นายกรัฐมนตรีห่วงใยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ กำชับกรมชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำ ให้เฝ้าระวังทุกจุด “ชัชชาติ” แจงสถานการณ์ฝนถล่มกรุงเมื่อคืน วันที่ 26 ก.ย. จนถนนหลายสายใน กทม.โดยเฉพาะย่านอุดมสุข บางนา ที่กลายเป็นเมืองบาดาล ผู้คน ต้องเดินลุยน้ำ รถราฝ่าการจราจรบนถนนอย่างทุลักทุเล สั่งตั้งจุดรวมพล 6 แห่ง ทำงาน 24 ชม. พร้อมรับปัญหา จุดเสี่ยงน้ำท่วม ให้สำนักงานเขตออกสำรวจประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพื่อรับการเยียวยา ปราจีนบุรีน้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงติดค้างในบ้าน กู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือ
ทั่วทุกภาคยังมีฝนตกหนักไม่เว้นแม้แต่กรุงเทพมหานคร ที่เพียงฝนตกลงมาถนนหลายสายในเมืองกรุงกลับกลายเป็นคลองทันที โดยเมื่อคืนวันที่ 26 ก.ย. ที่มีฝนตกหนักหน่วงแทบทุกพื้นที่ของ กทม. ส่งผลให้ตลาดอุดมสุข ถนนอุดมสุข ย่านบางนา ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ช่วงพระราม 9 มาจนถึงลาดพร้าว เจอภาวะน้ำท่วมหนักสุด จนคล้ายเป็นเมืองบาดาล ผู้คนต้องเดินลุยน้ำ รถราค่อยๆแล่นฝ่าการจราจรบนถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงอย่างทุลักทุเล
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่อาคารไอราวัตนา ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกเมื่อคืน 26 ก.ย. ว่า ปรากฏการณ์ฝนที่เข้ามาลักษณะฝนเป็นหย่อมอ้อยอิ่งนาน 2 ชม.ครึ่ง แถวบางนา พระโขนง ปริมาณฝน 143 มม.เฉพาะเขตบางนาในรอบสัปดาห์ มีฝนตกรวมกว่า 300 มม. ทำให้น้ำท่วมสุขุมวิท 101/1 อุดมสุข สรรพาวุธ บางนา แบริ่ง ฝนตกตั้งแต่ 18.00 น. หยุด 21.00 น. กทม.เร่งระบายน้ำจนแห้งช่วง 03.00 น. มีบางจุดต้องปรับปรุงเพราะมีการเร่งสูบน้ำแล้วไหลเข้าไปในบ้านประชาชน นอกจากนี้ยังพบปัญหาการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองเคล็ด ยังไม่แล้วเสร็จจึงทำให้การระบายน้ำในเขตบางนาและใกล้เคียงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมบ้าน ให้เขตไปสำรวจเพื่อเยียวยาต่อไป ไม่ใช่เฉพาะเขตบางนาเท่านั้น แต่ให้ทุกเขตไปสำรวจประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมบ้านเพื่อเยียวยาเช่นกัน
ด้านนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม.กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมจุดรวมพลเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในจุดเสี่ยงน้ำท่วม กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก ที่สำนักงานเขตมีนบุรี ว่า กทม.ได้ตั้งจุดรวมพลเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในจุดเสี่ยงน้ำท่วม บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วม 6 แห่ง มีเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้ 1.พื้นที่กรุงเทพเหนือ ที่สำนักงานเขตหลักสี่ 2.พื้นที่กรุงเทพกลาง ที่สำนักงานเขตดินแดง 3.พื้นที่กรุงเทพใต้ ที่สำนักงานเขตบางนา 4.พื้นที่กรุงเทพตะวันออก ที่สำนักงานเขตมีนบุรี 5.พื้นที่กรุงธนเหนือ ที่สำนักงานเขตบางพลัด และ 6.พื้นที่กรุงธนใต้ ที่สำนักงานเขตบางแค มีหน้าที่ติดตามสถานการณ์ฝนกับศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้ประชาชนทราบ
ขณะที่เมื่อคืนวันเดียวกัน ร.ต.อ.ชัยณเรศ สุพร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ไปสอบสวนเหตุคนถูกไฟดูดเสียชีวิต ที่บ้านในซอยอุดมเดช 7 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการพบร่างนายสมศักดิ์ มีอนันต์ อายุ 66 ปี นอนหงายเสียชีวิต มีรองร่อยไหม้ที่คิ้วขวาและขาทั้ง 2 ข้าง บนศีรษะผู้ตาย พบเครื่องสูบน้ำล้มอยู่ ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนัก ผู้ตายบอกว่าจะไปเสียบสายที่สูบน้ำบริเวณหลังบ้าน แต่หายไปนานจึงเดินไปดู พบสามีนอนหงายอยู่กับพื้น สันนิษฐานว่าสายเสียบอาจชำรุดทำให้กระแสไฟฟ้าดูดผู้ตายล้มลงเสียชีวิตและทับสายไฟจนเป็นรอยไหม้ที่ขา 2 ข้าง
ช่วงเย็นวันที่ 27 ก.ย. มีเรือประมงเครื่องพังติดอยู่กลางทะเลใกล้กับเกาะทะลุ อ.แกลง จ.ระยอง ห่างชายฝั่งประมาณ 7 ไมล์ทะเล นายวิทูรย์ ประมงเรือเล็กแหลมแม่พิมพ์ ได้ส่งเรือประมงกลุ่มประมงเรือเล็กออกไปช่วยเหลือ และเผยว่า เรือประมงที่ออกไปหาปลาในวันนี้เพราะกรมอุตุฯเตือนว่า งดออกจากฝั่งวันที่ 28 ก.ย. จึงไม่คิดว่าวันนี้จะมีคลื่นลมแรง ปรากฏว่ามีคลื่นลมแรงและคลื่นสูงเป็นเหตุให้เรือเครื่องพัง ขณะที่นายโสธร เทพนุเคราะห์ นายกสมาคมประมงสุนทรภู่ เผยเรือที่เครื่องเสียอยู่กลางทะเลได้รับการช่วยเหลือจากเรือไดหมึกลากจูงกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย สำหรับทะเลขณะนี้มีคลื่นลมแรงมากได้ห้ามเรือทุกลำออกทะเลเด็ดขาดจนกว่าคลื่นลมจะสงบ
ที่ จ.ปราจีนบุรี เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนในหมู่ 4 บ้านวังมะกรูด ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง น้ำป่ายังไหลหลากในคลองห้วยไคร้ ทำให้น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ขณะที่ชาวบ้านเร่งขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำท่วม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทยระดมเจ้าหน้าที่ลุยน้ำเข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงออกมาขณะที่น้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากมวลน้ำที่ไหลจากฝั่ง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีพื้นที่ติดต่อกัน
ที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงบ่ายเกิดพายุฝนเทตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ตลาดบ้านหนองคอก บ้านเกาะลอย บ้านสันติสุข บ้านเกาะกระทิง ส่งผลให้มีน้ำสะสมหนัก ไหลหลากเอ่อล้นท่วมถนนหลวง 3076 อ.ท่าตะเกียบ ถึง อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ช่วงสี่แยกตลาดปลาบ้านหนองคอกรถยนต์ขนาดเล็กแล่นไม่ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพนมจุดท่าตะเกียบ ช่วยเข็นรถและนำรถที่เครื่องยนต์ดับขึ้นไหล่ทาง เก็บทะเบียนรถที่หล่นน้ำ นอกจากนี้ รถยนต์ขนาดเล็กที่พากันวิ่งเร็วเพราะตกใจที่มาเจอสภาพน้ำท่วมทำให้เกิดคลื่นซัดเข้าบ้านร้านค้า จนเก็บของกันวุ่นวาย ถังขยะลอยเกลื่อน ร้านค้าบางร้านเก็บของหนีน้ำไม่ทัน
วันเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะกรมชลประทาน ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำชี-มูล พร้อมรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์น้ำและการรับมือปริมาณฝนที่ตกลงมาระยะนี้ นายกฯได้สอบถามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ที่น้ำท่วมหนักต้องเฝ้าระวัง เพราะน้ำท่วมทุกปีและท่วมนาน จะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ไปดูสถานการณ์น้ำ นายกฯยังมอบนโยบายว่า เป็นห่วงเรื่องน้ำท่วม ฝากเฝ้าระวังในทุกจุด เข้าใจว่าทุกคนทำงานหนัก แต่ปัญหาน้ำท่วมมีผลกับปัญหาเศรษฐกิจ ฝากดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ให้ลืมเหนื่อยกันหน่อยในช่วงนี้ ต้องวางแผนพร้อมรับมือ ทราบอยู่ว่าทุกคนมีภารกิจเยอะ รัฐมนตรีมาใหม่คงเคี่ยวหนักอยู่ เป็นกำลังใจให้ทุกคนขอให้เข้าใจกัน ประชาชน เดือดร้อน
บรรยายใต้ภาพ
หนีน้ำ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 บ้านวังมะกรูด ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เร่งขนย้ายข้าวของต่างๆ ออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม หลังมีฝนตกหนักในพื้นที่หลายชั่วโมง จนน้ำในคลองห้วยไคร้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้าน มีผู้สูงอายุกับผู้ป่วยติดเตียงติดอยู่ในบ้าน จนท.กู้ภัยต้องมาช่วย ขณะที่ ยังมีน้ำไหลจากฝั่ง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ไหลเข้ามาสมทบ.
ที่มา: นสพ.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 28 ก.ย. 2566