กทม.ประสาน กฟน.ตรวจสอบจุดเสี่ยงอันตรายจากสายไฟฟ้า-หม้อแปลงด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบสาเหตุการเกิดประกายไฟบริเวณเสาไฟฟ้าริมถนนย่านบรรทัดทองว่า สนย.ได้ประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้รับแจ้งว่า สาเหตุที่เกิดประกายไฟพุ่งในจุดดังกล่าวเกิดจากอุปกรณ์ต่อสายไฟฟ้าแรงดันกลางชำรุดที่จุดต่อบนเสาไฟ ทำให้เกิดประกายไฟ ซึ่ง กฟน.ได้ดำเนินการแก้ไขโดยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ชำรุดและสามารถใช้งานได้เป็นปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก กฟน.ได้ตรวจสอบจุดต่อสายไฟฟ้าในถนนบรรทัดทองทั้งหมดด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนแล้วไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด
นอกจากนั้น ยังมีแผนที่จะตรวจสอบอุปกรณ์ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนตามจุดเสี่ยงอันตรายจากสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า และหม้อแปลงไฟฟ้าในถนนพื้นที่อื่น ๆ ตลอดจนเตรียมความพร้อมช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้าแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมงกรณีตรวจพบมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เพื่อป้องกันอันตรายและเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
กทม.ประสานความร่วมมือจัดระเบียบแก้ปัญหาคนเร่ร่อน-ขอทานย่านราชประสงค์-หัวลำโพง
นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ข้อความ ระบุทางเท้าบริเวณราชประสงค์ พบรถเร่ขายผลไม้จอดแช่ริมทางและขอทานบริเวณทางขึ้นรถสะพานลอยว่า สำนักงานเขตปทุมวันได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจตรวจสอบกวดขันจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ถึงแยกราชประสงค์ไม่ให้มีผู้ค้าตั้งวางขายสินค้ากีดขวางทางสัญจรอย่างต่อเนื่องและเพิ่มความเข้มงวดกวดขันจัดระเบียบทางเท้าในพื้นที่เขตปทุมวัน กรณีมีรถขายผลไม้จอดค้าขายบนผิวการจราจร เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ไม่ให้ตั้งวาง หรือจำหน่ายสินค้าค้าบนรถจอดบริเวณผิวการจราจร พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในพื้นที่ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพ เพื่อบูรณาการความร่วมมือบริหารจัดการแก้ไขปัญหาขอทานต่างด้าวในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณแยกมหานคร แยกหัวลำโพง ถนนพระรามที่ 4 รวมถึงบริเวณสถานี MRT หัวลำโพง พบบุคคลเร่ร่อน จึงได้ประชาสัมพันธ์ไม่ให้นอนในที่สาธารณะ กรณียังพบบุคคลมีปัญหาทางจิตเร่ร่อนนอนในที่สาธารณะ สำนักงานเขตฯ ได้นำบุคคลดังกล่าวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นบุคคลไร้ที่พึ่ง สามารถแจ้งปัญหาบุคคลไร้ที่พึ่งเร่ร่อนในที่สาธารณะได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม.กล่าวว่า สพส.ได้บูรณาการความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบคนเร่ร่อนและผู้ทำการขอทานในพื้นที่สาธารณะของ กทม.มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น สำนักงานเขต สำนักเทศกิจ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมสุขภาพจิต สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สถานีตำรวจนครบาล (สน) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิอิสรชน โดยให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนขอทาน (คนไทย/คนต่างด้าว) ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จัดระเบียบในพื้นที่ที่มีผู้ทำการขอทาน เช่น ย่านธุรกิจ ใกล้ห้างสรรพสินค้า ตลาด แหล่งชุมชน และบริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีหัวลำโพง และถนนมหาพฤฒาราม ได้สำรวจ คัดกรอง จัดทำประวัติ ให้คำปรึกษา แนะนำ ทำความเข้าใจกับผู้ที่เข้ามาพักอาศัยหลับนอน หรือใช้พื้นที่สาธารณะ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน โดยอำนาจหน้าที่การดำเนินการด้านคนขอทานเป็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัด พม. ส่วน กทม.ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 หากพบผู้ทำการขอทานต่างด้าวในเขตพื้นที่จะนำส่งผู้ทำการขอทานดังกล่าว ให้ สน.ในพื้นที่ เพื่อสอบสวน บันทึกการจับกุม เปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทานฯ และส่งไปสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
ส่วนการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือคนเร่ร่อน กทม.ได้จัดระเบียบให้คนเร่ร่อนเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ รวมถึงการคุ้มครองสวัสดิภาพ นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีหัวลำโพง ถนนมหาพฤฒาราม และบริเวณใกล้เคียงอื่น ๆ เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 กรณีสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่สัญจรไป-มา หรือสร้างความไม่สะอาดในพื้นที่ รวมถึงการใช้พื้นที่สาธารณะเป็นที่พักอาศัยหลับนอน ขณะเดียวกันยังได้เปิดพื้นที่สวัสดิการ “จุดบริการสวัสดิการสังคม (drop in)” ในพื้นที่เขตพระนคร 2 แห่งคือ บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและบริเวณตรอกสาเก โดยจัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา ส่งเสริมสนับสนุนในด้านต่าง ๆ การคัดกรอง จัดเก็บข้อมูล เพื่อติดตามการช่วยเหลือ การให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการ อาทิ การทำบัตรประจำตัวประชาชน การรักษาพยาบาล การส่งเสริมอาชีพ การจัดหางาน บริการห้องสุขา ห้องอาบน้ำ บริการรับบริจาคแจกอาหาร และการมีที่พักอาศัย รวมถึงส่งกลับคืนสู่ครอบครัว
เขตบางกะปิแจงการสร้างหอพระ พร้อมจัดระเบียบที่จอดรถอำนวยความสะดวกผู้มาติดต่อราชการ
นายไพรัตน์ เกษตรสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ กทม.กล่าวกรณีมีการตั้งข้อสังเกตถึงการก่อสร้างศาลขนาดใหญ่ในพื้นที่สำนักงานเขตบางกะปิ อาจส่งผลให้พื้นที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาติดต่อราชการกับสำนักงานเขตไม่เพียงพอว่า การสร้างพระพุทธรูปและหอพระประจำเขตบางกะปิ เป็นการจัดสร้างในวาระที่สำนักงานเขตฯ ก่อตั้งและให้บริการประชาชนมาแล้วถึง 112 ปี แต่ยังไม่เคยจัดสร้างพระพุทธรูป เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจและเพื่อเป็นสถานที่สักการบูชาของข้าราชการ ลูกจ้าง ประชาชน และชุมชนในเขตบางกะปิ โดยสำนักงานเขตฯ ร่วมกับภาคประชาชน ภาคเอกชน และวัดในพื้นที่เห็นชอบร่วมกันที่จะสร้างหอพระและพระพุทธรูปประจำเขตบางกะปิขึ้น ทั้งนี้ ได้กราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่เขตบางกะปิถึงการจัดสร้างด้วยแล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนให้ดำเนินการสร้างพระพุทธรูปและหอพระดังกล่าว ประกอบกับบริเวณแยกบางกะปิอยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งในส่วนของทางเชื่อม (Sky Walk) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และห้างสรรพสินค้าตามแนวถนนลาดพร้าว อีกทั้งยังมีทางลงจาก Sky Walk มายังสำนักงานเขตฯ หอพระแห่งนี้ จึงจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมเชิงพุทธในพื้นที่เขตบางกะปิต่อไป
อย่างไรก็ตาม การจัดสร้างหอพระดังกล่าวไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการ แต่เป็นการร่วมแรงร่วมใจของพุทธศาสนิกชนในชุมชน ผู้ประกอบการพื้นที่เขตบางกะปิ ข้าราชการและลูกจ้างเขตบางกะปิ โดยมีวัดศรีบุญเรืองร่วมเป็นเจ้าภาพหลักรวบรวมกองบุญในการก่อสร้างจากการร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี พร้อมด้วยการออกแบบพระพุทธรูป ซึ่งมีเอกลักษณ์ทางพุทธศิลป์ และขอประทานนามพระพุทธรูปจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.9) และเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ถวายนามพระพุทธรูป เพื่อเป็นที่สักการบูชาแห่งพุทธบริษัททั้งหลายว่า “พระพุทธบางกะปิมหาวชิรมงคล”
สำหรับพื้นที่ที่ใช้ก่อสร้าง เป็นการใช้พื้นที่เดิมของศาลพระภูมิ ศาลตายาย และพื้นที่จอดรถจักรยานยนต์สำหรับข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนผู้มารับบริการบางส่วน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จึงต้องกันพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าว ประกอบกับช่วงนี้มีประชาชนมาติดต่อราชการ เพื่ออุทธรณ์การเสียภาษี จึงไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดระเบียบที่จอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มาติดต่อราชการ โดยห้ามไม่ให้ข้าราชการและลูกจ้างนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาจอดภายในสำนักงานเขตฯ อีกทั้งยังได้จัดสรรและพัฒนาพื้นที่ว่างข้างสำนักงานเขตฯ เพื่อเป็นที่จอดรถของทางราชการและสามารถรองรับประชาชนที่มารับบริการได้เพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
เขตวัฒนาประสาน กฟน.แก้ไขไฟฟ้ารั่วบริเวณปากซอยทองหล่อ 23 เร่งหาแนวทางป้องกันกิ่งไม้ระสายไฟ
นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุประชาชนได้รับบาดเจ็บจากกระแสไฟฟ้ารั่วบริเวณปากซอยทองหล่อ 23 เขตวัฒนาว่า สำนักงานเขตวัฒนา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า วันที่เกิดเหตุฝนตกและมีลมพัดแรง ทำให้กิ่งไม้เสียดสีกับสายไฟฟ้าขาดร่วงลงมา ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้แจ้งการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้าดำเนินการแก้ไขสายไฟจุดดังกล่าว รวมถึงดูแลเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วและได้ประสาน กฟน.ตรวจสอบเสาไฟฟ้าและหม้อแปลงไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ขณะเดียวกันสำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือสำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.ขอสนับสนุนนักวิชาการเกษตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านรุกขกร ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของต้นไม้ในพื้นที่สาธารณะในซอยสุขุมวิท 55 โดยร่วมตรวจกับเจ้าหน้าที่ของฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะที่ผ่านการอบรมหลักสูตรรุกขกรเบื้องต้นของสำนักงานเขตฯ รวมถึงเตรียมหาแนวทางการป้องกันกิ่งไม้ระสายไฟฟ้าสำหรับการตัดแต่งต้นไม้ตามแนวสายไฟฟ้าประจำปีงบประมาณ 2566 ในซอยสุขุมวิท 55 สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามแผนร่วมกับ กฟน.ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.66 และ ส.ค.-ก.ย.66 รวมจำนวน 263 ต้น ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2567 สำนักงานเขตฯ ได้กำหนดแผนการตัดแต่งตามแนวสายไฟฟ้าในซอยสุขุมวิท 19, 23, 55, 63, 71 และ 77
เขตบางซื่อดำเนินคดีสถานบันเทิงย่านถนนกรุงเทพ-นนทบุรีฝ่าฝืนประกอบกิจการ
นายสรสิช เหลืองรุ่งเกียรติ ผู้อำนวยการเขตบางซื่อ กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนสถานบันเทิงบริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี เปิดบริการโดยไม่มีใบอนุญาตและประกอบกิจการส่งเสียงดังรบกวนว่า สำนักงานเขตบางซื่อ ได้ตรวจสอบพบสถานบันเทิงดังกล่าวประกอบกิจการเมื่อปี 2561 โดยจำหน่ายอาหารและจัดให้มีการแสดงดนตรีโดยไม่ได้ใบรับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งสำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และสถานบันเทิงได้รื้อถอนอาคารตามคำพิพากษาของศาล เนื่องจากไม่ได้รับใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารเมื่อปี 2566 ภายหลังได้มีการประกอบกิจการอีกครั้งใกล้เคียงบริเวณเดิม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และแจ้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป