นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนกรุงเทพมหานคร แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นวันพรุ่งนี้
ตามที่คาดการณ์ว่าในวันเสาร์อาทิตย์นี้ปริมาณฝุ่นจะเพิ่มมากขึ้น ในระดับแดงถึงส้ม ซึ่งเป็นการคาดการณ์ทางจากกรมควบคุมมลพิษและAIR BKK ในเชิงมาตรการแบ่งเป็นสามส่วน คือ 1. มาตรการเชิงเฝ้าระวัง ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเรื่องRisk Map โดยเข้าไปตรวจสถานประกอบการ ไซต์ก่อสร้างทั้งหมด และนำเข้าข้อมูลใน Risk Map สามารถเข้าไปดูได้ว่าสำนักงานเขตดำเนินการตรวจล่าสุดเมื่อไร 2. มาตรการการลดมลพิษ การตรวจจับควันดำ ซึ่งจะไม่ได้เน้นการตรวจริมถนนอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว ต่อไปจะเน้นที่การตรวจสถานที่กำเนิดฝุ่นประกอบกับการตรวจใบอนุญาตก่อสร้างที่ไซค์ก่อสร้าง หากพบรถที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานสามารถใช้กฎหมายควบคุมมลพิษจัดการได้เลย 3.มาตรการเรื่องของสุขภาพ ซึ่งมีแนวทางชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายศานนท์หวังสร้างบุญ) ได้ประสานกับทีมที่จะเข้ามาดูแลสุขภาพนักเรียนในกรณีที่ฝุ่นสูง งานติดตั้งธงสี แสดงค่าฝุ่น ประจำโรงเรียนและต่อยอดไปยังชุมชน
ในส่วนของโรงพยาบาลก็เตรียมคลินิกปลอดฝุ่น สำนักอนามัยก็มีแนวทางในการบริหารจัดการเชิงรุกเช่นกัน
“กฎหมายที่ใช้ในการควบคุมควันดำในรถบรรทุกแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก ซึ่งจะตรวจในรถบรรทุก หรือรถขนาดใหญ่ ในส่วนของกรุงเทพมหานครจะใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ทำหน้าที่ตรวจรถประเภทรถบรรทุก รถปิกอัพ ส่วนรถบรรทุกที่เข้ามาในไซด์ก่อสร้างก็เป็นอำนาจของกรุงเทพมหานครที่จะเข้าไปตรวจเช่นกัน และจะเกี่ยวข้องไปถึงเรื่องของใบอนุญาตก่อสร้าง นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าเมื่อมีการตั้งด่านจะเป็นการตั้งด่านแบบบูรณาการ หลายหน่วยงาน ทั้งนี้กรุงเทพมหานครอาจจะมองไปไกลกว่านั้นอาจจะไม่ได้มองแค่เฉพาะตัวรถ คืออาจจะมองมองที่คนที่จ้างรถด้วยหรือตัวไซต์ก่อสร้าง เนื่องจากตัวรถอาจจะเป็นoutsource แต่ผู้ที่รับผิดชอบจริงๆคือไซต์ก่อสร้าง ซึ่งอาจจะมีการตักเตือนในครั้งแรก หากมีครั้งที่สองอาจจะต้องพิจารณาเรื่องของใบอนุญาต สำหรับการแจ้งเตือนเรื่องฝุ่นในวันพรุ่งนี้ที่คาดว่าจะมีปริมาณสูงขึ้น เนื่องจากอัตราการระบายอากาศต่ำ ผู้ที่ต้องออกไปนอกบ้านควรที่จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หากเป็นกลุ่มเปราะบางหรือสูงวัยไม่ควรออกจากบ้านเลย รวมถึงควรงดออกกำลังกายกลางแจ้งด้วย” นายพรพรหม กล่าว