กทม. – เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่โรงแรมเดอะทวิน ทาวเวอร์ เขตปทุมวัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมวิชาการ Bangkok Health Zoning โดยมี น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. คณะผู้บริหารกทม. ผู้บริหารกรมการแพทย์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.ศิริราช ผู้แทน 50 สำนักงานเขต ร.พ.สังกัดกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ภาคีเครือข่าย และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายชัชชาติกล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.มีปัญหาคือ มีศูนย์การแพทย์ชั้นนำระดับโลกอยู่ที่กรุงเทพฯ ทั้งโรงเรียนแพทย์ ร.พ.ของกระทรวงสาธารณสุข ร.พ.เอกชน ร.พ.หน่วยงานรัฐต่างๆ ร.พ.กทม. ศูนย์บริการสาธารณสุข ร้านขายยา คลินิกต่างๆ แต่หัวใจสำคัญคือขาดการประสานงานที่เข้มแข็ง กทม.ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านต้องมาดูแลในเรื่องนี้ โดยจะแบ่ง แบงค็อก เฮลท์ โซนนิ่ง เป็น 7 โซน เนื่องจากกรุงเทพฯ มีประชากรจำนวนมาก และมีเครือข่าย มีโรงพยาบาล และมีความแตกต่างหลากหลายแต่ละพื้นที่ หากทำเป็นโซนเดียวอาจไม่มีคำตอบเบ็ดเสร็จสำหรับทุกพื้นที่
ทั้งนี้ การแบ่งออกเป็นโซนย่อย 7 โซนทำให้แบ่งทรัพยากร และปรับคำตอบให้ตรงกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ได้ รวมทั้งนำบทเรียนของแต่ละโซน ทั้งสำเร็จและล้มเหลว นำไปเป็นบทเรียนให้กับคนอื่นได้ แต่ถ้าทั้งหมดเป็นโซนเดียว ความล้มเหลวหรือความสำเร็จ บางครั้งกว่าจะพบอาจมีผลกระทบในระดับใหญ่
“เป็นนิมิตหมายดีที่ภาคีจากภาคส่วนอื่นนอกเหนือ จากกทม.มาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทาง ร.พ.ศิริราช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร้านขายยา และอีกหลายหน่วยงาน ที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำให้การบริการสาธารณสุขครอบคลุม หัวใจหลักมี 2 ข้อ คือ การมีเครือข่ายที่เข้มแข็งการประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเชื่อว่าเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในภายในปีหน้า การทำ แบงค็อก เฮลท์ โซนนิ่ง จะเห็นการร่วมมือร่วมใจกันและตอบโจทย์พี่น้องประชาชนได้ดีขึ้น” นายชัชชาติกล่าว
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 28 เม.ย. 2566