“ชัชชาติ” แจงการจัดระเบียบสายสื่อสารรกรุงรังเกี่ยวพันหลายหน่วยงาน ยันกทม.ประสาน กสทช.-กฟน.-NT ดำเนินการต่อเนื่อง ยุติโครงการท่อร้อยสาย ของเคที เช่าแพงกว่าหาลูกค้าไม่ได้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการจัดการเรื่องสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า บนเสาไฟฟ้า จะประกอบด้วย สายไฟฟ้าแรงสูง สายไฟฟ้าแรงต่ำ และสายสื่อสาร ความรกรุงรังที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นเพราะสายสื่อสาร ซึ่งมากกว่า 50% เป็นสายเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว ปกติค่าพาดสาย การไฟฟ้าคิดราคาอยู่ที่ 150-200 บาท/กิโลเมตร/เดือน ในการดำเนินการ กทม. ไม่สามารถสั่งให้ตัดสายหรือสั่งให้นำลงดินในทันทีได้ เนื่องจากมีหลายหน่วยงานดูแล ได้แก่ กสทช. ซึ่งมี พ.ร.บ.ควบคุม โดย กสทช.เป็นผู้จัดทำ แผนการจัดระเบียบสายสื่อสารและการ นำสายสื่อสารลงดิน รวมทั้งกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ ส่วน กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ สามารถเสนอ เส้นทางได้ และยังมี กฟน. ซึ่งอนุญาตให้พาดสายสื่อสารบนเสาและเป็น ผู้ดำเนินการหักเสานำสายไฟฟ้าลงดิน รวมถึง ผู้ให้บริการ ซึ่งจะต้องดำเนินการ ทำตามที่ กสทช.กำหนด และ NT ผู้ให้ บริการท่อร้อยสายสื่อสารและดำเนินการ วางท่อร้อยสายสื่อสาร
ที่ผ่านมา กทม.มีการหารือกับหน่วยงานดังกล่าวอยู่หลายครั้งเพื่อประสานงานในการจัดระเบียบสายสื่อสาร ซึ่งเบื้องต้นต้องเริ่มจากการตัดสายสื่อสารเก่าก่อน จะทำให้จำนวนสายสื่อสารน้อยลง เหลือเพียงสายที่ยังใช้งานอยู่ จากนั้นจึงเริ่มทยอยนำลงดิน
ส่วนโครงการเก่าของกทม. ที่ให้ KT (บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที) ดำเนินการ คนเข้าใจว่าไม่ได้ใช้เงินลงทุน จริงๆ แล้วไม่ได้ฟรี เพราะโครงการ KT นำสายสื่อสารลงดิน 2,000 กิโลเมตร ใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งค่าเช่าท่อที่ KT คิดกับผู้ประกอบการอยู่ที่ประมาณ 7,100 บาท/กิโลเมตร/เดือน แพงกว่า 1 เท่า ของค่าเช่าท่อของ NT หรือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีท่ออยู่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 3,216 บาท/กิโลเมตร/เดือน ทั้งนี้ KT ได้ดำเนินการนำสายสื่อสารลงดินไปแล้ว 9.9 กิโลเมตร ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งทับซ้อนกับท่อของ NT แต่ KT หาลูกค้าไม่ได้ การจะนำโครงการมาทำต่อจึงต้องคิดให้ดี เพราะไม่จำเป็นต้องมีโอเปอเรเตอร์ ที่ทำท่อหลายราย การดำเนินการต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน เพราะสุดท้ายค่าเช่าเหล่านี้ประชาชนเป็นคนจ่าย กทม.จึงมีแนวคิดยุติการดำเนินการ เนื่องด้วยต้นทุนสูง ไม่มีงบประมาณ ไม่มีอำนาจบังคับผู้ให้บริการมาใช้ท่อ ค่าเช่าท่อแพง แต่หากเป็นไปได้ ก็ให้ NT ทำ เพราะ NT มีท่ออยู่แล้ว ต้องพยายามคุยกันหาทางออก ขณะนี้ อยู่ระหว่างหารือกับหลายหน่วยงาน โดย กสทช.เป็นผู้วางแผนหลัก
สำหรับการดำเนินการที่ กสทช. ได้ร่วมกับผู้ประกอบการนำสายสื่อสารลงดินนั้น เสร็จไปแล้ว 30 กิโลเมตร โดยมีแผนดำเนินการ ปี 2566-2569 รวม 159.1 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่การไฟฟ้าฯดำเนินการหักเสาลงดิน ซึ่งยังไม่ได้เยอะ เนื่องจากการนำสายไฟฟ้าลงดินมีราคาแพงมาก ต้องใช้งบประมาณหลักพันถึงหมื่นล้าน ฉะนั้น เมื่อไรก็ตามที่การไฟฟ้าฯหักเสาเพื่อนำสายไฟฟ้าลงดินก็จะนำสายสื่อสาร ลงดินด้วย แต่การจะนำสายไฟฟ้าลงดินทั้งหมดเป็นพันกิโลเมตร การไฟฟ้าจะทำไม่ไหวเพราะราคาสูงมาก
อย่างไรก็ตาม กทม.ยังคง เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสาร ต่อเนื่อง โดยบางส่วนใช้วิธีการจัดระเบียบบางส่วนลงท่อของ NT และบางส่วนลงท่อที่กทม.ปรับปรุงทางเท้า ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่เพียงกทม.ดูแลเพียงหน่วยงานเดียว แต่เป็นการประสานงานร่วมกันของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บรรยายใต้ภาพ
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.
ที่มา: นสพ.แนวหน้า ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. 2566