“เรากำลังจะส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า Pride Month ไม่ได้เป็นแค่การเดินพาเหรด แต่เป็นคุณค่าที่เราเชื่อร่วมกันทั้งสังคม” สิ้นเสียงของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสียงโห่ร้องที่แสดงถึงความยินดีก็ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ พร้อมกับเสียงปรบมือที่ดังเกรียวกราว ประโยคเมื่อสักครู่นั้นราวกับเป็นการจุดไฟแห่งความหวังให้กับผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ต่างมารวมตัวกัน ณ สถานที่แห่งนี้ด้วยความปรารถนาเดียวกันคืออยากจะเห็น ‘ความเท่าเทียม’ เกิดขึ้นในสังคมไทย บริเวณตั้งแต่แยกปทุมวัน จนถึงแยกราชประสงค์
เป็นการเฉลิมฉลอง Pride Month ปี 2023 อย่างจัดเต็ม อลังการ!
ไม่ใช่เพียงแค่เหล่า LGBTQIAN+ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเพศอื่นๆ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เข้าร่วมกิจกรรมและร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ถึงข้อเรียกร้องต่างๆ บนถนนที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยธงสีรุ้งแห่งนี้ เป็นภาพที่ทำให้เกิดความรู้สึกตื้นตันใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ‘พวกเขาไม่ได้สู้อยู่กลุ่มเดียว’ แต่ยังมีผู้คนอีกมากมายนับแสนที่พร้อมต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมไปด้วยกัน
“การจัดงานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองเพื่อผู้ที่มีความ หลากหลายทางเพศเท่านั้น แต่ยังส่งต่อความรัก รวมทั้งพลังให้กันและกัน พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นว่าชาว LGBTQIAN+ ซึ่งประกอบไปด้วยอาชีพหลากหลาย สามารถที่จะช่วยเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้” วาดดาว ชุมาพร แต่งเกลี้ยง ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้
เมื่อเวลาของความสนุกเริ่มต้นขึ้น ธงสีรุ้งที่ยาว 144.8 เมตร เป็นตัวเลขที่มีความหมายจากการเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขกฎหมายมาตรา 1448 สมรสเท่าเทียม โบกสะบัดมาตั้งแต่เริ่มต้นขบวนพาเหรด พร้อมให้เหล่า LGBTQIAN+ ได้มาร่วมเดินเคียงข้างธงสีรุ้งแห่งความหวังนี้ไปตลอดเส้นทาง
โดยเป็นการเดินขบวนอย่างสร้างสรรค์ทั้งสิ้น 6 ขบวน ครั้งนี้มาพร้อมกับแนวคิด ‘สุขภาวะของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIAN+ well-bing)’ ความน่าสนใจของขบวนพาเหรด คือ มีการยกข้อเรียกร้องต่างๆ มาเป็นประเด็นหลักของแต่ละขบวนแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีแนวเพลงประจำขบวนที่ล้วนถูกแบ่งแยกจากสังคม ไม่ว่าจะเป็น ร็อก หมอลำ เคป๊อป ฮิพฮอพ หรือแม้กระทั่งเพลงป๊อบในปัจจุบันที่ถูกแบ่งแยกจากคนบางกลุ่ม เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกขบวน
ชนิดที่ทุกคนต้องร้อง ‘ว้าว’ ให้กับความคิด สร้างสรรค์อย่างอลังการ พิเศษสุดเพื่อการ เฉลิมฉลองในครั้งนี้
ขบวน Community (ชุมชน)
เริ่มต้นความยิ่งใหญ่ตั้งแต่ขบวนแรก นำทีมโดย Drag Queen ที่มาพร้อมกับชุด และเมกอัพสุดอลังการ ไม่พลาดที่จะหยิบยกประเด็น Gender X มาพูดถึง เพื่อนำเสนอความต้องการด้านสิทธิการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศที่รวมไปถึงกลุ่ม Intersex Trans และ Non-binary ของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย พร้อมกับเปิดเพลงป๊อบคลอไปกับขบวน
ขบวน Purpose (เจตจำนง)
เมื่อทีมคาบาเรต์ยกขนนกโบกสะบัดร่วมเดินในขบวนที่ 2 และต้องการสะท้อนถึง My Body My Choice รณรงค์ให้ยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี เพื่อคืนสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพให้กับพนักงานบริการ และ Sex Creator รวมถึงการสนับสนุนเซ็กซ์ทอยให้ถูกกฎหมาย ไม่เพียงเท่านี้ยังครอบคลุมไปถึงการสนับสนุนเรื่องเพศศึกษาในโรงเรียน รณรงค์การมีสิทธิในร่างกาย โดยหยิบยกแนวเพลงฮิพฮอพมาร่วมแสดงในขบวน และเพิ่มสีสันด้วยกองสันทนาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ขบวน Relationship (ความสัมพันธ์)
เป็นขบวนที่รวมตัวคู่รัก LGBTQIAN+ มากที่สุดในงาน เพื่อแสดงถึงพลังแห่งความรัก รวมถึงสะท้อนเรื่อง Chosen family (กลุ่มคนที่ผูกพันอย่างลึกซึ้ง โดยไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด) เพื่อรณรงค์ให้สังคมยอมรับความหลากหลายของความสัมพันธ์ เพื่อนำไปสู่การรับรองสิทธิการก่อตั้งครอบครัวในกฎหมายสมรสเท่าเทียม และรัฐธรรมนูญ โดยนำแนวเพลงที่ได้ยินเป็นต้องโยกสะบัดอย่างหมอลำมาใช้ประกอบขบวนอีกด้วย
ขบวน Environment (สิ่งแวดล้อม)
หูเคลือบทองไปกับเสียงร้องจาก Bangkok Gay Men’s Chorus คณะประสานเสียงเกย์ชายวงแรกของประเทศไทย ซึ่งร่วมสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถ และศักยภาพของชุมชน LGBTQIAN+ รวมถึงคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ เพื่ออนาคตที่เท่าเทียมและเป็นธรรมสำหรับทุกเพศ ทุกคน โดยมีการนำนกสีขาวมาปล่อยเพื่อแสดงให้เห็นถึงสันติภาพ พร้อมเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะอันนุ่มนวลของเพลงแจ๊ซ
ขบวน Health (สุขภาพ)
เป็นขบวนที่รวบรวมกองทัพนักแสดงในวงการบันเทิงที่ร่วมใจเดินขบวนเพื่อสร้างสีสัน และเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องการสะท้อนไปยังการเข้าถึงสิทธิทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม โดยรณรงค์ให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม รวมไปถึงเรียกร้องสวัสดิการยืนยันเพศสำหรับบุคคลข้ามเพศ ซึ่งนำเสนอผ่านเพลง เคป๊อป, ทีป๊อป และเจป๊อป
ขบวน Security (ความปลอดภัย)
ปิดท้ายขบวนพาเหรดอย่างสมศักดิ์ศรี เป็นขบวนที่เรียกความสนใจของมวลชนมากที่สุด เนื่องจากเป็นการรวมตัวของ ‘ตัวจี๊ด’ ในแวดวงการเมือง ไม่ว่าจะเป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มาในลุคเสื้อหลากสีสัน ขณะ แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยก็ไม่น้อยหน้า สวมเสื้อสีสันแวววาว ขโมยความสนใจได้ไม่น้อย และ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พาร์ตเนอร์คนสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ กับลุคเสื้อเชิ้ต สีขาวที่คุ้นเคย
แต่พิเศษที่ในวันนี้คาดด้วยสายสะพายสีรุ้งเพิ่มสีสัน เห็นนักการเมือง อุ่นหนาฝาคั่งเต็มขบวนอย่างนี้ คงหนีไม่พ้นการบอกเล่าถึงความปลอดภัยของ LGBTQIAN+ ผ่านการสนับสนุน และอำนวยความสงบ ปลอดภัยจากทุกภาคส่วน รวมถึงเสรีภาพในการแสวงหาความสงบสุขทางจิตวิญญาณ รณรงค์ให้มีการเปิดกว้างทางศาสนาสำหรับทุกเพศ โดยนำเพลงร็อกเข้ามาสร้างความหนักแน่น ให้แก่ขบวนแห่งความหนักแน่นนี้ ที่ได้นำมาสร้างสีสันให้กับขบวนตลอด เส้นทาง
ธงสีรุ้งที่ถูกโบกสะบัดพร้อมกับความหวังที่อยากเห็นสังคมเปลี่ยนแปลงนั้น ยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางโลกปัจจุบันที่ ‘เริ่ม’ โอบรับความหลากหลายมากยิ่งขึ้น กับกิจกรรมในครั้งนี้ ณ พื้นที่แห่งความหลากหลาย ที่รวบรวมผู้คนที่มีความปรารถนาเดียวกัน
ไม่ใช่เพียงแค่ LGBTQIAN+ แต่รวมไปถึง ‘ทุกคน’ ที่ต้องการต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม และความไม่เท่าเทียมในสังคม
ผู้คนเหล่านี้จะเป็นบันไดสำคัญที่พร้อมจะนำประเทศไทย ไปสู่การเป็น เจ้าภาพงานระดับโลก World Pride 2028 เพื่อเป็นจุดหมายปลายทาง เป็น แสงสว่างของ LGBTQIAN+ จากทั่วโลก และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มี ความหลากหลายทางเพศ และเมื่อไฟแห่งความหวังถูกจุดขึ้น
แม้จะเป็นเพียงประกายไฟเล็กๆ แต่กลับส่องสว่างในหัวใจของผู้คน ณ ที่แห่งนี้มากเหลือเกิน
ที่มา: นสพ.มติชน ฉบับวันที่ 7 มิ.ย. 2566 (กรอบบ่าย)