#NEX #ทันหุ้น – สภากทม. ไฟเขียวเปลี่ยนรถเมล์เป็นรถอีวีทั้งหมด พบมีข้อมูลรถโดยสาร จดทะเบียนราว 60,346 คัน ด้าน บขส.เตรียมออก TOR สัญญาเช่ารถบัส EV เร็วๆ นี้ คาดได้ผู้ชนะประมูลต้นปีหน้า ด้าน ซีอีโอ NEX ประกาศพร้อมทุกด้านเข้ารับงาน พร้อมทำตลาดรถสองแถว ขณะที่ตลาดรถบรรทุกอีวีดันงบไตรมาส 4 สดใส
จากกรณีที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร เห็นชอบญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง รถโดยสาร ประจำทางพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ พ.ศ.. หรือร่างกฎหมายรถเมล์อนาคต ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนเสียง 30 : 0 ข้อบัญญัตินี้ จะส่งผลให้รถเมล์ที่วิ่งใน กทม. ต้องเป็นรถไฟฟ้า (EV) ทั้งหมด โดยมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 7 ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายลดฝุ่นละออง PM2.5 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มอบคุณภาพอากาศที่ดีให้ประชาชน รวมถึงพัฒนา คุณภาพการให้บริการรถเมล์ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชน ที่มีผู้ใช้งานหลักล้านคน
นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ผลักดันข้อบัญญัตินี้ กล่าวใน ที่ประชุมสภา กทม. ว่า ข้อบัญญัติรถเมล์อนาคต จะอยู่กับลูกหลานของคนกรุงเทพฯ ไปอีกหลายสิบปี เป็นหลักประกันว่าแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 จากรถเมล์ สาธารณะจะต้องลดลง และหากรัฐบาลรับลูกการส่งเสริม รถไฟฟ้าอย่างจริงจัง จะทำให้เกิดการจ้างงานอย่างมหาศาล สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมกับส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการไทยได้โชว์ผลงาน โดยมีกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ปักธงในสนามแรก
บขส.เปลียนใช้อีวี
ด้านดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า บขส. เดินหน้านโยบายที่จะเปลี่ยนรถบขส.เป็นรถบัสไฟฟ้า (EV-BUS) โดยเตรียมที่จะออก TOR แรก เช่ารถบัสไฟฟ้า ระยะเวลา 5 ปี แบ่งเป็นรถมินิบัสไฟฟ้า จำนวน 54 คัน และรถบัสไฟฟ้า ขนาด 12 เมตร จำนวน 12 คัน คาดว่าจะได้ผู้ชนะประมูลภายในต้นปี 2567 และจะเดินหน้าในการเปลี่ยน รถบขส. เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมดในระยะต่อไป
ในส่วนของรถร่วม บขส. ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ ในการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรถหรือไม่ แต่เท่าที่สอบถาม เบื้องต้นมี เน็กซ์ เอ็กเพรส และรายอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเปลี่ยนมาใช้รถอีวี
NEX พร้อมรับงาน
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า สภากรุงเทพมหานครเห็นชอบญัตติเรื่องการใช้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ จะครอบคลุมถึงรถโดยสารทั้งหมดทั้งรถเมล์ทั้งในส่วนของรถร่วมประจำทาง, รถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก., รวมไปถึง รถของบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส, รถสองแถว, รถตู้ ซึ่งนับเป็นรถโดยสาร ทั้งหมด ที่วิ่งเข้ากรุงเทพมหานคร หวังว่าจะเป็นผลดี ในเรื่องของการลดการเกิดฝุ่น PM2.5 เพื่อให้ประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปจำหน่ายรถเมล์ไฟฟ้า ให้แก่ รถร่วมประจำทางกว่า 3,000 คัน ดังนั้นเชื่อว่า ศักยภาพในการเข้าไปดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะสามารถสร้างโอกาสในการรับงานต่อไปได้ อย่างในส่วนรถของ ขสมก. มีจำนวนกว่า 1,888 คัน ขณะที่ บขส.ก็มีรถกว่าพันคัน และล่าสุดบริษัทได้เข้าไปทำตลาดในส่วนของรถเมล์สองแถวไฟฟ้าแล้วคาดว่าจะเป็นโอกาสในการที่จะเพิ่มยอดขายให้แก่กลุ่มบริษัทอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทมีกำลังการผลิตเพียงพอปีละกว่า 9,000 คันต่อปี และยังมีกำลังการผลิตในส่วนของรถบรรทุกไฟฟ้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง S-Curve ของบริษัทที่ปัจจุบันมีดีมานด์เข้ามาจำนวนมาก
โอกาสรับงานเพียบ
นายคณิสสร์ กล่าวว่า บริษัทยังมีโอกาสที่จะเข้าไป รับงานรถขยะไฟฟ้าของกรุงเทพมหานครอีกด้วย ซึ่งคาดว่า TOR จะออกในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยระยะแรกจะอยู่ที่ 842 คัน ดังนั้นบริษัทเชื่อว่าผลประกอบการของไตรมาส 4/2566 จะเห็นการเติบโตขึ้น จากการส่งมอบรถเมล์ไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และโอกาสในการเข้าไปรับงานของหน่วยงานรัฐที่จะเข้ามาสนับสนุนยอดขายให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะปัจจุบันความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการลดต้นทุนรวมไปถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในขณะนี้
อนึ่งกรมขนส่งทางบกได้มีการรายงาน สถิติการขนส่งประจำปี 2565 พบว่ามีรถโดยสารประจำทางที่จดทะเบียนสะสม วันที่ 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 60,346 คัน
บรรยายใต้ภาพ
คณิสสร์ ศรีวชิระประภา
ที่มา: นสพ.ทันหุ้น ฉบับวันที่ 6 ต.ค. 2566