กทม.เดินหน้าบ้านอิ่มใจในรูปแบบ Emergency Shelters จัดบริการสวัสดิการสังคม ฟื้นฟูคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน

นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการบ้านอิ่มใจ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง คนไร้บ้านว่า กรุงเทพมหานคร โดย สพส.มีแนวทางดำเนินการบ้านอิ่มใจในรูปแบบ Emergency Shelters เพื่อการจัดบริการสวัสดิการสังคมแบบถาวรสำหรับคนไร้บ้าน โดยมีบริการให้คำปรึกษา แนะนำ ส่งเสริมสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการตรวจสุขภาพและการรักษาพยาบาล ด้านข้อมูลทะเบียนประวัติบุคคล การส่งเสริมการฝึกอาชีพ บริการจัดหางาน ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ที่ซักและที่ตากผ้า จุดรับบริจาคและแจกอาหารและสิ่งของ รวมถึงการประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการกลับคืนสู่ครอบครัวและชุมชน โดยพิจารณาใช้พื้นที่ของอาคารที่ทำการเอกสาร กองกลาง สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร บริเวณสะพานเฉลิมวันชาติ เขตพระนคร ซึ่งอยู่ระหว่างการขอจัดสรรงบประมาณ ขณะเดียวกันได้มีแนวทางดำเนินการจัดตั้งบ้านอิ่มใจในพื้นที่ของกรุงเทพฯ เพิ่มเติม และต้องพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อไป

นอกจากนั้น สพส.ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสวัสดิการและสนับสนุนให้กลุ่มคนไร้บ้านเข้าถึงสิทธิด้านต่าง ๆ อาทิ การฝึกอาชีพ การตรวจสุขภาพเบื้องต้น การรักษาพยาบาล การทำบัตรประชาชน การให้บริการขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ได้แก่ สำนักงานเขต สำนักเทศกิจ สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา สถานีตำรวจนครบาลในท้องที่ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศูนย์แม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิอิสรชน และมูลนิธิกระจกเงา เป็นต้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและให้การช่วยเหลือตามสภาพปัญหาแต่ละรายแก่คนเร่ร่อนไร้ที่พึ่ง ตลอดจนจัดทำฐานข้อมูล จัดเก็บข้อมูลการติดตามช่วยเหลือในรูปแบบ Google Forms จัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาคนไร้บ้าน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการคุ้มครองดูแลและจัดบริการสวัสดิการสังคมในด้านต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เขตปทุมวันมีคำสั่งหยุดกิจการร้านลาบเป็ดยโสรองเมืองลักลอบเปิดเป็นสถานบันเทิง

นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองตรวจจับร้านลาบเป็ดยโสรองเมือง ถนนพระราม 1 เนื่องจากลักลอบเปิดผับบนอาคารชั้น 2 และเปิดบริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนดว่า จากการตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการดังกล่าวมีหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ.2535 เปิดจำหน่ายอาหารบริเวณชั้น 1 ของอาคาร พื้นที่ 107 ตารางเมตร โดยที่ผ่านมาเมื่อปี 2566 สำนักงานเขตฯ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกรณีร้านอาหารก่อความเดือดร้อนรำคาญจากการเปิดเพลงเสียงดัง จำนวน 3 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ ได้ตรวจแนะนำและออกหนังสือแจ้งให้หามาตรการป้องกัน พร้อมมีหนังสือขอความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันกำกับดูแลตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกครั้ง ส่วนในปี 2566 ยังไม่มีเรื่องรับแจ้งร้องเรียนแต่อย่างใด

สำหรับกรณีการลักลอบประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทจัดตั้งสถานที่เต้นรำบริเวณชั้น 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต สำนักงานเขตฯ ได้เสนอออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นให้หยุดกิจการฯ และจัดส่งดำเนินคดีฐานไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 33 ใน พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ส่วนการออกคำสั่งปิด ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 สน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากต้องรอรายละเอียดจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครองที่จะส่งฐานความผิดที่เกี่ยวข้องมาให้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตฯ ได้ปิดประกาศคำสั่งให้หยุดดำเนินกิจการฯ บริเวณทางเข้าร้านลาบเป็ดยโสเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบเบื้องต้นกรณีอาคารดังกล่าวเปิดเป็นสถานบันเทิง ถือว่าเป็นกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 โดยถือว่าเป็นการใช้งานผิดประเภท ซึ่งจะได้ดำเนินคดีในส่วนนี้เพิ่มเติม รวมทั้งจะตรวจสอบรายละเอียดการต่อเติมดัดแปลงอาคารว่ามีการกระทำผิดในส่วนใดบ้าง หากพบมีการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ จะจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจสอบผู้ประกอบการสถานบันเทิงในพื้นที่เขต ทั้งอาคารสถานที่ตั้งมีการใช้งานผิดประเภท หรือต่อเติมดัดแปลงอาคารเปิดเป็นสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต หากประชาชนพบปัญหาการดัดแปลงอาคาร หรือส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้พักอาศัย สามารถติดต่อร้องเรียนได้ที่สำนักงานเขตปทุมวัน หรือ โทร.02 214 3004 หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไป

เขตสาทรเร่งแก้ไขแผ่นปูทางเท้า – ฝาท่อระบายน้ำปากซอยสาทร 11 ที่ชำรุด

นายชาติชาย กุละนำพล ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม.กล่าวกรณีมีผู้ร้องเรียนทางเท้าบริเวณหน้าปากซอยสาทร 11 แยก 10 อยู่ในสภาพชำรุด แผ่นปูทางเท้าและฝาท่อระบายน้ำแตก เกรงจะเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรไปมาว่า จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบบ่อพักท่อระบายน้ำทิ้งบริเวณด้านหน้าอาคารเลขที่ 205 – 206 ซอยสาทร 11 มีสภาพชำรุด ส่งผลให้ทางเท้าทรุดตัว สำนักงานเขตฯ จึงได้แจ้งเจ้าของอาคารเร่งแก้ไขให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ขณะเดียวกันได้ประสานสำนักการโยธา (สนย.) ผู้รับผิดชอบดูแลทางเท้าบริเวณดังกล่าว เพื่อพิจารณาอนุญาตให้สำนักงานเขตฯ ดำเนินการเสนอของบประมาณปรับปรุงทางเท้าตามรูปแบบที่ สนย.กำหนดต่อไป

เขตพระนครเพิ่มความถี่ทำความสะอาดทางเดินไปท่าเรือเทเวศร์ กำชับผู้เลี้ยงหมูไม่ปล่อยออกนอกพื้นที่

นายสัมฤทธิ์ สุมาลี ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม.กล่าวกรณีมีข้อวิจารณ์ทางเดินไปท่าเรือเทเวศน์สกปรก มีกองขยะบนทางเท้า ทั้งยังปล่อยหมูออกมานอกพื้นที่ อาจสร้างความเดือดร้อนให้ผู้สัญจรบริเวณดังกล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้ตรวจสอบและเร่งรัดแก้ไขปัญหาความสกปรกของพื้นที่บริเวณทางเดินไปท่าเรือเทเวศร์ โดยกำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ทำความสะอาดและจัดเก็บขยะเป็นประจำทุกวันตามระยะเวลาที่กำหนด ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวบรวมขยะใส่ถุงดำ มัดปากถุงให้เรียบร้อย และนำออกมาตั้งวางในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อรอการจัดเก็บ

นอกจากนั้น ยังได้กำชับผู้เลี้ยงหมูในบริเวณดังกล่าวไม่ให้ปล่อยหมูออกมานอกพื้นที่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และออกแบบตรวจแนะนำของเจ้าพนักงาน โดยให้ทำคอกล้อมควบคุมไม่ให้หมูออกมาในที่ หรือทางสาธารณะ และดูแลสุขลักษณะของหมูไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัยข้างเคียง