นายภาณุมาศ สุขอัมพร ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า กทม.มีการจัดอบรมผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อทำความเข้าใจในผู้พิการประเภทต่าง ๆ รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการแต่ละประเภทโดยไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไม่มีข้อกังวล เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งใน กทม. มีจำนวนมาก กระจายตัวใกล้บ้านประชาชนครอบคลุมพื้นที่ กทม. ประกอบกับเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ โดยเน้นการดูแลตั้งแต่การเข้าคูหาตลอดจนกาบัตรเลือกตั้ง เช่น ผู้พิการทางสายตา กทม.ได้จัดเตรียมบัตรทาบ หรือหากเซ็นชื่อเองไม่ได้ จะใช้วิธีพิมพ์ลายนิ้วมือ หากมีผู้ช่วยติดตาม กฎหมายอนุโลมให้ผู้ช่วยสามารถช่วยพับบัตรเลือกตั้งให้ได้ โดยไม่มีการชี้นำการเลือกผู้สมัคร

นายภาณุมาศ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้พิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ สามารถแสดงเจตจำนงให้เจ้าหน้าที่ประจำคูหาช่วยได้ทุกขบวนการตั้งแต่เริ่มเข้าคูหาตลอดจนกาเบอร์ที่ต้องการ โดยเจ้าหน้าที่จะบันทึกการช่วยเหลือผู้พิการไว้ทั้งหมด ตลอดจนรายละเอียดของผู้พิการ เพื่อการตรวจสอบและป้องกันปัญหาการร้องเรียนภายหลัง สิ่งสำคัญคือ ผู้พิการต้องแสดงเจตจำนงให้ชัดเจนว่าต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยเรื่องใดบ้าง หรือต้องการใช้ช่วยทั้งหมด

อาทิ ต้องการให้ช่วยพับบัตรเลือกตั้งเท่านั้น ต้องการให้ช่วยขยับเก้าอี้ ต้องการให้หย่อนบัตร หรือต้องการให้กาเบอร์ที่ต้องการให้ ขึ้นอยู่กับเจตจำนงและระดับความพิการต่าง ๆ ซึ่งผู้พิการทุกประเภทสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีผู้ติดตามหรือไม่ เนื่องจาก กทม.จัดเตรียมเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกไว้แล้ว

สำหรับผู้พิการด้านสติปัญญาสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เช่นกัน แต่ต้องได้รับการฝึกและแนะนำจากผู้ดูแลมาก่อนเข้าคูหา เพื่อให้เข้าใจบัตรเลือกตั้งต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนและระเบียบในการเลือกตั้ง ไม่อนุญาตให้ผู้ติดตามมานัดแนะผู้พิการทางสติปัญญาที่คูหาเลือกตั้ง เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นช่องว่างในการชี้นำการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ในวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. ผู้ที่อาศัยอยู่ใน กทม. และลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว สามารถไปลงคะแนนใช้สิทธิได้ที่สถานที่เลือกตั้งกลาง สำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ 2 แห่ง คือ บ้านบางแค 1 เขตภาษีเจริญ และบ้านบางแค 2 เขตบางแค ส่วนในวันที่ 14 พ.ค. สามารถเลือกตั้งได้ ณ หน่วยเลือกตั้งที่ตนเองมีชื่ออยู่ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

ที่มา:  นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 พ.ค. 2566 (กรอบบ่าย)