กทม.ฮึดสู้ฝุ่นพิษ ดัน’ราชการ’ใช้รถEV

กลับมาอีกครั้งโดยไม่ต้องนัดหมายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี สำหรับฝุ่นจิ๋วพิษร้าย PM2.5 ซึ่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาในกรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรมีค่าเกินมาตรฐานถึงกว่า 20 พื้นที่ในช่วงเช้าตรู่ กระทั่งลดลงในช่วงบ่าย แต่ก็ยังคงเหลือกว่า 10 พื้นที่ โดยมีข้อมูลชี้ชัดว่าสาเหตุหลักขณะนี้มาจากมลพิษทางรถยนต์และการจราจร หาใช่การเผาชีวมวล

20 ตุลาคมที่ผ่านมา ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวประเด็น ดังกล่าวร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยยืนยันว่าเร่งแก้ทุกวัน 365 วันต่อปี

ทั้งนี้ ความร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษดำเนินการตามแผนซึ่งมีหลากหลายวิธีการ หวังจับให้มั่น คั้นสถานการณ์ฝุ่นให้อยู่หมัด

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ตุลาคม สภากรุงเทพมหานคร ยังมีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า (EV) เพื่อลดมลภาวะ พ.ศ. … ในวาระสองและวาระสาม เป็นเอกฉันท์ โดยจะส่งให้ฝ่ายบริหารพิจารณาดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่รถเมล์เท่านั้น แต่ยังมีการผลักดันการปรับเปลี่ยนรถราชการของ กทม. ให้เป็นรถ EV ด้วย โดยเมื่อ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาในการประชุมสภากรุงเทพ มหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 4 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 นฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ส.ก.เขตคลองสามวา ลุกยื่นญัตติ ขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการปรับเปลี่ยนรถราชการเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) โดยย้ำว่า กทม. เป็นหน่วยงานราชการที่มีรถราชการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถตู้โดยสาร รถตรวจการณ์ รถบรรทุกหน่วยบริการเคลื่อนที่เร็ว รถเก็บขนมูลฝอย รถบรรทุกน้ำ และรถบรรทุก ฯลฯ โดยรถดังกล่าวใช้เครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นต้นกำเนิดการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สูงกว่าร้อยละ 49 โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จะปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ถึง 0.10 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพการใช้ชีวิตของประชาชน รวมถึง สุขภาพของผู้ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับรถ เช่น พนักงานเก็บขนมูลฝอยที่ต้องทำงานต่อเนื่องทุกวัน

“กรุงเทพมหานครจึงควรดัดแปลงรถยนต์ดีเซลเดิมให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อยืดอายุการใช้งานรถยนต์ที่มีอยู่เดิมออกไปได้ หรือพิจารณาจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนรถยนต์เดิมที่หมดอายุการใช้งาน หรือที่จะต้องจัดซื้อใหม่ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดมลพิษทางอากาศและปัญหาฝุ่นละอองได้โดยตรง อีกทั้งยังเป็นการประหยัดงบประมาณค่า เชื้อเพลิงที่มีราคาสูง และหากกรุงเทพ มหานครสามารถตั้งสถานีดัดแปลงเครื่องยนต์ได้เอง จะสามารถให้บริการได้ทั้งรถราชการและประชาชน โดยอาจมีการนำร่องในเขตที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการจราจรและประชากรหนาแน่น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในราชการ

จึงขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการปรับเปลี่ยนรถราชการเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle)” ส.ก. คลองสามวา อธิบาย

ก่อนย้อนเล่าด้วยว่า ญัตตินี้เคยยื่นมาแล้วก่อนปีงบประมาณ 67 เนื่องจากใน กทม. มีรถสันดาปวิ่งอยู่กว่า 2.4 ล้านคัน โดยเป็นรถดีเซลในสังกัด กทม. เช่น รถเก็บขนมูลฝอยที่มีมากถึง 2,000 คัน และรถในแต่ละเขต อีกกว่า 500 คัน ถึงแม้จะไม่ถึง 1% ของรถที่วิ่งใน กทม.ก็ตาม แต่ก็พบว่ารถของ กทม.ใช้งาน วิ่งในระยะยาวนานกว่า ซึ่งการปรับเปลี่ยนรถราชการที่มีเครื่องยนต์ดีเซลเป็นรถ EV ก็เป็นเรื่องที่แม้แต่นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจ รวมถึงรัฐบาลจะผลักดัน พ.ร.บ.อากาศเพื่อให้ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ และประเทศไทย

“คลองสามวาเป็นเขตที่ติดอันดับ 1 ใน 5 เขตที่มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 สูงสุดในกรุงเทพฯ บ่อยครั้ง โดยฝุ่นละอองขนาดเล็กนอกจากจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังส่งผล กระทบกับประชาชนจำนวนมากด้วย เมื่อมาพิจารณาดูก็พบว่าหนึ่งในสาเหตุคือ รถดีเซล หาก กทม.เริ่มต้น จะทำให้ประชาชนเห็นว่าเราเป็นผู้นำ และเป็นต้นแบบให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศต่อไป”นฤนันมนต์กล่าว

ประเด็นนี้ เหล่า ส.ก.ร่วมสนับสนุนมากมาย อาทิ พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา, กิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก.เขตทุ่งครุ, ฉัตรชัย หมอดี ส.ก.เขตบางนา และ วิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก สุดท้าย ที่ประชุมสภา กทม. มีมติตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการปรับเปลี่ยนรถราชการเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) จำนวน 17 คน กำหนดระยะเวลาการศึกษา 90 วัน

จากภาพกว้าง ยังมีรายละเอียดให้โฟกัส อย่างโปรเจ็กต์เช่ารถไฟฟ้าเก็บขยะ ซึ่งสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน เคยสอบถามถึงความคุ้มค่า โครงการเช่ารถไฟฟ้าเก็บขนมูลฝอย กับการซื้อรถ ซึ่งเป็นรถสามล้อไฟฟ้าเพื่อเข้าไปช่วยชักลากขยะในชุมชนออกมายังถนนหลัก อำนวยความสะดวกให้กับรถขยะที่ไม่สามารถเข้าถึง

ขณะที่ จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. ชี้แจงว่า รถสามล้อไฟฟ้าเป็นรถที่ กทม. จัดเช่าเป็นครั้งแรก สำนักสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างการเปรียบเทียบราคาเช่ากับราคาซื้อ หากพบว่าการซื้อถูกกว่าการเช่าจำเป็นต้องขอยกเลิกรายการนี้

ด้าน พุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา ได้ร่วมอภิปรายและให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดซื้อรถไฟฟ้าของ กทม. ซึ่งต้องคำนึงถึงข้อกำหนดของรัฐบาลที่จะให้ใช้รถยนต์มาตรฐาน Euro 5 เพื่อควบคุมมลพิษในปีหน้า รวมถึงในการกำหนดรายละเอียดการจัดซื้อต้องกำหนดค่าปรับให้สูงสุดเพื่อให้ กทม.และประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด

ทั้งหมดนี้คือ ส่วนหนึ่งของความคืบหน้าของรถพลังงานไฟฟ้าที่กำลังเข้ามามีบทบาทในเมืองกรุงเพื่อหมายมุ่งลดมลพิษ ประหยัดพลังงาน และก้าวสู่วันพรุ่งนี้ด้วยชีวิตดีๆ ที่ (หวังว่า) จะลงตัว

 

 

ที่มา:  นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 23 ต.ค. 2566 (กรอบบ่าย)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200