กทม.เพิ่มประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง รุกตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศ
นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพฯ ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2566 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เพื่อขับเคลื่อนมาตรการควบคุมมลพิษจากแหล่งกำเนิดอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มความเข้มข้นตามระดับค่าฝุ่นละออง ได้แก่ การควบคุมมลพิษจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง โครงการก่อสร้าง โรงงานและสถานประกอบการ รวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน
นอกจากนั้น กทม.ยังมีมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบและให้คำแนะนำแก่เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมและสถานประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิ กิจการแพลนท์ปูน กิจการพ่นสี กิจการหลอมโลหะ กิจการที่มีหม้อไอน้ำเชื้อเพลิงดีเซล เป็นต้น โดยตรวจสอบอย่างน้อยแห่งละ 2 ครั้ง/เดือน ช่วงเดือน ต.ค.65 – มี.ค.66 พร้อมทั้งควบคุมการดำเนินกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่รัฐกำหนด เพื่อป้องกันและลดการเกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะโรงงานและสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ หรือปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศผ่านระบบ Traffy Fondue เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไป
กทม.บูรณาการความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายควบคุมการจำหน่ายกัญชาย่านถนนข้าวสาร – ถนนสุขุมวิท
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวถึงกรณีมีการเสนอข่าวพบร้านค้า ผู้ประกอบการย่านถนนข้าวสารและถนนสุขุมวิทจำหน่ายกัญชาในลักษณะที่ไม่เหมาะสมว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักเทศกิจ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้มงวดกวดขันอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีอย่างจริงจัง โดยผู้ที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๖๐ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๖๐ ประกอบกับประกาศ กทม.เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขาย หรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ลงวันที่ ๒๘ ม.ค.63 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๑๘ ก.พ.64 เป็นการทำความผิดตามมาตรา ๒๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัย ได้เชิญผู้แทนกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อชี้แจงข้อกฎหมายและแนวทางบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.๒๕๕๒ และประกาศ สธ.เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 โดยชี้แจงให้ความรู้และแนะนำแนวทางการดำเนินงานตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ข้าราชการในสังกัด กทม.ไม่ได้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม กทม.พร้อมสนับสนุนความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้ โดยสำนักอนามัยและสำนักงานเขตร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ลงพื้นที่สำรวจสถานประกอบการที่ได้รับอนุญาตและอยู่ในระหว่างยื่นคำขออนุญาต รวมทั้งสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักให้ผู้ประกอบการ ประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ รับทราบข้อมูล แนวทางปฏิบัติในการใช้ จำหน่ายกัญชาให้ถูกต้อง ตามข้อกฎหมายและสอดคล้องกับเป้าหมายการอนุญาตให้ใช้กัญชาในประเทศไทย
นายสัมฤทธิ์ สุมาลี ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตพระนคร ร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้หารือทำความเข้าใจแนวทางการลงพื้นที่สำรวจสถานที่ ตรวจสอบ ให้คำแนะนำตามคำขออนุญาตจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้า และแนวทางปฏิบัติและบทบาทหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ การดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืน รวมถึงแนวทางการพิจารณาสถานประกอบการจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อการค้า ทั้งก่อนและหลังได้รับอนุญาต เพื่อเป็นแนวทางรณรงค์สร้างความเข้าใจต่อผู้ประกอบการเกี่ยวกับการขออนุญาตจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม เพื่อการค้า (กัญชา) หากพบการจำหน่ายกัญชาในพื้นที่สาธารณะ จะประชาสัมพันธ์กวดขันไม่ให้มีการจำหน่ายกัญชาโดยเด็ดขาด ส่วนแนวทางการปฏิบัติ ได้เน้นการบูรณาการร่วมกันระหว่างสำนักงานเขตฯ กรมการแพทย์แผนไทยฯ และสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ท้องที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบใบอนุญาตการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชา หากพบการจำหน่ายกัญชาไม่ถูกต้องตามข้อกฎหมาย ในเบื้องต้นจะประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง หากฝ่าฝืนจะแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับกรณีการสูบกัญชาในที่สาธารณะและสร้างความเดือดร้อนจากกลิ่นและควัน ได้กำหนดให้การควบคุมเหตุรำคาญเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตาม กำชับ สื่อสาร สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้า และสถานบันเทิงในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง
นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตคลองเตย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบย่านสุขุมวิทซอย 4, 20, 22, และซอย 26 พบว่า ส่วนใหญ่จะจำหน่ายกัญชาอยู่ในพื้นที่ร้านค้าของตนเองและมีใบอนุญาตการจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 มีเพียงบางร้านที่อยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตฯ จึงได้แจ้งให้หยุดจำหน่ายจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตฯ ขณะเดียวกันหากพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ได้ประชาสัมพันธ์ให้หยุดจำหน่าย หากฝ่าฝืนจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนา กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตวัฒนา ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กทม. กรมการแพทย์แผนไทยฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท้องที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายกัญชาในลักษณะที่ไม่เหมาะสม พร้อมวินิจฉัยการกระทำอันให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด หากเข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข รวมทั้งให้คำแนะนำสถานที่ตั้งของสถานประกอบการที่ยื่นคำขออนุญาตจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม (กัญชา) เพื่อพิจารณาอนุญาตโดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ พร้อมรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการยื่นคำขออนุญาตฯ ในพื้นที่เขตวัฒนา ขณะเดียวกันได้ประสานสำนักอนามัย เพื่อหารือแนวทางควบคุมการจำหน่ายกัญชาในพื้นที่เขตวัฒนา และประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจผู้ประกอบการในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามประกาศ สธ. นอกจากนั้น ยังได้ประสานความร่วมมือ สน.ท้องที่ จัดทำแผนตรวจผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายกัญชาอย่างถูกต้อง หรือบริเวณที่อาจจะมีผู้เสพ หรือสูบกัญชาในที่ที่ไม่เหมาะสมจนก่อเหตุรำคาญในพื้นที่เขต