กทม.-นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ประชุมหารือในการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) การดำเนินงานด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ร่วมกัน เนื่องจากปัจจุบันศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนที่อยู่ในความดูแลของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 200 กว่าแห่งบางแห่งอยู่ในชุมชน ทำให้ประชาชนไม่ทราบอย่างทั่วถึงประกอบกับการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ภาคประชาชนต้องมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นที่ประชุมเห็นชอบพิจารณาจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตามระเบียบกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน พ.ศ. 2562 ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต
นายต่อศักดิ์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกทม.มีศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน จำนวน 17 เขต ได้แก่ เขตมีนบุรี,สายไหม, สะพานสูง, บางกอกใหญ่, คลองสามวา,จอมทอง, ทวีวัฒนา, บางแค, บึงกุ่ม, พระโขนง,พระนคร, ภาษีเจริญ, ลาดพร้าว, สวนหลวง,หลักสี่, ห้วยขวาง และเขตคันนายาว ส่วนอีก 33 เขตอยู่ระหว่างการประกาศขึ้นทะเบียนศูนย์
การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดเชื่อมให้ประชาชนเข้าถึง กระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวกรวดเร็ว เป็นธรรม กระบวนการยุติธรรมโดยจะต้องเป็นคดีทางได้แพ่งโดยที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 500,000 บาท ขณะเดียวกันเพื่อลดจำนวนคดีที่จะขึ้นสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลด้วย ตลอดจนลดความขัดแย้ง ให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจะมีผลบังคับตามกฎหมาย” นายต่อศักดิ์กล่าว
นายต่อศักดิ์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 30 พ.ย. นี้ กทม. และ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จะลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานด้านการ คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ซึ่งประชาชนติดต่อใช้บริการได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ได้ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 21 พ.ย. 2565