กทม. – เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่สโมรสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ภายหลัง พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า กรณีหนี้สินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งล่าสุดทางนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เผยแพร่คลิประบุว่าทนไม่ไหวแล้ว ว่า “ก็กำลังให้กรุงเทพมหานคร เขาแก้ไขกันอยู่”
ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า เรื่องรถไฟสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการมีประเด็นทางกฎหมายอยู่เพียงประเด็นเดียว ซึ่งข้อบัญญัติงบประมาณกรุงเทพมหานคร บัญญัติว่ากรณีกทม.ไปสร้างภาระหนี้ผูกพัน จะต้องผ่านสภากรุงเทพมหานครก่อน ซึ่งการทำสัญญาทั้งในส่วนการจ้างเดินรถและติดตั้งงานระบบในส่วนต่อขยายที่ 2 ที่เป็นภาระหนี้ผูกพัน ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่าส่วนนี้ผ่านสภากทม.แล้วหรือไม่ จึงทำหนังสือถึงเลขาฯ สภา กทม.เพื่อสอบถามว่าส่วนนี้ผ่านการอนุมัติจากสภากทม.แล้วหรือไม่ หากยังไม่ส่งหนังสือจะมีการส่งหนังสือในสัปดาห์นี้
สำหรับมูลหนี้ส่วนต่อขยายส่วนที่ 1 นั้น มีการผ่านสภากทม.อย่างถูกต้อง หากการดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2562 จบกระบวนการก็สามารถจ่ายได้ทันที ตนยืนยันว่าเมื่อกทม.เป็นหนี้ต้องจ่าย แต่ต้องเป็นหนี้ที่ผ่าน ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนการรับโอนทรัพย์สินในส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ถือว่า เป็นการก่อหนี้ผูกพันเช่นเดียวกัน หากไม่ผ่านสภากทม. จะต้องทำให้กฎหมาย อาจต้องทำสัญญาใหม่ จากการตรวจสอบความเห็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ต้องผ่านสภากทม.ก่อน กับให้เกิดภาระผูกพันแล้วค่อยมาขออนุมัติงบประมาณจากสภา กทม.ภายหลัง แต่แนวคิดของผู้บริหารชุดปัจจุบัน ถือว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพัน จะต้องผ่านสภา กทม.ก่อน
ด้านนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.กล่าวยืนยันว่า กทม.มีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้ โดยเป็นเงินสะสมของ กทม. ที่มีอยู่ 7 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นได้เตรียมไว้ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อมาชำระหนี้ ส่วนต่อขยาย 1 ทั้งนี้ยืนยันว่าพร้อมจ่ายเงินทันที แต่กระบวนการไม่พร้อม จึงต้องอย่างรอบคอบ
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 24 พ.ย. 2565