เรียกได้ว่าเป็นอีเวนต์เหนือความคาดหมายพอประมาณ สำหรับงาน เฉลิมฉลองวาระครบรอบการสถาปนา 90 ปีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ 80 ปี มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งกระทำการเชคแฮนด์จ่อจัดกิจกรรม ‘2 ท่า 2 วัง’ สุดอลัง เนรมิต ‘ท่าพระจันทร์’ วังหน้า อันเป็นที่ตั้งของ ‘มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง’ กับ ‘ท่าช้าง’ วังท่าพระ อันเป็นที่ตั้งของ ‘โรงเรียนประณีตศิลปกรรม’
สำหรับรูปแบบกิจกรรม มีลักษณะเป็นเทศกาลศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ Human, Culture, and Arts for All จัดเต็มทุกวันอาทิตย์ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมประเดิมเป็นส่วนหนึ่งของ Colorful Bangkok 2023 หมุดหมายการท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานคร ตัดริบบิ้นแถลงไปเมื่อ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยว่า เนื่องในโอกาสวาระพิเศษที่เป็นการเฉลิมฉลองครบรอบการสถาปนา 80 ปีของมหาวิทยาลัยศิลปากร และ 90 ปีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้มีแนวคิดร่วมกันที่จะจัดกิจกรรมอันหลากหลาย ทั้งในเชิงวิชาการ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ การแสดง ดนตรี แฟชั่นโชว์ อาหาร ตลาดชุมชน รวมถึงสตรีทอาร์ต ที่สะท้อนถึงตัวตนและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ทั้งสองแห่งนี้ร่วมกัน
“มหาวิทยาลัยทั้ง 2 ของเราอยู่ใกล้กัน และต่างมีจุดแข็ง ความเชี่ยวชาญ ที่สามารถนำมาร่วมกันผสมผสาน ต่อยอด เพื่อพัฒนาระบบการศึกษา สร้างองค์ความรู้ที่แตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวาง จึงเป็นที่มาให้เกิดงานนี้ขึ้น และเรายังตั้งเป้าที่จะพัฒนาความร่วมมือในแง่ต่างๆ มากขึ้นร่วมกันต่อไปในอนาคต
รศ.เกศินีกล่าวว่า นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งยังมีความยินดี ที่ได้ร่วมมือกับ กทม.ในการเผยแพร่อัตลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับย่านสร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรม Colorful Bangkok เพื่อเนรมิตพื้นที่ให้เติบโต และเป็นสถานที่สร้างสรรค์สำหรับทุกคนในสังคมอย่างยั่งยืน จึงต้องขอบคุณความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมกันในการสร้างประสบการณ์ผ่านกิจกรรมนี้ และมุ่งหวังเป็นโอกาสให้คนทุกคนมาพบกัน ได้ร่วมสร้างการแบ่งปันในทางที่สร้างสรรค์สำหรับทุกคน” อธิการธรรมศาสตร์ ตัวแทนท่าพระจันทร์ วังหน้ากล่าว
ขณะที่ฝั่งท่าช้าง วังท่าพระ ศ.ดร.ธนะเศรษฐ์ ง้าวหิรัญพัฒน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ในส่วนของ ม.ศิลปากร มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานทั้งด้านวิชาการ การวิจัย การบริการสังคม และ ทำนุศิลปวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง มาตลอดระยะ เวลา 80 ปี ทั้งเป็นต้นแบบด้านศิลปวัฒนธรรมที่สะท้อนผ่านวิสัยทัศน์ ‘มหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งการสร้างสรรค์ บูรณาการศาสตร์และศิลป์ เพื่อความผาสุกของสังคมอย่างยั่งยืน’ จึงได้มีแนวคิดในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นร่วมกับธรรมศาสตร์
“เราได้เตรียมความพร้อมในการนำกิจกรรมต่างๆ มาจัดแสดงในงาน เช่น Graffiti จากศิลปิน ศิษย์เก่า นักศึกษา และผู้สนใจ การเดินแฟชั่นโชว์ การแสดงดนตรีจากนักศึกษา Projection Mapping Green Market and Food Truck ร้านค้าชุมชนในย่านสร้างสรรค์จาก กทม. รวมถึงยังผสานเข้ากับการจัดงานศิลปะ แสงสี และดนตรี Colorful Bangkok 2023 จากทาง กทม.ด้วย” ศ.ดร.ธนะเศรษฐ์กล่าว
ปิดท้ายท่าฟากฝั่งเสาชิงช้า ภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เผยว่า จากนโยบายของผู้ว่าฯกทม. ในการดำเนินโครงการเทศกาลศิลปะกรุงเทพ Colorful Bangkok ซึ่งจัดขึ้นในปีที่แล้ว มีเป้าหมายเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนวาระทางศิลปวัฒนธรรม สร้างให้ กทม.เป็นมหานครแห่งศิลปวัฒนธรรม ที่ได้รับการ ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ในปีนี้ กทม.ได้ดำเนินโครงการเทศกาลศิลปะกรุงเทพ Colorful Bangkok 2023 อีกครั้ง
“กทม.ต้องขอขอบคุณทั้งสองมหาวิทยาลัยที่ร่วมจัดกิจกรรม และเปิดพื้นที่สาธารณะให้คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ รวมไปถึงนักท่องเที่ยว ได้เข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างสีสันจากงานศิลปะแสงสี และดนตรีให้แก่ กทม.ในพื้นที่เขตเมืองเก่าชั้นในตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ ถือเป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่างภาครัฐและสถาบันการศึกษา ที่จะส่งผลดีต่อเมืองในระยะยาวต่อไป และ กทม.ก็ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่” ภิมุขกล่าว
‘2 ท่า 2 วัง’ Human, Culture, and Arts for All จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5, 12, 19 และ 26 พ.ย.2566 โดยจัดสลับระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ โดยมีกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสวนา การแสดงแสง สี เสียง โขนรามเกียรติ์ แฟชั่นโชว์ ดนตรีริมแม่น้ำเจ้าพระยา และอีกมากมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Colorful Bangkok 2023
ติดตามข่าวสารกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Pages มหาวิทยาลัยศิลปากร, สถาบันไทยคดีศึกษา มธ., มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรุงเทพมหานคร
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 24 ต.ค. 2566