ดันแผนแก้สุขภาพจิตชุมชน-ร.ร.

กทม.2 ดินแดง – เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่อาคารธานีนพรัตน์ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางบริหารจัดการผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตในกทม. ว่า ปัจจุบัน กทม.มีโครงการนำร่อง 58 โรงเรียน ในการประเมินนักเรียนรูปแบบใหม่ จากการสอบถามนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ที่มาเยี่ยมเด็กนักเรียนโรงเรียนสังกัดกทม.ว่า จากปัญหาเด็กเครียดที่ต้องเรียนออนไลน์ มีการเรียนช้าลง ทักษะบางอย่างหายไป แนวทางแก้ไขคือ เพิ่มเครื่องมือในการจัดการเรียนการสอน เช่น เกณฑ์การประเมิน หลักสูตร เพื่อพัฒนาเด็กให้กลับมาเหมือนเดิม จากภาวะเครียดจากการเรียนออนไลน์ และสาเหตุด้านเศรษฐกิจที่บ้านส่วนหนึ่งของเด็กนักเรียน

กทม.จึงเริ่มนำร่อง 58 โรงเรียน เน้นการเรียนการสอนแบบ EF (Executive Functions : การบริหารความสามารถทางสมอง) คือการพยายามเน้นให้เด็กใช้เหตุผลและมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ภายใต้กิจกรรมที่ใช้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง

น.ส.ทวิดากล่าวว่า จากเหตุยิงในสยามพารากอน กทม.ได้ประสานกับกรมสุขภาพจิต ในการสนับสนุนเครื่องมือคัดกรองเด็กที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตแก่โรงเรียนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เพื่อเฝ้าระวังเบื้องต้น โดยเน้นเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้เป็นตัวตั้ง ขณะเดียวกันก็เก็บข้อมูลความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตไปด้วย โดยเน้นการสื่อสารให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของเครื่องมือที่นำมาใช้พัฒนาการเรียนรู้ ไม่ได้มีเจตนาค้นหาผู้ผิดปกติโดยตรง ต้องระมัดระวังเรื่องนี้ เพราะมีความละเอียดอ่อน

นอกจากนี้ กรณีผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตในชุมชน กทม.กำลังประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกทม.มีโครงการชุมชนยั่งยืนอยู่แล้ว แม้จะ

เน้นเรื่องผู้ป่วยยาเสพติดแต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับการดูแลฟํนฟูสภาพจิตใจ จึงมีแผนขยายผลเพื่อดูแลผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตในชุมชนเพิ่มเติมด้วย คาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้ามากขึ้น

น.ส.ทวิดากล่าวต่อว่า โรงพยาบาลในสังกัดกทม.มีจิตแพทย์ประมาณ 23 คน สำนักอนามัย 1 คน ทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยระดับสีส้มและสีแดง ส่วนระดับสีเหลืองใช้นักจิตวิทยาสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาชุมชนในศูนย์บริการสาธารณสุข ซึ่งมีความสัมพันธ์กับชุมชนมากกว่า ประกอบกับศูนย์บริการสาธารณสุขมีคลินิกสุขภาพจิต 6 แห่ง แบ่งเป็น 6 โซนพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีจิตแพทย์ไม่เพียงพอต่อประชากร ผลิตแพทย์ด้านนี้ไม่ทันต่ออาการป่วยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และมีผู้เรียนด้านจิตแพทย์ไม่มาก สถานพยาบาลสังกัดกทม.จึงยังไม่สามารถรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น ทำร้ายร่างกายตนเองและ ผู้อื่นได้ ต้องส่งต่อไปยังหน่วยงานของกรมสุขภาพจิต คือ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา และ ร.พ.ศรีธัญญา

 

 

ที่มา:  นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 6 ต.ค. 2566

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200