“ชัชชาติ” แถลงยันไม่มีมูลความจริง! ข่าว “ป” เรียกผู้ช่วยผอ.เขตอบรมเพื่อซื้อตำแหน่ง งัดหลักฐานโชว์แชทกลุ่มไลน์ ผู้ช่วยฯนัด อบรมกันเองเพิ่มความรู้นอกเวลาราชการ / ลั่น! ไม่ทนกับทุจริต คนกทม.ก็ไม่เว้น
วันที่ 5 ก.ย. 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงชี้แจงกรณี การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กทม. ระดับ ผู้บริหาร ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) โดยกล่าวว่า จากประเด็นข่าวในสื่อว่า มีการเรียกผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตมาเพื่อการเลื่อนตำแหน่ง ในวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา (3 ก.ย. 2566) โดยมีที่ปรึกษาผู้ว่าฯประพฤติตนไม่เหมาะนั้น
“ต้องกราบเรียนว่าไม่มีมูลความจริง เลย ต้องขอบคุณสื่อที่กรุณาเตือน เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ไปสอบถามดูว่ามีประเด็นไหนที่ทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เข้าใจว่า มีการเอ่ยชื่อถึงคนชื่อ ป ซึ่งถ้าดูแล้วคนที่ช่วยงาน เรามีคนเดียว คือ ท่านปารุส อรหัตมานัส (ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของผู้ว่าฯ) เป็นข้าราชการเกษียณ ไม่มีอะไรเลย เป็นคนที่อยู่ กทม.มานาน เกษียณที่ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง เป็นคนที่เข้าใจระบบงานดี เกษียณแล้วก็เข้ามาช่วยดูกิจการ กทม. ไม่ได้ มีเงินเดือนอะไร มีเงินบำนาญอยู่ และได้ช่วย มาตลอด พูดให้ชัดคือเรามีคนมาช่วย ถามว่า มีการเรียกรับหรือไม่ ผมยืนยันว่าการเลื่อนตำแหน่งต่างๆ เราไม่มีการไปเรียกเก็บเรียกส่วยอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าเราต้องการคนดีมาทำงาน ถ้าเราเอาคนทุจริตมาเป็นทีมงานเราสุดท้ายเราแย่เอง ไม่มีทางที่จะเอาคนที่ไม่ไว้ใจ ไม่เก่งงานมา การจะไปเรียกรับผลประโยชน์ไม่มีอยู่ในความคิดของทีมนี้”
ผู้ว่าฯ ชัชชาติยังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้อำนวยการเขตเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารเขต เรามี 50 คน แต่งตั้ง มาจากผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หรือจากหน่วยงานอื่นที่โยกย้ายมา ปัญหาสำคัญคือ ผู้ช่วยฯผอ.เขตอาจจะรู้บางด้าน อาจจะไม่รู้ ทุกด้าน กทม.มีการอบรมผู้บริหาร 3 รูปแบบ คือ นักบริหารระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง โดยสถาบันพัฒนาฯ และได้มีการอบรมผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตเป็นหลักสูตรเร่งรัด ทุกคนอบรมหมดไม่ได้มีการเลือกที่รักมักที่ชัง อบรม 3 วัน 2 คืน ตนไปเปิดอบรมด้วยตัวเองที่สถาบันฝึกอบรม ข้าราชการฯที่หนองจอก เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา (ก.ค. 2566) เพื่อให้ผู้ช่วยฯผอ.เขตทุกเขต ได้มาอัปเดตข้อมูล เทคโนโลยีใหม่ นโยบายต่างๆ ซึ่งผู้ช่วยฯจะมีไลน์กลุ่มกัน มีการ นัดมาอบรมความรู้เพิ่มเติม เป็นเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ย. ผู้ช่วยฯที่อบรมไปแล้ว ได้มีการนัดกันมาฟังบรรยายเรื่องพระราชบัญญัติควบคุมอาคารปี 2522 จากอดีตผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ (ธนาชิต ชูติกาญจน์) ที่สำนักงานเขตวังทองหลางเนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวาง มีผู้ช่วยฯผอ.เขต เข้าอบรมประมาณ 40 คน จากที่ลงทะเบียน 70 คน ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณอะไร นัดกัน ชัดเจนในไลน์กลุ่ม เป็นการสมัครใจเรียนรู้เพิ่มเติม ตามนโยบาย Lifelong Learning ไม่มีการบังคับ และเป็นเวลานอกราชการ มีการลงขันกันส่วนของอาหาร และมีเอกสาร ประกอบการบรรยาย โปร่งใส เรื่องนี้เป็นเรื่อง ที่ต้องขอบคุณด้วยที่เขาสละเวลาวันอาทิตย์มาเรียนรู้เพิ่มเติม
“เป็นข้อเท็จจริง ไม่มีอะไรเป็นเรื่องทุจริตหรือมาเพื่อซื้อตำแหน่ง เป็นการมา หาความรู้เพิ่มเติม มาด้วยความสมัครใจไม่ได้ ใช้เงินหลวง เขตมีที่ว่างก็ประสานมาแค่นั้นเอง อันนี้ต้องชี้แจง ขอความกรุณาเอาข้อมูลที่เท็จจริงที่ถูกต้องด้วย คนที่ทำงานจะเสียกำลังใจ สรุปว่าแข่งกันที่ผลงาน ไม่มีการไปเรียกรับหรืออะไร อยากได้คนมีความรู้ เพราะผมไม่มีทางดีกว่าทีมงานที่ไปบริการประชาชนได้ ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไปเอาคนที่ทุจริตคอร์รัปชั่นเข้ามาเป็นทีมงาน เพราะถ้าเริ่มผิดก็ผิดตลอด ขอบคุณที่ท้วงมา ยืนยันไม่มี ไม่มีใครไปเรียกเงินเรื่องโยกย้าย เพราะเราวัดที่ผลงาน” นายชัชชาติย้ำ
นอกจากนี้ในเนื้อข่าวยังมีการพูดถึงการประมูลเรื่องการเก็บขยะ ผู้ว่าฯชัชชาติชี้แจงว่า เรื่องการเก็บขยะเป็นเรื่องใหญ่มี ผลประโยชน์เยอะที่ผ่านมาจึงให้นายจักกพันธุ์ รองผู้ว่าฯกทม.ดูแลเรื่องนี้ ท่านโปร่งใสและรู้ละเอียดในเรื่องนี้ การจะมากล่าวหาเราไม่โปร่งใสเรื่องการเก็บขยะ ที่ผ่านมามี การประมูลการเก็บขยะเมื่อปี 2563 งบประมาณ 1,045 ล้านบาท ราคากลาง 716 บาท/ตัน ผู้ประมูลเสนอราคามา 683 ล้านบาท/ตัน เราได้ต่อรองอีก 3 ครั้ง เหลือราคา 600 บาท/ตัน ประหยัดลงไปได้อีก 169 ล้านบาท เราเอาจริงเอาจัง เงินทุกบาททุกสตางค์มีความหมาย จะมากล่าวหาว่ามีการทุจริตมีเรื่องผลประโยชน์ ก็ต้องยันกันด้วย หลักฐาน ว่าเราไม่มีเรื่องนี้ เงินที่ประหยัดได้ก็คือเงินที่เอาไปดูแลเด็กนักเรียน ผู้สูงอายุ กลับคืนไปสู่พี่น้องประชาชน
“เราเอาจริงจังกับเรื่องนี้ วันนี้ก็มีการจับกุมเจ้าหน้าที่โยธาเขตลาดกระบัง ที่มีการเรียกงิน 50,000 บาท เราจะ ไม่อดทนกับคนที่ทุจริต ถึงแม้จะเป็นคนของ กทม.ก็ตาม เรื่องความโปร่งใส ไม่คอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการ กล่าวหาอะไรได้ ว่าผมทำงานไม่เก่งผมไม่ว่า แต่จะมาพูดว่าไม่โปร่งใส รับไม่ได้ นี่คือจิตวิญญาณต้องไปด้วยความโปร่งใส ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ประชาชนรับไม่ได้” ผู้ว่าฯกล่าวย้ำในตอนท้าย
ผู้สื่อข่าวถามจะดำเนินการอะไรกับกระแสข่าวหรือสื่อหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ไม่เป็นไร เราก็พูดข้อเท็จจริง ไม่อยากไปเอาเรื่องเอาราวใคร ให้ประชาชน ดูเอาว่าอันไหนน่าเชื่อถือ ไม่น่าเชื่อถือ ก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 6 ก.ย. 2566