…กรุงเทพมหานคร ลงนามความร่วมมือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อร่วมกันสนับสนุนการพัฒนารูปแบบและกลไกการดำเนินงานและการให้บริการของกรุงเทพมหานครนำไปสู่การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประชาชนมีความสุขมากขึ้น โดยมีกรอบความร่วมมือครอบคลุมเรื่องการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก สวทช. เพื่อประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในมิติต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนด้านระบบการศึกษาและสาธารณสุข…
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความยินดีขยายความร่วมมือกับ สวทช.ในครั้งนี้ เพื่อนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก สวทช. ไปใช้กับงานเชิงนโยบายและภารกิจของ กทม. ซึ่งครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านความปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม การศึกษา การเดินทาง เศรษฐกิจ และการบริหารจัดการ ทั้งนี้การสนับสนุนเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ในการพัฒนากลไกการดำเนินงานและการให้บริการ จะช่วยให้การบริหารจัดการแก้ปัญหาเมืองทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้คนกรุงเทพฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข และสามารถพัฒนาเมืองให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน เป็น smart city อย่างแท้จริง
โดย กทม.มีความพร้อมที่จะพัฒนาความร่วมมือ 5 ด้าน กับ สวทช. เพื่อใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและเทคโนโลยีที่ สวทช.พัฒนาขึ้น ได้แก่ 1.การบริหารจัดการจราจรด้วยระบบอัจฉริยะ (ITMS) เพื่อบริหารจัดการจราจรทั้งโครงข่ายและกวดขันวินัยจราจร 2.การตรวจแพทย์ทางไกล หรือTelemedicine 3.การศึกษาทางไกล เรื่องสื่อการสอนวิทยาศาสตร์ให้มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน 4.ด้าน Open DATA เปิดเผยข้อมูลโปร่งใส และ 5.เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม ทั้งปัญหาฝุ่นและขยะ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ และช่วยการปฏิรูปการทำงานของระบบราชการ จากการทำงานที่เคยเป็นแบบระบบท่อ ก็เปลี่ยนเป็นการรับเรื่องแก้ปัญหาอยู่บนแพลตฟอร์มและช่วยกันให้บริการประชาชน ซึ่งมีการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีโดยที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไม่จำเป็นต้องสั่งการด้วยตัวเอง ที่สำคัญทุกคนสามารถเห็นว่าทุกคำร้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการแก้ไขปัญหา และมีความโปร่งใสเท่าเทียมกันบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม
ศ.ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช.เป็นขุมพลังหลักของประเทศ ในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ และ สวทช. พร้อมสนับสนุนกรุงเทพมหานครในการพัฒนาเมืองอย่างเต็มที่ ดังตัวอย่างที่เห็นผลเป็นรูปธรรมเช่น การบริหารจัดการเมืองในรูปแบบเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City โดย กทม. ได้นำแพลตฟอร์ม Traffy Fondue พัฒนาโดยเนคเทค สวทช. ไปใช้ในการดูแลด้านความปลอดภัย ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านบริหารจัดการ เช่น การรับเรื่องร้องเรียน การแจ้งจุดเสี่ยง ความสะอาด การบริหารจัดการข้อมูลของเมือง
สำหรับงานวิจัยที่ สวทช. โดยเนคเทคได้นำร่องใช้กับ กทม. อาทิ แพลตฟอร์มรับเรื่องและบริหารจัดการเมือง หรือ Traffy Fondue โดยประชาชนแจ้งปัญหาผ่านChatbot ทาง Line Application : @traffy fondue ซึ่งระบบจะวิเคราะห์ปัญหาและส่งไปให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบ ช่วยให้เจ้าหน้าที่แก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวกรวดเร็วตรงตามความต้องการของประชาชนปัจจุบันมีผู้เข้ามาแจ้งปัญหาใน กทม.มากกว่า 180,000 เรื่อง ได้รับการแก้ปัญหาแล้วกว่า 120,000 เรื่อง (อ้างอิงข้อมูล www.traffy.in.th)
ส่วนในด้านการให้บริการสาธารณสุขเนคเทค สวทช. ได้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการส่งต่อผู้ป่วย (e-Referral) เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์หลังบ้านเพื่อส่งต่อผู้ป่วยจากระดับปฐมภูมิไปยังระดับทุติยภูมิ และส่งต่อไปยังตติยภูมิหรือหน่วยงานเฉพาะทาง และสามารถส่งต่อระหว่างจากหน่วยปฐมภูมิ(e-Referral) สู่โรงพยาบาล โดยแพทย์สามารถติดตามข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยทั้งสองฝั่งแบบ Real Time และส่งกลับเพื่อการรักษาได้ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ รองรับการทำงานการรับส่งต่อผู้ป่วยเพื่อดูแลต่อที่บ้าน (Home Health Care) ช่วยลดปัญหาความแออัดในการใช้บริการของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ปัจจุบันมีโรงพยาบาลสังกัดกทม.ใช้งานระบบ e-Referral แล้ว 7 แห่งได้แก่ 1.รพ.กลาง 2.รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ 3.รพ.ตากสิน 4.รพ.ราชพิพัฒน์ 5.รพ.สิรินธร 6.รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ และ 7.รพ.วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
นอกจากนี้ สวทช. ยังมีผลงานวิจัยที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพให้พี่น้องประชาชนเช่น ระบบ A-MED Telehealth แพลตฟอร์มบริการทางการแพทย์ทางไกล ตัวช่วยบุคลากรทางการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 กลุ่มสีเขียวและเหลือง รวมกว่า 1.3 ล้านคน ครอบคลุม 1,500 โรงพยาบาลทั่วประเทศ และเตรียมขยายผลสู่ A-MED Care โดยดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สภาเภสัชกรรม ร้านยาคุณภาพ สำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มโรคทั่วไป โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล ช่วยลดการเดินทางและค่าใช้จ่ายผู้ป่วย รวมถึงลดความแออัดให้แก่สถานพยาบาล
สวทช. พร้อมใช้ความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี รวมถึงแพลตฟอร์มบริการต่างๆ เพื่อเป็นแรงเสริมสำคัญด้านวิชาการที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของกรุงเทพมหานครให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 1 ธ.ค. 2565