ตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริงเทศกิจเขตพระนครเอี่ยวเรียกรับเงินผู้ค้าถนนข้าวสาร
จากกรณีที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยถนนข้าวสาร โดยขอเข้าพบเพื่อชี้แจงรายละเอียดและส่งมอบข้อมูลหลักฐานพร้อมนำพยานผู้ค้ามาชี้แจงร่วม กรณีถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินผู้ค้าบนถนนข้าวสาร รวมถึงร้องเรียนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนคร ในเรื่องนี้
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนครและผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีถูกร้องเรียนว่า ชมรมผู้ค้าแผงลอยถนนข้าวสารมีการเรียกเก็บเงินสมาชิกผู้ประกอบการรายละ 5,000 บาท โดยอ้างว่าต้องนำไปจ่ายเทศกิจที่ดูแลพื้นที่ถนนข้าวสาร ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนรับไม่ได้หากมีเจ้าหน้าที่ของ กทม.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต ทั้งนี้ จาการพูดคุยกับนางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยถนนข้าวสาร พบว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้ค้ารายเก่า 70% ปิดร้านในช่วงวันหยุด อาจมีการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นสวมสิทธิ์เข้าไปขายแทน โดยอ้างว่าต้องจ่ายค้าแผงให้ชมรมผู้ค้าแผงลอยถนนข้าวสาร จำนวน 5,000 บาท เพื่อให้ชมรมฯ นำไปจ่ายเทศกิจในพื้นที่ต่อไป โดยนางสาวญาดา ให้ข้อมูลว่า ได้รับความเสียหายจากการร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งชมรมฯ ก่อตั้งมา 15 ปี ไม่เคยเรียกรับเงินหรือกระทำเรื่องทุจริต อีกทั้งยังปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กทม.มาโดยตลอด พร้อมยื่นหลักฐานระบุว่า ฝ่ายเทศกิจ 2 คน เป็นผู้เกี่ยวข้องเรียกรับเงินกับผู้ประกอบการ โดยร่วมกับผู้ประกอบการที่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นสวมสิทธิ์มาขายในพื้นที่ช่วงสงกรานต์ นำชื่อชมรมฯ ไปอ้างเพื่อหาประโยชน์ร่วมกัน
นายจักกพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ค้าแผงลอยในพื้นที่ถนนข้าวสารต้องลงทะเบียน และมีคิวอาร์โค้ดสำหรับตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของแผงจริง ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลยืนยันตัวตน รวมถึงภาพใบหน้าเจ้าของแผงที่ชัดเจน กรณีการสวมสิทธิ์เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านคิวอาร์โค้ดดังกล่าว แต่หากเจ้าหน้าที่รู้เห็นร่วมกันทุจริตกับผู้ประกอบการ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเข้มข้น เพราะถือเป็นเรื่องขัดต่อนโยบายโปร่งใส ไม่ทุจริต ของ กทม. อย่างไรก็ตาม การตั้งคณะกรรมการสอบสวนกำหนดแล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ที่มา: นสพ.สยามรัฐ ฉบับวันที่ 27 เม.ย. 2566