กทม.2ดินแดง – เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่อาคารธานีนพรัตน์ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวดิ่งระหว่างผู้บริหารสำนักพัฒนาสังคมกับหัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม 50 สำนักงานเขต ครั้งที่ 1 ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการเชื่อมข้อมูลระหว่าง สำนักพัฒนาสังคม (สพส.) สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง และสำนักงานเขต โดยมอบหมายให้ สพส. รวบรวมจัดเก็บข้อมูล เพื่อทำฐานข้อมูลกลาง เพื่อจะได้ดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง คาดว่าภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ จะได้ข้อมูลครบทั้ง 2,017 ชุมชน
สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนของกทม.ปัจจุบันมี 274 แห่ง จริงๆ แล้วเกือบทุกชุมชนมีที่พักเด็กเล็กอยู่แล้ว แต่ขนาดอาจไม่เหมาะสม จึงให้ทำเป็นศูนย์เด็กเล็กขนาดพิเศษที่กทม. ซึ่งปัจจุบันได้ข้อมูลมา 31 แห่ง แต่เชื่อว่าน่าจะมีเด็กเล็กที่ยังไม่ได้เข้าระบบอีกจำนวนมาก
ด้านการฝึกอาชีพมอบหมายสพส.จัดทำเว็บไซต์ฐานกลางเพื่อให้แสดงรายละเอียดผู้ที่ผ่านการอบรมทั้งหมด ขณะเดียวกันให้เขตประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการที่สนใจจ้างงานผู้ที่ผ่านการอบรมทราบต่อไป
“ปีหน้าจะจ้างงานคนพิการเพิ่ม 690 คน ทำงานในหน่วยงานของกทม. 69 แห่ง แห่งละ 10 คน โดยทำหน้าที่เป็นแอดมิน ซึ่งกทม.ได้ทำระบบไลฟ์แช็ตขึ้นมาให้คนพิการทำงานที่บ้านได้ ไม่ต้องมาที่สำนักงานเขต เนื่องจากบางคนเดินทางลำบาก นอกจากนี้ในระบบจะมีสวัสดิการต่างๆ ซึ่งผู้พิการแอดไลน์โอเอ “กรุงเทพเพื่อทุกคน” หรือ “bangkok for all” แล้วจะได้สวัสดิการต่างๆ ที่เอกชนสนับสนุน” นายศานนท์กล่าว
ขณะที่ โครงการ Food Bank เป็นหนึ่งในนโยบายที่ได้กำหนดไว้ เป็นการนำอาหารส่วนเกินมาแบ่งปันให้กับผู้ที่ขาดแคลนหรือกลุ่มเปราะบาง ขณะนี้เริ่มไปแล้ว 2 เขต ได้รับความร่วมมือจากร้านสะดวกซื้อ อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส ส่งอาหารมาให้ชุมชนคาดว่าจะขยายเป็น 10 เขต ภายในเดือนพ.ค.นี้ และจะขยายให้ครบ 50 เขตต่อไป นอกจากนี้ได้หารือเรื่องกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) คล้ายบำนาญในอนาคต คือออมได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี แล้วทางกองทุนสมทบเพิ่ม ปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ 58,000 คน ปีนี้มีเป้าหมายเพิ่มอีก 50,000 คน ภายในสิ้นปี 2566
ที่มา: นสพ.ข่าวสด ฉบับวันที่ 19 เม.ย. 2566