ยันเดินหน้ายุบทั้ง1669-199เหลือแค่’191′

กรณีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) มีแนวคิดยุบหมายเลขฉุกเฉิน 1669 ไปรวมกับหมายเลข 191 ของตำรวจ ทำให้ประชาชนวิตกกังวลว่าหากมีการรวมเบอร์จริงจะเกิดปัญหายิ่งกว่าเดิม เนื่องจากปกติเบอร์ 191 ต้องรอสายนานอยู่แล้ว ขณะที่ สพฉ.แจงเหตุผลของการรวมเบอร์ เพราะปัจจุบันมีสายเรียกเข้าที่ไม่เกี่ยวกับผู้ป่วยฉุกเฉินถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ และเซตระบบก่อนใช้งานจริง

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ต.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณียุบหมายเลขฉุกเฉิน 1669 รวมกับเบอร์ฉุกเฉิน 191 ว่าเรื่องนี้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อปี 2561 ในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ศูนย์รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ 199 เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุได้อย่างทันท่วงที โดยได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่งบประมาณปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขั้นตอนอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติการจัดซื้อจัดจ้างตามขั้นตอนของกรมบัญชีกลาง

ที่ศาลาว่าการ กทม. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องนี้มีการหารือร่วมกันมาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้ว กทม.ร่วมประชุมใหญ่กับตำรวจที่จะรวมเป็นเบอร์เดียวกันเพื่อจะทำให้เป็นระบบ ที่ผ่านมามีการทบทวนถึงรูปแบบที่จะทำ ใช้ระยะเวลาถึง 1 ปี เข้าใจว่ารูปแบบใหม่จะทำให้ระบบดีขึ้น เพราะระบบของแต่ละหน่วยจะมาเชื่อมกัน ไม่ใช่เป็นการนำระบบใหม่เข้ามาสวมแล้วอบรมกันใหม่หมด ทั้งนี้ หากระบบเชื่อมกันแล้ว ข้อดีคือเมื่อ โทร.เข้าไปแล้วจะมีการแยกออกเป็นการแพทย์ (Medic) กับไม่ใช่การแพทย์ (Non-Medic) ทั้งนี้ หากยุบรวม 1699 สพฉ.ใหญ่จะทดลองก่อน จากนั้น กทม.ถึงจะนำมาทดลองในพื้นที่ แต่ปัจจุบัน สพฉ.ใหญ่ยังไม่ได้มีการทดลอง เพราะต้องดูรายละเอียดของระบบก่อนและค่อยๆ เริ่ม ตอนนี้ กทม.เตรียมความพร้อมในการที่จะทำระบบ เนื่องจากได้พูดคุยกับ สพฉ.มาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว ยืนยันพร้อมรับแนวคิดนี้

น.ส.ทวิดากล่าวต่อว่า คาดว่าช่วงมีการทดลองระบบอาจจะยังคงใช้เป็นระบบคู่ขนาน ประชาชนยังกดหมายเลข 1669 ได้ แต่ทั้งนี้ในส่วนของ กทม.ต้องเตรียมความพร้อมไว้ จากนี้จะสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เตรียมช่องทางและวางแนวทางในการรับและส่งต่อข้อมูลให้รวดเร็วไม่ตกหล่นและไม่ซ้ำซ้อน เพื่อให้การบริการประชาชนและการบริหารเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งสำคัญที่สุดคือช่วงปรับระบบจะต้องไม่ตกหล่น จึงมีแนวทางว่าระบบเก่าก็ยังคงต้องให้บริการทำงานแบบคู่ขนานกันไปก่อนสักระยะ

 

 

ที่มา:  นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 5 ต.ค. 2566 (กรอบบ่าย)

แชร์ข่าว:
กรุงเทพฯ มีอะไร อัพเดทข่าวสารฉับไว กิจกรรมที่น่าสนใจ และมีส่วนร่วมได้ รวมไว้ให้ที่นี่

©2022 สงวนลิขสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร

สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร 173 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. 10200