(20 ก.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมในกิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร” เพื่อติดตามการบริหารจัดการและปัญหาในการปฏิบัติงานของสำนักงานการต่างประเทศ (สกต.) รวมถึงความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศ ร่วมกิจกรรม ณ ห้องบูรีรมย์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักงานการต่างประเทศถือว่าเป็นสำนักงานที่สำคัญมาก เนื่องจากในอนาคตความเชื่อมโยงระหว่างเมืองและการแลกเปลี่ยนทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และประชาชน เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมามีการเยี่ยมเยือนจากคณะผู้แทนของประเทศต่าง ๆ มากกว่า 169 คณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมั่นใจในเมืองกรุงเทพมหานครและความสำคัญของความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
สำหรับหน้าที่หลักในขณะนี้ที่กทม.ควรจะให้ความสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจ เนื่องจากเมืองคือตลาดแรงงาน หากสามารถดึงคนเก่งจากทั่วโลกให้มาทำงาน มาสร้างงาน มาลงทุน หรือเปิดบริษัทที่กรุงเทพฯ ได้ ก็จะเกิดผลต่อเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ เกิดการจ้างงาน และจะส่งผลลึกลงไปถึงการค้าขาย พ่อค้า แม่ค้า ในชุมชนและตลาด ดังนั้น ภารกิจของสำนักงานการต่างประเทศคือการเป็นกระบอกเสียง การติดต่อสื่อสารกับต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของบริษัทต่าง ๆ เป็น Headquarter ศูนย์กลางของภูมิภาค โดยทาง สกต. ต้องไปปรับวิธีการทำงาน เช่น อาจจะต้องมีศูนย์ที่ให้บริการนักลงทุนต่างประเทศ โดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) การทำ ROADSHOW การพูดคุยกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้เห็นศักยภาพของกรุงเทพมหานคร
เรื่องสำคัญต่อไปคือเรื่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งกทม.มีข้อมูลอยู่แล้วในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากเมืองต่าง ๆ ให้เข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ รวมถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมา สกต. ทำได้ค่อนข้างดีแล้ว และคาดว่าในอนาคตต้องมีการเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ ให้มากขึ้น
ในส่วนของการที่กทม.จะไปเยี่ยมเยือนเมืองต่าง ๆ นั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คงต้องประเมินว่าเมืองใดที่มีประโยชน์กับกรุงเทพฯ ในด้านของเศรษฐกิจ ซึ่งเบื้องต้นได้ประเมินไว้ว่าเป็นประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และอีกหลายเมือง ซึ่งการไปเยือนนั้นมีเวลาจำกัด จึงต้องไปเยี่ยมเยือนอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์กับกรุงเทพมหานครอย่างแท้จริง โดยต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง อาจพิจารณาความสำคัญของเมืองพี่เมืองน้องบางเมืองที่มีความร่วมมือกันอยู่ อาทิ เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีความสัมพันธ์กันอยู่ โดยมีการมาเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง และมีการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงประเทศจีน ซึ่งได้มีการชักชวนให้กทม.ไปเยี่ยมเยือนมาหลายเดือนแล้ว ทั้งนี้ กทม.คงต้องจัดลำดับความสำคัญเพื่อไปเยี่ยมเยือนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
สำหรับกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร ในวันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศ จำนวน 5 คน ได้แก่ 1. นายณัฐวัฒน์ ศิลปโสภาพันธุ์ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ 2. นางสาววีรนุช เนาวศักดิ์ นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ 3. นางสาววรณัน ธรรมโชติ นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ 4. นางสาวพิมพิชา เกิดมณี นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ และ 5. นายพงศกร สินธวาชีวะ พนักงานขับรถยนต์ ส 1 โดยเมนูอาหาร ประกอบด้วย ข้าวสวย ไข่เจียว แกงเขียวหวานไก่ เผือก/เต้าหู้ทอดร้านดังย่านเสาชิงช้า และเมนูข้าวไข่ฟู พะแนงหมู สปาเกตตีผัดขี้เมาทะเล ข้าวผัดอเมริกันไข่ดาวไส้กรอกและแฮม ข้าวอบซี่โครงหมูและไข่ดาว ข้าวราดผัดผงกระหรี่ทะเล ซึ่งระหว่างมื้ออาหารมีการพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ อาทิ ปัญหาอุปสรรคจากการทำงาน สิ่งที่ต้องการให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานครเพิ่มเติมในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เป็นต้น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง
● กทม.พร้อมดูแลสถานการณ์ชุมนุมในพื้นที่ที่อนุญาต ทั้งห้องน้ำ รถพยาบาล และความสะอาดหลังเลิกชุมนุม
จากนั้น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ว่า สถานการณ์เมื่อวานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ความจริงแล้วลานคนเมืองยังว่างอยู่ แต่ไม่มีคนมาที่ลานคนเมือง ผู้ชุมนุมจากศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร (เกียกกาย) ย้ายมาชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของทางฝ่ายความมั่นคงเนื่องจากอยู่นอกพื้นที่ที่เราอนุญาตให้เป็นพื้นที่เพื่อการชุมนุมสาธารณะ ในส่วนของกรุงเทพมหานครจึงให้การดูแลในเรื่องของรถพยาบาล รถห้องน้ำ และพนักงานกวาด จากฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตพระนคร ซึ่งได้ลงพื้นที่มาทำความสะอาดภายหลังการชุมนุมเสร็จสิ้นลง ในช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. เป็นต้นไป
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ในส่วนของรถพยาบาล รถ EMS (รถบริการการแพทย์ฉุกเฉิน) รถอาสาสมัครกูภัย และรถห้องน้ำ วานนี้มีจุดจอดด้วยกัน 2 แห่ง ทั้งที่ศูนย์ราชการฯ เกียกกาย และย้ายมาบริเวณโดยรอบนอกของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่เราต้องดูแล เนื่องจากคนที่มาชุมนุมทุกคนคือพี่น้องประชาชน การที่เราเตรียมรถห้องน้ำไว้เป็นเรื่องดี ทำให้มีความสะอาด ไม่เลอะเทอะตามจุดต่าง ๆ ซึ่งนอกเหนือจากการดูแลในเรื่องของห้องน้ำสาธารณะ ต้องดูแลไปถึงการเจ็บป่วยต่าง ๆ ด้วย โดยหากมีการชุมนุมไปเรื่อย ๆ ทางกทม.จะต้องดูไปตามสถานการณ์ว่าจะนำรถต่าง ๆ ไปจอดจุดไหน ส่วนด้านการประสานความร่วมมือต่าง ๆ กทม.ก็พร้อมที่จะประสานความร่วมมือ ทั้งนี้ ถ้าเป็นสถานที่ชุมนุมนอกจุดที่เราประกาศก็จะเป็นฝ่ายความมั่นคงคือตำรวจเป็นผู้ดูแลควบคุมพื้นที่
#เศรษฐกิจดี #โปร่งใสดี #สังคมดี
—————————