ผู้ว่าการ รฟม.ชี้’อนันดา’แลกที่ดินกับสมาคมซิกข์เปิดทางเข้าออก ‘แอชตันอโศก’อาจไม่ได้ ด้าน สมาคมซิกข์ รอถามสมาชิกให้ใช้พื้นที่หรือไม่
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม กรณีศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 มีคำพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการแอชตัน อโศก ซอยสุขุมวิท 21 ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง มูลค่า 6,481 ล้านบาท เนื่องจากที่ดินใช้ก่อสร้างอาคารโครงการ ไม่เป็นไปตามที่กฎกระทรวงฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กำหนด เพราะไม่มีเขตที่ดินด้านหนึ่งด้านใดที่เป็นทางเข้าออกกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตรยาวต่อเนื่องกัน และใบอนุญาต การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นทางเข้าออกสาธารณะได้ขัดต่อวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืนที่ดิน
ต่อมามีรายงานข่าวว่าผู้บริหารอนันดาได้เข้าไปเจรจากับสมาคมนามธารีสังคัตแห่งประเทศไทย (สมาคมซิกข์) เพื่อขอแลกที่ดินบางส่วนกับ รฟม. เป็นที่ดินทางออกเดิม ทำเป็นทางเข้าออกของโครงการด้านถนนอโศกมนตรี นอกเหนือจากจะพิจารณาซื้อตึกแถวในซอยสุขุมวิท 19 แยก 2 แล้ว
ขณะที่ผู้แทนสมาคมนามธารีสังคัตแห่งประเทศไทยระบุว่า อนันดาได้เข้ามาพูดคุยกับสมาคมจริง เพื่อช่วยกันหาทางออกให้กับลูกบ้านร่วม 600 ครัวเรือน ขณะนี้ยังเป็นแค่การรับฟัง ยังไม่มีข้อสรุป อนันดาต้องทำข้อเสนอมาให้สมาคมพิจารณาก่อน ขึ้นอยู่กับอนันดาจะตัดสินใจอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างมีต้นทุน ขณะที่การตัดสินใจจะให้หรือไม่นั้น อยู่ที่สมาชิกสมาคม ไม่ใช่คณะกรรมการสมาคมแต่อย่างใด
“หากสมาคมตกลงให้พื้นที่อนันดา ไม่ได้เป็นการช่วยบริษัท แต่เป็นการช่วยประชาชนที่อยู่ในโครงการได้รับความเดือดร้อนมากกว่า กรณีของแอชตัน อโศก มีหลายองค์ประกอบ ต้องหาทางออกแบบบูรณาการจากทุกฝ่ายร่วมกัน” ผู้แทนสมาคมนามธารีกล่าว
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า การที่จะนำที่ดิน รฟม.ไปแลกกับที่ดินสมาคมนามธารีไม่น่าจะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ทางอนันดายังไม่ได้ติดต่อขอหารือกับ รฟม.และต้องรอให้อนันดานำข้อเสนอต่างๆ มาหารือเป็นทางการก่อน
แหล่งข่าวจาก กทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทาง ที่อนันดาเสนอใช้ที่ดินสมาคมนามธารีนั้น คาดว่าจะเป็นการย้ายทางเข้าออกปัจจุบันที่ศาลตัดสินว่าใช้ไม่ได้ กลับไปยังที่เดิมที่เจ้าของที่ดินเดิมเคยได้สิทธิจาก รฟม. เป็นทางภาระจำยอมกว้าง 6.4 เมตร อยู่ติดกับสมาคมนามธารี และคงเจรจาขอใช้พื้นที่สมาคมเพิ่ม เพื่อให้ได้ความกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร โดยจดทะเบียนเป็นทางภาระจำยอมสลักไว้ด้านหลังโฉนด คงไม่มีการซื้อขาดเพราะสมาคมคงไม่ขาย ส่วนการเช่าก็คงไม่ได้ เพราะจะมีเงื่อนเวลากำหนดไว้
“อนันดาคงต้องมีค่าตอบแทนให้กับสมาคม และคงเป็นค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะก่อนหน้านี้อนันดาเคยเจรจากับสมาคมนามธารีแล้ว แต่สมาคมไม่ให้ รวมถึงต้องเจรจากับ รฟม.ว่าจะให้กลับไปใช้พื้นที่เดิมได้หรือไม่ ในเมื่อศาลได้ตัดสินไปแล้วว่าผิดวัตถุประสงค์การเวนคืนที่ดิน และคงจะไม่ง่าย คงใช้เวลาเป็นปี กว่าจะได้ใบอนุญาตใหม่” แหล่งข่าวกล่าว
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม.กล่าวว่า กทม.ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบ ปรับปรุงแนวทางการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษแล้ว โดยมีนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม.เป็นประธานคณะกรรมการ และมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมด้วย เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อมหาชนเหมือนกับแอชตัน อโศก
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 15 ส.ค. 2566