คณะรัฐมนตรีประชุมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หาทางออกภาระหนี้ และสัมปทาน หลังกทม.ทำข้อเสนอความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินโครงการ ผ่านกระทรวงมหาดไทย มายังครม.พิจารณา โดย กทม.ชงรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้ามาให้ที่ประชุมรับทราบ หลังจาก กทม.ไปหารือข้อสงสัยประเด็นต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม
แหล่งข่าวจากทำเนียบเปิดเผยว่า วาระนี้แม้ว่าจะไม่มีรัฐมนตรีคนไหนให้ความเห็น แต่ก็ใช้เวลารายงานพักใหญ่ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นคนรายงาน พร้อมกับตัวแทนของกทม.มาร่วมชี้แจงรายละเอียด เนื้อหาสำคัญ ผู้ว่าฯ กทม.ได้รายงานข้อเสนอถึงแนวทางการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 3 ข้อ ผ่านกระทรวงมหาดไทย ดังนี้ 1. กทม.เห็นพ้องด้วยกับนโยบายการลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางของประชาชนและทำให้การบริการสาธารณะเป็นไปอย่างต่อเนื่องเป็นโครงข่ายเดียวกัน (Through Operation) จึงเห็นควรขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล สำหรับโครงสร้างพื้นฐานและงานติดตั้งระบบการเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) ของโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ในกำกับดูแลของ กทม.เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นที่รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้เพื่อให้ค่าโดยสารอยู่ในระดับที่ประชาชนสามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะส่วนต่อขยายที่ 2 คือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่เป็นส่วนต่อขยายพื้นที่ให้บริการนอกเขตกทม.และยังมีผู้โดยสารจำนวนไม่มาก 2. กทม.เห็นควรที่จะดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 หรือ PPP เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนมีความรอบคอบ มีการพิจารณาข้อมูลรอบด้านและตรวจสอบได้ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในการได้รับการบริการของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ 3. จากกรณีที่คณะกรรมการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 11 เมษายน 2562 ได้เจรจากับบริษัทเอกชนไว้ว่า บริษัทจะเป็นผู้รับภาระส่วนต่างค่าเดินรถที่ค้างจ่ายอยู่ทั้งหมด กทม.จึงได้หยุดชำระค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 นับถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 4 ปี ก่อให้เกิดภาระต่อเอกชนผู้ให้บริการ รวมถึงมีภาระดอกเบี้ยที่อาจจะเกิดขึ้นกับกทม.ในอนาคต การหาข้อยุติตามการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวของครม. จะช่วยทำให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการต่อของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนซึ่งเป็นผู้ใช้บริการสาธารณะ
นอกจากนี้ กทม.เห็นควรให้มีการนำเสนอครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ สำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณสำหรับค่าก่อสร้างและดอกเบี้ยในอนาคตทั้งหมด ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีภาระหนี้จากงานโครงสร้างพื้นฐานและงานซื้อขายพร้อมติดตั้งระบบการเดินรถ รวมทั้งสิ้น 78,830.86 ล้านบาท แต่เนื่องจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 มีผลใช้บังคับแล้ว การขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จึงไม่สามารถเสนอครม. เพื่อพิจารณาได้เพราะจะมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อครม.ชุดต่อไป เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร
ที่มา: นสพ.ดอกเบี้ยธุรกิจ ฉบับวันที่ 17 – 23 ก.ค. 2566