กทม. – ทล.ร่วมกวดขันตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุก
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวกรณีสื่อสังคมออนไลน์โพสต์ภาพและข้อความตั้งข้อสังเกตพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ วิ่งบริเวณถนนอโศกมนตรีช่วงนอกเวลาที่กฎหมายกำหนดในเขตกรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา (สนย.) สำนักเทศกิจ (สนท.) กรมทางหลวง (ทล.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่กวดขันตรวจสอบน้ำหนักรถบรรทุกตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติตามประกาศผู้อำนวยการทางหลวงท้องถิ่น ฉบับลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 เรื่อง ห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนด หรือโดยที่ยานพาหนะนั้นอาจทำให้ทางหลวงเสียหายเดินบนทางหลวงท้องถิ่นในเขตความรับผิดชอบของ กทม. ซึ่งหากตรวจพบยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าประกาศดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2549) มาตรา 61 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าพนักงานทางหลวงจะดำเนินการจับกุมนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ สนย.ได้ขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่จาก ทล.พร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกให้ความรู้การใช้เครื่องมือชั่งน้ำหนักรถบรรทุก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ กทม.มีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
กทม.พร้อมรองรับอำนวยความสะดวกเชื่อมต่อการเดินทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายกับสายสีชมพู-สายสีเหลือง
นายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยายกับรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพูที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุว่า กรุงเทพมหานคร โดย สจส.มีแนวทางการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าทั้งระบบโดยให้ความสำคัญการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเปลี่ยนถ่ายและการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายอื่นที่กระทรวงคมนาคม (คค.) รับผิดชอบ เช่น การพิจารณาจัดทำระบบตั๋วใบเดียวให้สามารถเดินทางข้ามระบบได้ หรือระบบตั๋วร่วม การประสานความร่วมมือกับ คค.ในเรื่องการยกเว้นค่าแรกเข้าและพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม เป็นธรรม และไม่เป็นภาระต่อประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามากเกินไป โดยตามบันทึกข้อตกลงที่ กทม.ทำร่วมกับ คค.ได้กำหนดให้ กทม.ผลักดันนโยบายของ คค.ในภาพรวม ส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบรถไฟฟ้าและระบบขนส่งมวลชน สำหรับการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สจส.ได้มีหนังสือประสานบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูเรื่องการอนุมัติปรับปรุงระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC) ของโครงการฯ เพื่อรองรับการให้บริการ อำนวยความสะดวกการเดินทาง และเพิ่มความรวดเร็วแก่ประชาชนที่ใช้บริการ และเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้ดีขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างการเตรียมจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการเก็บค่าโดยสาร โดยจะจัดเก็บตามแนวทางค่าโดยสาร (ชั่วคราว) ในอัตรา 15 บาท เฉพาะส่วนต่อขยาย เพื่อนำรายได้จากค่าโดยสารมาใช้บริหารจัดการโครงการฯ ซึ่งก่อนเก็บค่าโดยสารจะได้ออกประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า
นอกจากนั้น กทม.ยังได้เตรียมความพร้อมรองรับการเชื่อมต่อการเดินทางโดยใช้ระบบตั๋วร่วม โดยตามบันทึกข้อตกลงระหว่าง กทม.และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ว่า กทม.รับทราบนโยบายของรัฐบาลเรื่องค่าแรกเข้าระบบและระบบตั๋วร่วม โดย กทม.จะดำเนินการให้มีการยกเว้นค่าแรกเข้าระบบ หรือค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกัน หากผู้โดยสารเปลี่ยนถ่ายจากการรถไฟฟ้าสายอื่นของ รฟม.ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นหน่วยงานหลักที่ศึกษาและพัฒนาระบบตั๋วร่วม ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาระบบดังกล่าวให้ครอบคลุมระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ เมื่อได้ผลการศึกษาแล้ว จะมีการออกกฎหมาย ซึ่ง กทม.พร้อมที่จะนำระบบดังกล่าวมาปรับใช้กับระบบขนส่งที่รับผิดชอบตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
เขตทุ่งครุเร่งซ่อมผิวจราจรภายในซอยประชาอุทิศ 54 แยก 6-13
นายพงศ์ศักดิ์ พูลยรัตน์ ผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบและแก้ไขผิวจราจรบริเวณภายในซอยประชาอุทิศ 54 แยก 6-13 เป็นหลุมบ่อ ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชนว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานระบายน้ำดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมผิวจราจรบริเวณดังกล่าวด้วยการลงหินคลุกบดอัดแน่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติเรียบร้อยแล้ว