(26 มิ.ย. 68) เวลา 12.15 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตราชเทวี ประกอบด้วย

ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณโครงการปรับปรุงซอยเพชรบุรี 11 เนื่องจากถนนและระบบระบายน้ำภายในซอยเพชรบุรี 11 ในปัจจุบันสภาพถนนเดิมเสื่อมโทรม ผิวแอสฟัลต์เดิมชำรุดเป็นบางช่วง ฝาท่อระบายน้ำอยู่ในระดับต่ำกว่าผิวถนน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ท่อระบายน้ำเดิมมีขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.40-0.60 เมตร ไม่สามารถระบายน้ำฝนในช่วงฝนตกหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งซอยเพชรบุรี 11 ไม่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดการร้องเรียนจากประชาชนที่ใช้เส้นทางในการสัญจรและประชาชนที่อาศัยอยู่ในซอยดังกล่าว นอกจากนี้ซอยเพชรบุรี 11 ยังเป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อกับซอยเพชรบุรี 13 และ ซอยเพชรบุรี 15 มีการจราจรหนาแน่นในบางช่วงเวลา หากมีปัญหาถนนหรือการระบายน้ำจะส่งผลกระทบในวงกว้าง และโครงสร้างพื้นฐานไม่สอดคล้องกับการขยายตัวของพื้นที่พักอาศัย คอนโด และโรงแรม สำหรับโครงการปรับปรุงซอยเพชรบุรี 11 จากถนนเพชรบุรีถึงโรงแรมดีที ดำเนินการโดยบริษัท มานะพร คอนสตรัคชั่น จำกัด เริ่มสัญญาวันที่ 31 มีนาคม 2568 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ดำเนินการปรับปรุงถนนและท่อระบายน้ำ ระยะทาง 600 เมตร ความกว้างถนน 3-4 เมตร เปลี่ยนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เปลี่ยนท่อระบายน้ำเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร ก่อสร้างบ่อพักน้ำ 54 บ่อ จากการลงพื้นที่บริษัทผู้รับจ้างได้แจ้งถึงปัญหาและอุปสรรคในการปรับปรุงซอยเพชรบุรี 11 พบว่ามีแนวท่อประปากีดขวางการทำงาน ปัญหาการจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มและเป็นช่วงฤดูฝน มีการปิดการจราจรซอยเพชรบุรี 15 ผู้ใช้เส้นทางหลีกเลี่ยงมาใช้ซอยเพชรบุรี 11 ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ขอให้เขตฯ ขยายระยะเวลาในสัญญาการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้การประปานครหลวงได้ผู้รับจ้างเพื่อดำเนินการย้ายท่อประปาแล้ว ส่วนด้านการจราจรได้ประสานสถานีตำรวจนครบาลพญาไทอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้รับจ้างแจ้งว่าจากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อสรุปร่วมกันโดยให้ดำเนินการปรับปรุงซอยเพชรบุรี 11 หลังจากผ่านพ้นช่วงฤดูฝนแล้ว เริ่มต้นในช่วงเดือนตุลาคม 2568 โดยปิดการจราจรภายในซอยเพชรบุรี 11 ให้ไปใช้ซอยเพชรบุรี 13 และซอยเพชรบุรี 15 แทน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 120 วัน เพื่อส่งมอบงานให้เขตฯ ต่อไป ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการปรับปรุงซอยดังกล่าว โดยเฉพาะความจำเป็นในการเปลี่ยนท่อระบายน้ำจากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.60 เมตร เป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เนื่องจากท่อระบายน้ำเดิมยังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้อยู่ การเปลี่ยนจากพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นพื้นผิวแอสฟัลต์ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในดำเนินการได้เร็วกว่า การปรับปรุงฝาท่อระบายน้ำแบบรางวีเป็นแบบเรียบให้อยู่ในระดับต่ำเดียวกับผิวถนน แบ่งพื้นที่ทำงานออกเป็นฝั่งซ้ายและฝั่งขวาโดยไม่ปิดการจราจร เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงซอยดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โครงการก่อสร้างเดอะแพลทินัม สแควร์ (The Platinum Square) ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคาร ค.ส.ล. ความสูง 47 ชั้น ชั้นลอย 1 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น จำนวน 1 อาคาร เพื่อใช้เป็นโรงแรม 578 ห้อง ร้านค้า ภัตตาคาร สำนักงาน และที่จอดรถ ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามวิธีและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตในการก่อสร้างตามกฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) และแก้ไขเพิ่มเติมตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 67 (พ.ศ. 2563) และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งผู้ประกอบการได้จัดทำบ่อล้างล้อและฉีดล้างล้อรถบรรทุกก่อนออกจากโครงการ ล้างทำความสะอาดพื้นไม่ให้มีเศษหินดินทรายตกค้าง ติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5 และจอแสดงผลด้านหน้าโครงการ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 อย่างเคร่งครัด ตรวจสอบเครื่องพ่นละอองน้ำให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเปิดตลอดเวลาการทำงาน ตรวสอบความสูงของรั้วโดยรอบทุกด้านให้มีความสูงจากพื้นดินไม่น้อยกว่า 6 เมตร ตรวจวัดค่าควันดำรถบรรทุกให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามรอบที่กำหนด นอกจากนี้ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจสอบสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะประเภทสถานที่ก่อสร้าง 4 แห่งในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 ควบคุมสถานประกอบการไม่ให้ปล่อยมลพิษในอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ บริเวณศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ (BSC) ถนนพญาไท พื้นที่ 3,200 ตารางเมตร บุคลากร 100 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2568 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ คัดแยกขยะเศษอาหาร ร้านอาหาร 2 ร้านในศูนย์ฯ จะมีภาชนะรองรับเศษอาหารที่คัดแยก เขตฯ จัดเก็บไปทำปุ๋ยหมักอินทรีย์และน้ำหมักชีวภาพ 2.ขยะรีไซเคิล คัดแยกขยะรีไซเคิล ตั้งวางจุดทิ้งขยะประเภทขวดพลาสติกบริเวณทางเข้า-ออกอาคาร แม่บ้านจะคัดแยกขวดพลาสติก กล่องกระดาษ รวบรวมไว้ขาย โดยมีรถรับซื้อของเก่ามารับซื้อ 2-3 เดือน/ครั้ง 3.ขยะทั่วไป คัดแยกขยะทั่วไป เขตฯ จัดเก็บทุกวัน 4.ขยะอันตราย คัดแยกขยะอันตราย แจ้งเขตฯ จัดเก็บ สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 1,653 กิโลกรัม/เดือน หลังคัดแยก 1,500 กิโลกรัม/เดือน ขยะรีไซเคิลหลังคัดแยก 3 กิโลกรัม/เดือน ขยะอินทรีย์หลังคัดแยก 150 กิโลกรัม/เดือน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การจัดเก็บขยะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยฉบับใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 68

ตรวจการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณซอยเสนารักษ์ ถนนราชวิถี ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการย้ายผู้ค้าจากด้านในติดกำแพง มาไว้ด้านนอกติดกับถนน กำชับผู้ค้าให้ทำความสะอาดพื้นที่หลังเลิกทำการค้าในแต่ละวัน ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ทำการค้าตามหลักเกณฑ์ทำการค้าปี 67 เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 14 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 450 ราย ดังนี้ 1.ซอยเสนารักษ์ (ยุบรวมกับราชวิถี 15) ปากซอยราชวิถี 15 ถึงปากซอยโยธี ผู้ค้า 141 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. และซอยเสนารักษ์ (กลางคืน) ปากซอยโยธี ถึงทางเข้าโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ผู้ค้า 11 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. 2.ซอยรางน้ำ ทางเข้าโลตัสเอ็กซ์เพรส ถึงทางเข้าโรงแรมฟิโซเทลพรีเมียร์ ผู้ค้า 14 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. และซอยรางน้ำ (กลางคืน) ผู้ค้า 18 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. 3.เกาะราชวิถี ปากซอยราชวิถี 13 ถึงท้ายซอยราชวิถี 13 ผู้ค้า 36 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 4.อนุสาวรีย์ชัย ฝั่งเซเวียร์ หลังศาลาที่พักผู้โดยสารเกาะพหลโยธิน ผู้ค้า 15 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 5.อนุสาวรีย์ชัย เกาะพหลโยธิน ผู้ค้า 76 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 6.หน้าองค์การเภสัชกรรม ถนนพระรามที่ 6 ตั้งแต่หน้าองค์การเภสัชกรรม ถึงสถาบันสุขภาพจิตเด็ก ผู้ค้า 13 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 7.ซอยโยธี ตั้งแต่ประตู 1 โรงพยาบาลราชวิถี ถึงปากซอยโยธี ผู้ค้า 10 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-14.00 น. 8.อนุสาวรีย์ชัย เกาะดินแดง เชิงสะพานพหลโยธิน ถึงเชิงสะพานข้ามคลองสามเสน ผู้ค้า 20 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-17.00 น. 9.กรมปศุสัตว์ หน้าไปรษณีย์ ถึงทางเข้าธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผู้ค้า 10 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 10.สะพานหัวช้าง หน้าสภาคริสตจักร ถึงอาคารเอเวอร์กรีน ผู้ค้า 11 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 11.หน้าคิวคอนโด ถนนเพชรบุรี ผู้ค้า 7 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 12.MRT เพชรบุรี ข้างสถานีรถไฟฟ้า MRT ถึงท่าเรืออโศก ผู้ค้า 24 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. และ MRT เพชรบุรี (กลางคืน) ตั้งแต่ MRT ประตู 2 ถึง MRT ประตู 3 ผู้ค้า 10 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. 13.แยกมิตรสัมพันธ์ ตั้งแต่แยกมิตรสัมพันธ์ ถึงสะพานข้ามคลองแสนแสบ ผู้ค้า 14 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 05.00-17.00 น. 14.หน้าอาคารเอเวอร์กรีน (กลางคืน) ตั้งแต่หน้าอาคารเอเวอร์กรีน ถึงแยกราชเทวี ผู้ค้า 20 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. ซึ่งในปี 2567 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า จำนวน 4 จุด ได้แก่ 1.ถนนราชปรารภ ซอยราชปรารภ 8 ถึงแยกประตูน้ำ ผู้ค้า 30 ราย 2.ราชปรารภ 8 (กลางคืน) ตั้งแต่ร้านอินเดียฟู๊ดส์ ถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ ผู้ค้า 12 ราย ยกเลิกวันที่ 31 มกราคม 2567 3.ปากซอยราชวิถี 12 ตั้งแต่ปากซอยราชวิถี 12 ถึงซอยราชวิถี 18 ผู้ค้า 26 ราย ยกเลิกวันที่ 1 สิงหาคม 2567 4.สะพานหัวช้าง (กลางคืน) ผู้ค้า 4 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. ยกเลิกวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ต่อมาปี 2568 เขตฯ ยกเลิกจุดทำการค้า จำนวน 2 จุด ได้แก่ 1.เกาะราชวิถี (กลางคืน) ปากซอยราชวิถี 11 ถึงท้ายซอยราชวิถี 13 ผู้ค้า 6 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. 2.แยกมิตรสัมพันธ์ (กลางคืน) ปากทางเข้าชุมชนโรงเจ ถึงหน้าอู่ศรีไพรแอร์ ผู้ค้า 10 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 17.00-22.00 น. ยกเลิกเดือนกุมภาพันธ์ 2568

พร้อมกันนี้ได้สอบถามถึงการจัดทำสวน 15 นาที ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ 1.สวนชุมชนบ้านครัวเหนือ ถนนบรรทัดทอง พื้นที่ 20 ตารางวา 2.สวนซอยมั่นสิน พื้นที่ 25 ตารางวา 3.สวนแยกมิตรสัมพันธ์ ถนนเพชรบุรี พื้นที่ 25 ตารางวา 4.สวนใต้สะพานข้ามแยกประตูน้ำ พื้นที่ 25 ตารางวา 5.สวนข้างด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษด่านอุรุพงษ์ ถนนพระรามที่ 6 พื้นที่ 1 งาน 36 ตารางวา 6.สวน 15 นาที @ PTT ถนนเพชรบุรี พื้นที่ 7.5 ตารางวา 7.สวนวัดมะกอก พื้นที่ 20 ตารางวา 8.สวน 15 นาที เขตราชเทวี @ สถานีแห่งรัก พื้นที่ 3 งาน 58 ตารางวา 9.สวน 15 นาที 515 victory พื้นที่ 85.5 ตารางวา 10.สวน 15 นาที ราชวิถี ซอย 2 พื้นที่ 25 ตารางวา นอกจากนี้ เขตฯ ได้สำรวจพื้นที่ว่างเพื่อจัดทำสวน 15 นาทีเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง ได้แก่ 1.สวน 15 นาที แยกอุรุพงษ์ ซอย 18 พื้นที่ 1 งาน 44 ตารางวา 2.สวน 15 นาที โค้งรถไฟยมราช พื้นที่ 75 ตารางวา ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่ เพื่อจัดทำสวน 15 นาทีตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งเขตฯ มีสวน 15 นาที ครบทั้ง 10 แห่งแล้ว แต่ยังมีพื้นที่ว่างสามารถจัดทำสวนเพิ่มเติมได้อีก โดยเน้นย้ำการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในชุมชนที่จะเข้ามาใช้บริการ คำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดทำสวน 15 นาทีอย่างแท้จริง

ในการนี้มี นายสบโชค ณ ศรีโต ผู้อำนวยการเขตราชเทวี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตราชเทวี สำนักเทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

#สิ่งแวดล้อมดี #สุขภาพดี #เศรษฐกิจดี #บ้านนี้ไม่เทรวม #แยกขยะจ่ายน้อยกว่า #แยก20ไม่แยก60 #BKKWASTEPAY

—– (จิรัฐคม…สปส.รายงาน)