกิจกรรมเปิดตัวต้นแบบสวนอากาศสะอาด จัดขึ้นเย็นวันศุกร์ที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ อุทยานสวนจตุจักร กรุงเทพฯโดยมี ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน พร้อมเยี่ยมชมต้นแบบนวัตกรรม “MagikFresh” บนพื้นที่ 100 ตารางเมตร ที่มีการติดตั้งเครื่องกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่อให้คนเมืองสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ ภายในจะมีอากาศสะอาดและช่วยลดฝุ่น PM 2.5 จากภายนอกได้ ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ร่วมสนับสนุนพื้นที่บริเวณอุทยานสวนจตุจักร เพื่อติดตั้งและทดสอบการใช้งาน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่างกรุงเทพมหานครและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวว่า สวทช.ได้ดำเนินโครงการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาพื้นที่และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ และได้รับการพิจารณาเป็นโครงการสำคัญปี 2566 (ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2564) ภายใต้ชื่อโครงการนวัตกรรมสวนนันทนาการอากาศสะอาดเพื่อเมืองน่าอยู่ โดยมี ดร.พรอนงค์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นหัวหน้าโครงการ เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยสร้างสรรค์พื้นที่สวนสำหรับการทำกิจกรรมนันทนาการและพักผ่อนหย่อนใจ ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 นวัตกรรมนี้เหมาะสำหรับพื้นที่เปิดโล่ง อย่างสวนสาธารณะ ลานกีฬา

“สวทช.ได้คิดค้นรูปแบบโครงสร้างที่สามารถควบคุมการไหลเวียนของอากาศภายในพื้นที่กึ่งปิดกึ่งเปิดโดยฝุ่น PM 2.5 จากภายนอกไม่สามารถเข้ามาได้ ร่วมกับนวัตกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่อสร้างพื้นที่อากาศสะอาดให้หายใจได้เต็มปอด โดยไม่ต้องกังวลต่อมลพิษฝุ่น PM 2.5 ซึ่งโครงสร้างได้ถูกออกแบบให้สามารถถอดประกอบเพื่อการขนย้ายไปติดตั้งใช้งานในสถานที่ต่างๆ ที่ประสบปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้” ผอ.สวทช.กล่าว

จากปัญหาฝุ่นพิษ หลายหน่วยงานตระหนักและให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาของฝุ่น PM 2.5 เช่นเดียวกับ สวทช. ตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยและพัฒนาของ สวทช.ที่เกี่ยวข้องและพยายามผลักดันนำไปสู่การใช้ประโยชน์

ศ.ดร.ชูกิจ กล่าวว่า ในด้านการรับมือที่ต้นตอของปัญหาฝุ่น PM 2.5 มีการวิจัยพัฒนาเชื้อเพลิงการเผาไหม้ โดยการพัฒนาคุณภาพของสูตรน้ำมันเชื้อเพลิงไบโอดีเซล B10 และเพิ่มคุณภาพน้ำมันดีเซลด้วยกระบวนการ Hydrotreating ทั้งสองเชื้อเพลิงเป็นการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ ด้านการตรวจวัดและระบบสารสนเทศ มีการวิจัยพัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจวัดค่า PM 2.5 ด้วยเทคนิค Quartz Crystal Microbalance (QCM) ที่มีความแม่นยำสูง และการใช้ Supercomputer เพื่อคาดการณ์ระดับ PM 2.5 ล่วงหน้า

ส่วนด้านการป้องกันสุขภาพประชาชนจากพิษฝุ่นจิ๋วที่เป็นภัยเงียบ ผอ.สวทช.บอกว่า มีการวิจัยพัฒนาหน้ากากอนามัย nMask : Non-biological Mask ที่ได้ผ่านการทดสอบจากองค์กรมาตรฐานสากล (Nelson laboratory USA) สามารถกรองเชื้อไวรัส แบคทีเรีย จุลินทรีย์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน รวมทั้งฝุ่น PM 2.5 และการวิจัยพัฒนาเครื่องกรองฝุ่นละอองและกำจัดเชื้อโรคในอากาศ หรือเรียกว่า IonFresh+ เป็นผลงานของทีมวิจัยเดียวกันกับที่พัฒนาสวนนันทนาการอากาศสะอาดเพื่อเมืองน่าอยู่นี้ ในการพัฒนาเทคโนโลยีการกรองฝุ่น PM 2.5 นี้ ยังสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศในระยะยาว และเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่ระบุไว้ในยุทธศาสตร์ว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”

สวนอากาศสะอาดนำร่องที่สวนจตุจักรกลางกรุง เชื้อเชิญให้คนเมืองไปทดลองใช้ โดยอากาศไหลเข้าอาคารผ่านทางเครื่องกรอง อากาศไหลออกจากอาคารผ่านช่องระบายอากาศ ภายในอาคารมี PM 2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐาน หรือมีค่า AQI น้อยกว่า 50 ภายในอาคารมีอากาศไหลเวียนดีมากกว่า 10 รอบต่อชั่วโมง ปลดปล่อยก๊าซโอโซนไม่เกิน 10 ppb (เฉลี่ย 1 ชม.) แถมมีฟังก์ชันควบคุมการทำงานอัตโนมัติ ระบบกรองทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ไม่ต้องถอดทิ้งเปลี่ยนใหม่ ช่วยให้ลดขยะ ที่สำคัญอุปกรณ์ผลิตได้ภายในประเทศ ลดการนำเข้า

นวัตกรรมนี้สามารถปรับใช้กับสวนสาธารณะทั่วกรุงเทพฯนายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.พร้อมสนับสนุนต้นแบบสวนนันทนาการอากาศสะอาดเพื่อเมืองน่าอยู่ ที่ผ่านมา กทม.พยายามแก้ปัญหามลพิษ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 โดยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมถึงการพยายามแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น กลาง ยาว โดยการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอของแหล่งกำเนิดฝุ่น รวมถึงการบำบัดอากาศ ซึ่งเป็นปลายทาง ซึ่ง กทม.มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ 70 สถานี ผู้ว่าฯ กทม.ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัดและนวัตกรรม เช่น ไมโครเซ็นเซอร์ (Microsensors) ที่ใช้ในโครงการ AIRLAB Microsensors Challenge 2023 นี้ ซึ่ง กทม. ต้องการเพิ่มเติมให้มีไมโครเซ็นเซอร์จำนวนมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเสริมประสิทธิภาพแก้ปัญหา PM 2.5

อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันและตรวจวัด PM 2.5 มีผลงานของ สวทช.ที่ กทม.ได้ใช้อยู่ด้วยแล้วคือ แอปพลิเคชัน Traffy Fondue จะเป็นการช่วยแจ้งเตือน เฝ้าระวังปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ กทม. ซึ่งประชาชนสามารถมีส่วนร่วมรายงานภาวะมลพิษหรือค่าฝุ่นผ่านการถ่ายรูปและส่งทางไลน์ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเร่งดำเนินการแก้ไข ทั้งนี้ ผลงานวิจัยต่างๆ ของ สวทช. ทาง กทม.ยินดีจะสนับสนุนและใช้แก้ปัญหาด้านมลพิษของประเทศ

“ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นปัญหาของเมืองใหญ่ๆ ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งต่อสังคม สุขภาพและคุณภาพชีวิตชาวเมือง ความร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นการป้องกันและเป็นตัวช่วยบรรเทาปัญหา เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการเข้าถึงนวัตกรรมและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” นายพรพรหมกล่าว

ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงสวนจตุจักร สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ MagikFresh เพื่อหายใจรับอากาศสะอาดให้เต็มปอดได้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงพฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ โครงสร้างของสวนอากาศสะอาดถอดประกอบได้ สำหรับหน่วยงานที่สนใจจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ หรือหน่วยงานที่สนใจนำนวัตกรรม MagikFresh ไปติดตั้งใช้งานหรือรับถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อนำไปผลิตใช้งานในพื้นที่เผชิญปัญหาฝุ่น สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่าย (CNWRG), ทีมวิจัยนวัตกรรมไร้สายและระบบอัจฉริยะ (WIS) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. โทร. 0-2564-6900.

 

บรรยายใต้ภาพ

สร้างพื้นที่อากาศสะอาด คนเมืองหายใจได้เต็มปอดที่สวนจตุจักร

ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผอ.สวทช. และนายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ เยี่ยมชม

จอแสดงผลตรวจวัดค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์

‘MagikFresh’ เนรมิตอากาศสะอาด ปลอดภัยในสวนสีเขียว

เด็กใช้พื้นที่สวนอากาศสะอาด ปลอดภัยจากฝุ่นพิษ

ประชาชนทำกิจกรรมในสวนได้ แม้ช่วงค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

 

 

ที่มา:  นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 26 พ.ย. 2566

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200