ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2566 วันนี้ (12 ก.ค.66) : นายวิพุธ ศรีวะอุไร ส.ก.เขตบางรัก ได้เสนอญัตติด้วยวาจา เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครเร่งตรวจสอบสภาพถังดับเพลิงของสถานีดับเพลิง โรงเรียน ชุมชน โรงพยาบาลและสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
กรณีเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจ สาเหตุเกิดจากถังดับเพลิงที่นำมาใช้ในการอบรมสาธิตการดับเพลิงไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งถังดับเพลิงถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดับเพลิงและการฝึกอบรมแผนเผชิญเหตุเพลิงไหม้ต่างๆ กรุงเทพมหานครจึงต้องดำเนินการตรวจสอบให้ถังเหล่านี้อยู่ในสภาพที่ดี ปลอดภัยและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ จึงขอเสนอให้มีการบันทึกข้อมูลถังดับเพลิงทั้งหมด
จากการลงพื้นที่พบว่ารถที่ใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จอดทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก รอวันจำหน่าย และพบว่าบางคันอุปกรณ์ภายในเสียแค่ชิ้นเดียว แต่เป็นชิ้นที่มีความสำคัญทำให้ไม่สามารถออกปฏิบัติงานได้ รถเหล่านั้นจึงไม่ได้นำออกไปใช้ เมื่อจอดนานเข้าก็ไม่สามารถใช้อุปกรณ์ชิ้นอื่นได้ด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่รถอย่างเดียวยังมีอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าผจญเพลิง และจำเป็นต้องมีมาตรฐานสูง แต่พบว่าเป็นถังที่จัดหามาตั้งแต่ปี 57-58 และพบว่าถังเหล่านี้ไม่ได้รับการทดสอบรับแรงดันเลย ปกติต้องทดสอบในเวลา 5 ปี การแบกถังไปใช้งานจะทำให้เกิดความเสี่ยงทั้งกับผู้ใช้งานและประชาชน จึงขอให้กทม.ลงไปดูแลอย่างเร่งด่วน
“เรื่องของฝึกอบรม การที่หน่วยงานของกทม.ออกไปฝึกอบรมเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ ซึ่งจากประสบการณ์การอยู่ในอุตสาหกรรมการบินและอุตสาหกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีStandard เรื่องความปลอดภัยสูงมาก ฝึกน้ำ ฝึกไฟ มีการสอบ หากไม่ผ่านต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อฝึกต่อเนื่องความเสี่ยงก็จะต่ำลงด้วย” ส.ก.วิพุธ กล่าว
จากนั้นได้มีส.ก.ร่วมอภิปรายในหลายประเด็น อาทิ การอบรมการดับเพลิง การให้ความรู้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้สามารถนำความรู้ไปใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด การจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน การกำหนดหลักสูตรการอบรมอุบัติภัยต่างๆ ที่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ การติดตั้งถังดับเพลิงในบ้านเรือนที่ไม่ได้จัดตั้งเป็นชุมชน ประกอบด้วย นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน นายอานุภาพ ธารทอง ส.ก.เขตสาทร นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา นายประพฤทธิ์ หาญกิจจะกุล ส.ก.เขตห้วยขวาง นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ นายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เราคงต้องทำงานในเชิงรุกให้มากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดนี้ทำให้เราตื่นตัว การมาไล่เก็บถังดับเพลิงจะเป็นเชิงรับมากกว่า ขณะนี้มี 4 มาตรการที่เราทำอยู่ คือ การนำถังที่หมดสภาพจากชุมชนและนำถังที่จัดซื้อใหม่ไปทดแทน สอง คือการตรวจเชิงรุกอุปกรณ์ถังออกซิเจน อุปกรณ์กู้ภัย สาม คือการให้ความรู้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก ความแตกต่างระหว่างถังดับเพลิง สี่ คือ การทำผังชุมชนDigital เพื่อดูแลว่าแต่ละชุมชนมีพื้นที่อย่างไร มีถังดับเพลิง คนพิการ คนป่วยอยู่ที่ไหน เพื่อให้เราสามารถเข้าถึงและดูแลได้ดีขึ้น
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การปูพรมตรวจถังดับเพลิงทั้ง 50 เขต ขณะนี้มีบางเขตที่สามารถตรวจได้ครบ 100% จำนวน 56,737 ถัง กว่า 95% เป็นถังชนิดผงเคมีแห้ง ระหว่างการสำรวจเจ้าหน้าที่ก็ได้อธิบายชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่ามีถังที่ใช้งานได้อยู่ ในส่วนของถังที่ชำรุด 23,320 ถัง ได้ส่งไปทำลายโดยสำนักสิ่งแวดล้อม จำนวน 12,708 ถัง ที่เหลือจะตรวจสอบให้มั่นใจอีกครั้ง ขณะนี้พบว่าถังที่ปกติ จำนวน 32,349 ถัง ได้ติด QR Code ไปแล้ว จำนวน 7,326 ถัง โดยมีข้อมูลLocation ของถัง การบำรุงรักษาครั้งล่าสุด และประเภทของถังเพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ระหว่างปีด้วย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้สั่งซื้อถังดับเพลิง 9,979 ถัง จะถูกแจกจ่ายไปยังชุมชนตามแผนที่ความเสี่ยงที่เราทำไว้ โดยประเมินความเสี่ยงเป็นชุมชนสีแดง มีจำนวน 451 แห่ง รวมถึงนำไปทดแทนตามแผนที่กำหนด คือ 5 หลังคาเรือนต่อหนึ่งถัง และที่เขตตรวจสอบเพิ่มขึ้นมา ทั้งนี้เมื่อถังถูกใช้เราจะดำเนินการเติมสารเคมีให้
เรื่องของการฝึกอบรมขณะนี้ได้ให้หยุดการฝึกอบรมในชุมชนที่ยังไม่ได้ร้องขอซ้ำไปก่อน ส่วนที่ต้องฝึกซ้อมจะทำในลักษณะการฝึกซ้อมแห้งคือไม่มีการฉีดสารจริง แต่ใช้อุปกรณ์จริง แบ่งการฝึกซ้อมเป็นการอพยพและการใช้อุปกรณ์ แบ่งตามช่วงวัยและอาชีพ นอกจากนี้ในสถานีดับเพลิงทั้งหมดได้สั่งการให้หยุดใช้ถังดับเพลิงของปี 58 แล้ว ถังที่ใช้งานขณะนี้เป็นถังที่จัดซื้อในปี 64-65 ทั้งสิ้น รวมถึงสั่งการให้สำรวจในโรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุขและสถานประกอบการเพื่อจัดทำฐานข้อมูล สำหรับถังประเภทถังออกซิเจน ได้สั่งการให้ทุกโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขตรวจสอบทั้งหมดด้วย ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะสามารถลงข้อมูลของชุมชนทั้งหมดได้แล้วเสร็จ
——————