นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึง กรณีพนักงานดับเพลิงร้องเรียน ว่าปฏิบัติหน้าที่เกินเวลาและไม่ได้รับค่าตอบแทนทำงานล่วงเวลา (โอที) ว่า ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งลงไปตรวจสอบทำให้เข้าใจถึงปัญหาและทราบว่าเป็นเรื่องของการอยู่เวร ซึ่งมีระเบียบเข้าเวร 3 กะ พัก 1 กะ แต่อาจจะมีจำนวนสถานีที่เพิ่มขึ้น จึงได้มอบหมายไปดูแลให้เกิดความเป็นธรรม ทั้งนี้ กทม.มีสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงานก.ก.) ดูแลข้าราชการ
ส่วนจะต้องรื้อระบบใหม่หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ระบบมีอยู่แล้ว แต่กทม.ต้องดูแลทีมงาน ในเรื่องดับเพลิงที่ผ่านมาอาจจะมีสถานีใหม่ และสำนักงาน ก.ก.อาจจะยังไม่ทราบ จึงยังไม่ได้ปรับจำนวนบุคลากร
ผู้ว่าฯ กทม. ระบุ เข้าใจว่าขณะนี้อัตราพนักงานดับเพลิงยังขาด ซึ่งจะพยายามเพิ่มกำลัง โดยดับเพลิงเองก็ใช้อาสาสมัครเอกชนมาร่วมด้วย จึงต้องทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพิ่มสถานีดับเพลิง เพราะหากพิจารณาอัตราส่วนสถานีดับเพลิงปัจจุบันยังมีน้อยอยู่ เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ ๆประเทศอื่น ขณะนี้มีหลายสถานีที่กำลังก่อสร้าง แต่อัตรากำลังไปไม่ทันกับสถานี
“ปัญหาหนึ่งของ กทม. ที่มีอยู่คือ ติดกรอบอัตรากำลัง 40% ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ที่กำหนดเงินที่ใช้สำหรับบุคลากรห้ามเกิน 40% ของงบประมาณ ตอนนี้ก็อยู่ใกล้ ๆ แล้ว ฉะนั้น การเพิ่มอัตราจึงต้องดูให้รอบคอบ”
ทั้งนี้ เบื้องต้นมอบหมายรองผู้ว่าฯ ไปศึกษาว่าในอนาคตจุดใดที่ปรับลดได้ หน่วยงานใดใช้เทคโนโลยีทดแทนได้ ซึ่ง ไม่ใช่การนำคนออก แต่ใช้วิธีเมื่อมีคนเกษียณจะไม่ต้องมีคนเพิ่ม แต่นำเทคโนโลยีไปช่วย เพื่อให้คนทำงานให้มีประสิทธิภาพขึ้น ลดจำนวนคนลง แล้วก็ไปเพิ่มในส่วนที่ต้องใช้คนจริง ๆ อย่างสาธารณสุขหรือครูก็จำเป็น เพราะเป็นเรื่องพื้นฐานที่พยายามเน้นมาตลอด ก็พยายามเกลี่ยให้ทั้งระบบ.
ที่มา: นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 8 มิ.ย. 2566 (กรอบบ่าย)