นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกทม. โดยมีสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต เข้าร่วม ซึ่งที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าการจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย ตามนโยบาย 3 ระยะ โดยผลการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าในพื้นที่ กทม.มีการสรุปผลการตรวจจุดหาบเร่-แผงลอยของผู้ตรวจราชการ การจัดระเบียบพื้นที่และผู้ค้าบริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม
การจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ, การจับปรับรถยนต์บนทางเท้า ได้แก่ ผลการจับปรับ การตั้งจุดกวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืน การใช้เทคโนโลยี (AI) เตรียมจับรถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า, การดำเนินการป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย และการพัฒนาเพิ่มศักยภาพบุคลากรสายงานเทศกิจ พ.ศ. 2566
รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ได้กำชับให้ดำเนินการต่อเนื่องจริงจัง และสำนักงานเขตต้องทำความเข้าใจกับผู้ค้าในพื้นที่ยกเลิกจุดผ่อนผันในจุดต่าง ๆ เช่น โบ๊เบ๊ และแนวริมคลองผดุงกรุงเกษม เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และคืนทางเท้าให้ประชาชน
ทั้งนี้ หากจุดใด ที่ยกเลิกเป็นจุดผ่อนผันแล้ว จะไม่ให้มีการกลับมาทำการค้าใหม่ รวมถึงช่วยเหลือหาพื้นที่ทำการค้าให้ ผู้ค้าใหม่ หากเสียค่าเช่าพื้นที่ก็ให้เสียในราคาไม่แพง สามารถทำการค้าในระยะยาว หรือระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่ระยะสั้น และจุดใดที่จะนำผู้ค้าออกก็ให้นำออกทั้งหมดไม่ใช่ไปแค่บางส่วน
รองผู้ว่าฯ กทม. ยังระบุถึงป้ายโฆษณาต่าง ๆ ได้ให้มีการถ่ายรูปส่งให้ฝ่ายรายได้ประเมินว่าต้องเสียภาษีป้ายหรือไม่ เพราะบางป้ายอาจเข้าข่ายต้องเสียภาษีป้ายเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเสียเพียงค่าปรับจากการติดตั้งป้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 16 มิ.ย. 2566 (กรอบบ่าย)