กทม.กำชับมาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่-เชื้อไวรัส RSV ในศูนย์พัฒนาเด็กฯ – บ้านผู้สูงอายุบางแค 2
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม.กล่าวกรณีแพทย์เตือนระวังโรคไข้หวัดใหญ่และโรคจากเชื้อไวรัส RSV ระบาดในกลุ่มเด็กเล็กและผู้สูงอายุว่า กรุงเทพมหานคร โดย สพส.ได้กำชับสำนักงานเขตที่มีภารกิจด้านการดูแลศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในพื้นที่ รวมถึงบ้านผู้สูงอายุบางแค 2 ให้ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่และโรคจากเชื้อไวรัส RSV ตามแนวทางป้องกันโรคของกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กทม.โดยจัดให้มีระบบการคัดกรองเด็กป่วยตั้งแต่ก่อนเข้าภายในศูนย์ฯ หากพบเด็กมีอาการป่วยให้แยกเด็กและประสานผู้ปกครองมารับเด็กกลับ ให้คำแนะนำการดูแลเบื้องต้นและทำความเข้าใจกับผู้ปกครองให้รับทราบความจำเป็นที่จะต้องให้เด็กที่มีอาการป่วยหยุดเรียน พร้อมทั้งจัดให้มีระบบการป้องกันภายในศูนย์ฯ เช่น จัดเตรียมจุดล้างมือ จัดการเรียนการสอนในบริเวณที่เปิดกว้าง ลมพัดผ่านได้สะดวก จัดให้มีแก้วน้ำและช้อนรับประทานอาหารเป็นของตนเอง เน้นย้ำเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย และทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนบ้านผู้สูงอายุบางแค 2 ได้จัดให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีแก่ผู้สูงอายุบ้านผู้สูงอายุบางแค 2 และเจ้าหน้าที่บ้านผู้สูงอายุบางแค 2 ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และผู้สูงอายุเกี่ยวกับอาการและสาเหตุการเกิดโรคจากเชื้อไวรัส RSV โดยผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรง เช่น ไอมาก มีเสมหะมาก หายใจมีเสียงวี๊ด หรือมีเสียงครืดคราด หอบเหนื่อยหายใจเร็ว อกบุ๋ม ให้พาผู้สูงอายุส่งรักษาทันที เพราะเชื้อไวรัส RSV มีความรุนแรงสำหรับผู้สูงอายุ หากติดเชื้อ RSV จะมีอาการป่วยมากกว่าเด็กเล็กหลายเท่า นอกจากนั้น ยังได้กำชับเจ้าหน้าที่และผู้สูงอายุให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคจากเชื้อไวรัส RSV อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิ การทำแบบคัดกรองประเมินอาการเบื้องต้นของผู้สูงอายุ บุคลากร และบุคคลภายนอกที่มาติดต่อราชการ จัดให้มีจุดล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ทำความสะอาด (Big Cleaning) บริเวณอาคารสำนักงาน ห้องอาหาร ห้องกายภาพบำบัด ศาลาธรรม ห้องพักผู้สูงอายุ และทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เป็นประจำทุกวันรวมทั้งเตรียมความพร้อม หากพบผู้สูงอายุติดเชื้อไวรัส RSV การประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษา
กทม.เตรียมพร้อมระบบระบายน้ำ อุปกรณ์ เครื่องมือ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงฝนตกหนัก
นายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ฝนว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนน.ได้จัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานประจำศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมเฝ้าระวังติดตามการพยากรณ์ การแจ้งเตือนลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงใช้เรดาร์ตรวจอากาศของ กทม.ติดตามกลุ่มฝน พร้อมแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะเดียวกันได้เร่งลดระดับน้ำในคูคลอง บ่อสูบน้ำ และแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วน (หน่วย BEST) เข้าพื้นที่ขณะที่มีฝนเริ่มตก พร้อมตรวจสอบเร่งระบายน้ำ ตามจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขัง ในพื้นที่จุดเสี่ยง จุดเฝ้าระวัง และบริเวณทางอุโมงค์ทางลอดต่าง ๆ พร้อมทั้งจัดเก็บขยะหน้าตะแกรงช่องรับน้ำฝน ขยะหน้าตะแกรงหน้าสถานีสูบน้ำ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จัดเก็บขยะวัชพืชที่กีดขวาง ทางน้ำ เพื่อให้ไหลได้สะดวกรวดเร็ว จัดเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเครื่องสูบน้ำตามสถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองประจำสถานีสูบน้ำกรณีไฟฟ้าขัดข้อง จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ (โมบายยูนิต) รถเครน รถบรรทุก ติดตั้งเครนยกไฮโดรลิค บอลลูนไลท์ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบแก้ไขเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ จัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลที่ใช้งานในพื้นที่จุดเสี่ยงและจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม
นอกจากนั้น ยังได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณูปโภคที่อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และยังไม่แล้วเสร็จ โดยให้เร่งแก้ไขปัญหา หรือเปิดทางระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบระบายน้ำของ กทม.เช่น โครงการก่อสร้างคูระบายน้ำริมถนนวิภาวดีรังสิตของกรมทางหลวง โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ ส่วนพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ ได้จัดประชุมหารือร่วมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบริเวณเขตรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่อาจจะได้รับผลกระทบให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเปิดช่องทางการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนให้ประชาชนรับทราบแบบเรียลไทม์ ตลอดจนช่องทางแจ้งเหตุ เพื่อขอรับความช่วยเหลือผ่านเว็บไซต์ http://dds.bangkok.go.th/, www.prbangkok.com, Facebook:@BKK.BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ Twitter:@BKK_BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ รวมถึงรับแจ้งเหตุปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร.0 2248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue และสายด่วน กทม.1555 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) กทม.กล่าวว่า สนย.ได้ประสานหน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ดำเนินการก่อสร้างในผิวจราจร ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้เตรียมความพร้อมตรวจสอบระบบระบายน้ำในพื้นที่ก่อสร้าง ห้ามไม่ให้ตัด หรือบล็อกท่อระบายน้ำ และให้จัดเก็บเศษวัสดุก่อสร้างในท่อระบายน้ำไม่ให้อุดตันขวางทางระบายน้ำ รวมถึงตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มีความมั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งจัดเตรียมความพร้อมบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกล เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ก่อสร้างและช่วยเหลือประชาชนได้ในทันทีที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบความปลอดภัยทั้งมาตรการการทำงานและสภาพในพื้นที่โดยวิศวกรและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยวิชาชีพ เพื่อแก้ไขปรับปรุง ลดความเสี่ยงและให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านความปลอดภัยออกตรวจมาตรการด้านความปลอดภัยและมาตรการป้องกันมลภาวะ ตามโครงการก่อสร้าง เพื่อกำกับและกำชับให้ดำเนินการตามมาตรการโดยเคร่งครัด ตลอดจนแจ้งผู้รับจ้างคู่สัญญา เพื่อกำชับการดำเนินการและให้ตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย การปรับปรุงแก้ไข รายงานผลเพื่อประเมิน และวางแผนการติดตามให้มีการปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม.กล่าวว่า สนท.ได้เตรียมความพร้อมปฏิบัติเมื่อมีสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตกฟ้าคะนองและมีพายุทั้งในช่วงก่อนฝนตก ขณะฝนตก และหลังฝนตก โดยก่อนฝนตกได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมยานพาหนะออกตรวจสอบบริเวณถนนสายหลัก พื้นที่ชุมชน และพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมขัง พื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า – สาธารณูปโภคฯ รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจให้ลงพื้นที่ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของสิ่งปลูกสร้าง ป้ายโฆษณา และต้นไม้ใหญ่ หากพบความไม่มั่นคงแข็งแรงให้ประสานหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องแก้ไขทันที นอกจากนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักมีน้ำท่วมขังได้ได้ประสานการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ทั้ง 50 เขต พร้อมยานพาหนะออกปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและเข้าช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยทันที รวมทั้งจัดรถให้บริการรับส่งประชาชนถึงบ้าน โดยแจ้งขอรับบริการที่โทร. 06 1396 5924 และ 09 8978 7953
นางสาวอำภา นรนาถตระกูล ผู้อำนวยการสำนักการคลัง (สนค.) กทม.กล่าวว่า สนค.ได้เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร รวมทั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมเครื่องยนต์ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เครื่องยนต์ดับ หรือเครื่องยนต์ขัดข้องบนท้องถนนอย่างทันท่วงที โดยสำนักงานเขตและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักน้ำท่วมผิวการจราจร เป็นเหตุให้รถยนต์และยานพาหนะของประชาชนที่สัญจรขัดข้อง สามารถประสานขอสนับสนุนความช่วยเหลือผ่านห้องวิทยุสื่อสาร โทร. 0 2354 0199 สายด่วน 09 5565 8290 และแอปพลิเคชันไลน์ @mmdservice ขณะเดียวกันกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง ได้จัดเตรียมความพร้อมช่างและเจ้าหน้าที่วันละ 23 คน ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรถซ่อมเคลื่อนที่เร็ว 8 คัน รถยกลากจูง 2 คัน รถบรรทุกชานเลื่อนติดตั้งเครน 2 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 2 คัน กรณีที่ได้รับการประสานจากหน่วยงานที่ขอสนับสนุน จะส่งเจ้าหน้าที่ช่าง พร้อมรถซ่อมเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมือ และอุปกรณ์ ตลอดจนรถยกลากจูงเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน นอกจากนั้น ยังได้ติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศจากสำนักการระบายน้ำ หากมีการคาดการณ์ฝนตกในปริมาณมากจะจัดส่งช่างและเจ้าหน้าที่ พร้อมรถซ่อมเคลื่อนที่เร็วเข้าพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังซ้ำซาก เพื่อเตรียมการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที