นางสาวศุภร คุ้มวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม.กล่าวถึงการดำเนินมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียนสังกัด กทม.เพื่อป้องกันผลกระทบจากร้านจำหน่ายกัญชาว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนศ.ได้มีหนังสือขอความร่วมมือสำนักงานเขตแจ้งโรงเรียนในสังกัดทุกโรงเรียนต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีการตรวจตราบุคคลที่ผ่านเข้า-ออกในแต่ละวัน ขณะเดียวกันให้สำนักงานเขตจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยในช่วงเช้าก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียน รวมถึงตรวจสอบการวางจำหน่ายกัญชา กัญชง บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณโดยรอบสถานศึกษาและในสถานที่สาธารณะ เพื่อคุ้มครองนักเรียนในโรงเรียนและประชาชนรอบโรงเรียน ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถานีตำรวจในพื้นที่และศูนย์บริการสาธารณสุขป้องกันอันตรายจากกัญชา กัญชง บุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้า

นอกจากนั้น ยังได้แจ้งมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายา หรือสารเสพติดในโรงเรียนสังกัด กทม.ให้สำนักงานเขตและโรงเรียนในสังกัดรับทราบและดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งประกาศ กทม.เรื่องการเฝ้าระวังปัญหาที่เกิดจากการใช้กัญชา หรือกัญชงในนักเรียนโรงเรียนสังกัด กทม.ให้ทราบและขอความร่วมมือสำนักงานเขตแจ้งโรงเรียนในสังกัดทราบและถือปฏิบัติ เพื่อให้โรงเรียนสังกัด กทม.เป็นพื้นที่ “ปลอดกัญชา หรือกัญชง” งดจำหน่ายอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา หรือกัญชงภายในโรงเรียนสังกัด กทม.และห้ามโฆษณาอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา หรือกัญชงภายในโรงเรียนสังกัด กทม.โดยให้โรงเรียน คณะผู้บริหาร ครู และนักเรียนแกนนำประสานความร่วมมือกับเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ชุมชน และขอความร่วมมือร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่มบริเวณโดยรอบโรงเรียนปฏิบัติตามประกาศ กทม.งดการจำหน่ายอาหาร ขนม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา หรือกัญชง เพื่อป้องกันอันตราย หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับนักเรียนจากการรับประทานอาหารที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม รวมถึงกวดขันและติดตามดูแลนักเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกัญชา หรือกัญชง พร้อมทั้งดูแลสังเกตพฤติกรรมนักเรียนที่อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงและวางแผน เพื่อรับมือการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นางสาวอัญชนา บุญสุยา ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม.กล่าวกรณีประชาชนร้องเรียนทางเท้าบริเวณถนนศรีเวียง เขตบางรัก มีหนูจำนวนมากขึ้นมากินเศษอาหารจากผู้ค้าที่ไม่ทำความสะอาดพื้นที่ค้าขายว่า สำนักงานเขตฯ ได้กำชับและขอความร่วมมือผู้ค้าบริเวณดังกล่าวให้รักษาความสะอาดและทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกเวลา ตามที่ กทม.กำหนด ขณะเดียวกันได้เพิ่มรอบความถี่การทำความสะอาดทางเท้าบริเวณจุดที่มีการค้าขายทั่วพื้นที่เขต เพื่อให้ภูมิทัศน์มีความสะอาดเรียบร้อยมากขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานเขตฯ ได้จัดอบรมด้านการสุขาภิบาลอาหารให้กับผู้จำหน่ายอาหารริมบาทวิถีเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบจุดทำการค้าริมบาทวิถี เพื่อกำชับผู้ค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สุขลักษณะการจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี ทั้งด้านสุขลักษณะและคุณภาพอาหาร ซึ่งจะนำผลการตรวจสอบมาใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตในปีต่อไป โดยจะเข้มงวดกวดขันร้านค้าที่จำหน่ายอาหารภายในที่พัก ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้า ซึ่งห้ามถ่ายเทน้ำ เศษอาหาร ไขมัน สิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยลงบนพื้น หรือลงท่อ หรือทางระบายน้ำสาธารณะ

นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวว่า สนอ.มีมาตรการตรวจสอบด้านสุขอนามัยของร้านจำหน่ายอาหารบนทางเท้าและหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ทำการค้าที่ กทม.ประกาศอนุญาต โดยร่วมกับสำนักงานเขตฯ ดังนี้ (1) ตรวจสอบสุขลักษณะการจำหน่าย ซึ่งผู้ที่จะทำการค้าจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี ต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ผู้ค้าและผู้สัมผัสอาหารทุกรายต้องผ่านการอบรมด้านการสุขาภิบาลอาหารตามหลักสูตรของ กทม.และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สุขลักษณะการจำหน่ายอาหารริมบาทวิถี เช่น แผงค้าอาหารต้องสูงจากพื้น 60 ซม. มีการปกปิดอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ผู้ค้าต้องสวมหมวกคลุมผม ผ้ากันเปื้อน และต้องใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหาร ไม่พูดคุย ไอ จามรดอาหาร มีถังขยะรองรับมูลฝอย/เศษอาหารที่ถูกสุขลักษณะ มีขนาดเหมาะสม ไม่รั่วซึม มีถุงพลาสติกรองรับข้างในอีกชั้น มีฝาปิดป้องกันแมลงและสัตว์นำโรค รวมทั้งปฏิบัติตามประกาศ กทม.เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขาย หรือจำหน่ายสินค้าในที่ หรือทางสาธารณะ โดยกำหนดห้ามถ่าย เท น้ำ เศษอาหาร ไขมัน สิ่งปฏิกูล หรือมูลฝอยลงบนพื้น หรือลงท่อ หรือทางระบายน้ำสาธารณะโดยเด็ดขาด และหยุดทำการค้าสัปดาห์ละ 1 วัน เพื่อล้างทำความสะอาดพื้นที่ทำการค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต จะตรวจสอบแนะนำให้ผู้ค้าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อยู่เสมอ (2) ตรวจสอบคุณภาพอาหาร โดยสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารเพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเคมีอันตรายปนเปื้อนในอาหาร จุลินทรีย์ และเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรียในอาหาร รวมทั้งตรวจความสะอาดของภาชนะอุปกรณ์ และมือผู้สัมผัสอาหาร (3) ส่งเสริมให้ผู้ค้าเข้ารับการอบรมการสุขาภิบาลอาหารตามหลักสูตรของ กทม. (4) ให้การรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัย โดยมอบป้ายรับรองมาตรฐานอาหารปลอดภัยของ กทม.ให้กับร้านที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานอาหารปลอดภัยของ กทม. และ (5) ประชาสัมพันธ์เผยแพร่สื่อให้ความรู้ด้านการสุขาภิบาลอาหารแก่ผู้ค้าและประชาชนผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ของหน่วยงาน เช่น เว็บไซต์ เพจเฟซบุ๊ก เป็นต้น

นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม.กล่าวถึงการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันผู้ค้าและร้านค้าบริเวณชุมชนและรอบสถานศึกษา ซึ่งอาจจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ขนมที่มีส่วนผสมของกัญชาและสารเสพติดอื่น ๆ ว่า สนท.ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเขต สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ในการควบคุมการจำหน่ายกัญชามาอย่างต่อเนื่อง หากเป็นผู้ค้าแผงลอยที่ทำการค้าในที่ หรือทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุม กำกับ ตรวจสอบทุกวัน โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายสินค้าในบริเวณดังกล่าว จะต้องจำหน่ายสินค้าให้เป็นไปตามประเภทที่ได้ขออนุญาตไว้กับ กทม.เท่านั้น และตามประกาศ กทม.เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขาย หรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ ไม่สามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ยาสูบ สินค้าผิดกฎหมาย สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไปวางขาย หรือจำหน่ายในพื้นที่ทำการค้า อีกทั้งร่วมกับสำนักงานเขตจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจตรา กวดขันประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการขาย หรือจำหน่ายกัญชาในที่สาธารณะ หากมีผู้ฝ่าฝืนให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และอาจถูกเพิกถอนสิทธิการทำการค้า ขณะเดียวกันได้สำรวจร้านจำหน่ายกัญชาบริเวณใกล้สถานศึกษาและโรงเรียนในสังกัด กทม.ตลอดจนร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งอาจมีการจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มขนมที่มีส่วนผสมของกัญชาและสารเสพติดอื่น ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำการควบคุมการจำหน่ายกัญชา หรือผลิตภัณฑ์จากกัญชาให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ห้ามจำหน่ายกัญชาให้กับนักเรียน นิสิต หรือนักศึกษา หรือบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 20 ปี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542

นอกจากนี้ จากการตรวจพื้นที่ซอยสุขุมวิท 13 พบมีการจำหน่ายกัญชาในลักษณะรถเร่ คล้ายกับ Food Truck จำนวน 5 คัน ถือเป็นความผิดตามมาตรา 20 (3) แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ซึ่งห้ามขาย หรือจำหน่ายสินค้า ซึ่งบรรทุกบนรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนถนน หรือในสถานสาธารณะ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 54 อีกทั้งยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ฐานจำหน่ายสินค้าในที่ หรือทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 41 วรรคสอง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามมาตรา 77 อย่างไรก็ตาม สนท.ได้ประสานสำนักงานเขตพื้นที่ เพื่อตรวจตรา กวดขันไม่ให้มีการขาย หรือจำหน่ายกัญชาบนรถยนต์บริเวณซอยสุขุมวิท 13 และในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ หากฝ่าฝืนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด