เข้มปลอดภัย-อบรมจนท.ยกระดับแผนเผชิญเหตุ
ศาลาว่าการกทม. – เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการตรวจสอบโรงงาน หรือสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ผลิต เก็บ ครอบครอง หรือมีการใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย ว่า สนอ.ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายในสถานประกอบการ โดยสำรวจและตรวจประเมินสถานประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่ง และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย ในรูปแบบการบูรณาการทีมตรวจร่วมระหว่างหน่วยงานตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานเขต สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมธุรกิจพลังงาน ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 จนถึงปัจจุบัน
ขณะเดียวกันได้จัดอบรมส่งเสริมความรู้ด้านการบริหารจัดการสารเคมีในสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่มีความเสี่ยงภัยด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สังกัดสำนักงานเขต และผู้ประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่ง และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย โดยจัดอบรม ทั้งออนไซต์และออนไลน์ รวมถึงจัดอบรมเชิงปฏิบัติการตอบโต้เหตุฉุกเฉินสารเคมีบนโต๊ะ (Table Top Exercise) แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ฝ่ายเทศกิจ ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ฝ่ายปกครองสังกัดสำนักงานเขต เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านสารเคมีและวัตถุอันตราย สังกัดสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหนองแขม เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยสายไหม สังกัดสำนักสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีเครือข่ายการทำงานตอบโต้อุบัติภัยสารเคมีและมีแนวทางการพัฒนาแผนเผชิญเหตุสารเคมีและวัตถุอันตรายของ กทม.
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และข้อปฏิบัติที่ดีตามมาตรการความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต สถานประกอบกิจการ เพื่อเผยแพร่ความรู้และเป็นแนวทางการบริหารจัดการสารเคมีและวัตถุอันตรายและการจัดการอุบัติภัยจากสารเคมี ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือกับฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สถานีดับเพลิงและกู้ภัยท้องที่ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้มงวดตรวจสอบโรงงาน สถานประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่ง และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุอันตรายที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน
ด้านน.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังประชุมหารือความร่วมมือกับเรืออากาศเอก อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ว่า ได้หารือ 2 ประเด็น ได้แก่ การจ่ายเงินชดเชยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉิน โดยให้ สพฉ. ดำเนินการจ่ายตรงให้แก่หน่วยปฏิบัติการที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ตามที่ สพฉ.กำหนด
ส่วนเกณฑ์การขึ้นทะเบียน อาทิ การกำหนดเกณฑ์การตรวจรับรองและขึ้นทะเบียนรถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ระดับ FR การกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานและเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินชดเชยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานรถจักรยานยนต์ฉุกเฉิน (Motorlanec) การกำหนดเกณฑ์การตรวจรับรองและขึ้นทะเบียนเรือกู้ชีพ รวมทั้งขอความร่วมมือ สพฉ.เพิ่มข้อมูลและขึ้นทะเบียนผู้ปฏิบัติการใหม่ที่ผ่านการอบรมจาก กทม. ลงในระบบฐานข้อมูลของผู้ปฏิบัติการ
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 29 ส.ค. 2566
